คอลัมนิสต์

ใครจะมาเป็น 'รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ' พี่เลี้ยงเด็กพิเศษ กินจุ เอาแต่ใจคนนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใครจะเป็น 'รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ' พี่เลี้ยงของเด็กหัวโต กินจุ เอาแต่ใจคนนี้ เวลาที่ผ่านมา เราเลี้ยงเด็กผิดวิธีทำให้มีแต่ผลร้าย ใครกันแน่รังแกฉัน บทวิเคราะห์ โดย ชัยวัฒน์ ปานนิล

ทันทีที่มีข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการขาดคุณสมบัติ ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) เป็นสมาคมวิชาชีพครูสมาคมแรกที่ออกแถลงการณ์ เรื่อง คุณสมบัติที่จำเป็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดใจ 'ณัฏฐพล-อดีตรมว.ศธ.' หลังได้รับอิสรภาพ

โดยให้เหตุผลว่า กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญ แห่ง ราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 มาตรา 45 กำหนดให้ไว้ เพื่อการพัฒนาประเทศ พัฒนาวิชาชีพครูและส่งเสริมภูปัญญาท้องถิ่นศิลปะ และวัฒนธรรมของชาติ

เพื่อใช้เป็น เครื่องมือในการหล่อหลอมพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ให้มีคุณลักษณะที่ดี มีสมรรถนะที่จำเป็นของคนใน ศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในประชาคมโลก

และได้บรรยายคุณสมบัติของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ที่ต้องการไว้กว้างๆ ดังนี้

1.มีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใส ตรวจสอบได้

2.มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ทางด้านการศึกษา

3.เป็นผู้ความมุ่งมั่นที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการปฏิรูปการศึกษา การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพเพื่อปวงชนชาวไทย

4.ให้ความสำคัญของวิชาชีพครู ต้องเป็นวิชาชีพควบคุม วิชาชีพชั้นสูง มีสภาวิชาชีพ มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อเป็นหลักประกัน สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนและสังคม

5.ใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ ปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานเด็กไทย ตามหลักสิทธิมนุษยชน เชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยสากล

 

ที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏมาก่อนว่า รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนใด ได้ดำเนินการขัดกับหลักดังกล่าวข้างต้น ข้อเรียกร้องบางข้อกำหนดไว้เป็นกฎหมาย บางข้อกำหนดไว้เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

แต่ก็ยังดีที่ปรากฏความเคลื่อนไหวออกมาให้เห็นบ้าง สำหรับองค์กรวิชาชีพครู ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หรือเป็นเพียงว่า คล้ายกับการขานชื่อนักเรียนก่อนที่ครูจะเข้าสอน เพื่อแสดงตัวกับผู้มีอำนาจ เท่านั้นเอง

สำหรับตัวของผู้เขียน มองว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการ "รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ" ไม่ได้สำคัญที่สุด เพียงแต่เป็นผู้ที่เข้ามาติดตามนโยบาย กำหนดทิศทางการบริหารงาน พร้อมกับสร้างผลงานให้กับตัวเองเท่านั้น

ส่วนสาระสำคัญ ได้ถูกกำหนดไว้ทั้งหมดแล้ว ในแผนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น10 ปี หรือ 20 ปี แต่ที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ คือ โครงสร้างการบริหารงานที่สับสน การแบ่งอำนาจการบริหารงานที่ไม่ชัดเจน หลักสูตรการศึกษาที่ไม่เหมาะสมกับสังคมไทยและคนไทย รวมถึงขนาดขององค์กรที่ใหญ่เกินไป การทับซ้อนของอำนาจหน้าที่ ทำให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติงาน

ใครก็ตามที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนต่อไป ก็คงไม่สร้างความแตกต่างได้มากนัก เมื่อกระทรวงศึกษาธิการในตอนนี้เปรียบเหมือน เด็กพิเศษ มีบุคลิคลักษณะเป็นเด็กอ้วน หัวโต กินจุ เอาแต่ใจ ไม่ได้ดังใจก็เอาแต่ร้องไห้งอแง

หากอยากเห็นการศึกษาของชาติพัฒนาไปกว่านี้ ต้องยอมเป็นคนใจร้าย รับได้กับทุกการเปลี่ยนแปลง แล้วลงมือทำทันที

_______________

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ