คอลัมนิสต์

ศึกซักฟอก ลุ้น..รมต.เก้าอี้หัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล กำลังจะระเบิดขึ้นในสัปดาห์หน้า แม้ว่ารัฐบาลคงสอบผ่านศึกครั้งนี้ไปได้ แต่อาจมี"รัฐมนตรี" บางคนกระเด็นตกจากเก้าอี้หล่นจาก"รัฐนาวา "

นับจากนี้อีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 10 รัฐมนตรีจาก 3 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกหลังการเลือกตั้งที่หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่ใช่พรรคแกนนำ ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไปด้วย

10 รัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย  ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ​, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข, นายจุรินทร์​ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ , นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ , นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

สำหรับเสียงอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องได้ถึงเท่าไหร่จึงจะทำให้ “รัฐมนตรี ” พ้นจากตำแหน่ง  

รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 151 บัญญัติว่า มติไม่ไว้วางใจต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

และมาตรา170 รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเมื่อ

( 3 ) สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ

ส.ส. เท่าที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้มีจำนวน 487 คน (จากจำนวนเต็ม 500 คน) โดยจำนวน ส.ส. 487 คน แยกเป็น ฝ่ายรัฐบาล 277 คน ฝ่ายค้าน 210 คน

แต่เฉพาะซักฟอกครั้งนี้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ จากพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมกับฝ่ายค้านทำให้ฝ่ายรัฐบาลเสียงลดเหลือ 275 เสียง ส่วนฝ่ายค้านเสียงเพิ่มเป็น 212 เสียง

แต่จะเห็นได้ว่าเสียงฝ่ายรัฐบาล ก็ยังทิ้งห่างจากเสียงของฝ่ายค้านถึง 63 เสียง 

และนี่ยังไม่รวมถึง ส.ส. ฝ่ายค้าน บางคนที่พร้อมแหกโผเป็น“งูเห่า” ไปโหวตเสียงให้กับฝ่ายรัฐบาล อย่างที่เราเคยเห็นอยู่บ่อยๆจากการโหวตในสภาในหลายเรื่องที่ผ่านมา  

ดังนั้นโดยสรุปหากดูคะแนนเสียง จำนวนมือในสภา ฝ่ายค้านคงทำอะไร“รัฐบาล”ไม่ได้

อีกทั้งบรรดากูรูทางการเมืองทั้งนักการเมืองและนักวิชาการ มองตรงกันว่ารัฐบาลจะสามารถผ่านศึกซักฟอกไปได้อย่างแน่นอน เพราะฝ่ายค้านขาดเอกภาพ และอ่อนแรงไปมากส่งผลทำให้รัฐบาลสามารถเดินต่อไปได้แต่ประเด็นท้าทายกว่าหลังจากนี้คือปัญหาเศรษฐกิจ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และม็อบนอกสภา

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการเตรียมพร้อมรับศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่ากลไกรัฐสภา จะเป็นกลไกที่จะช่วยในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยจะมีการชี้แจงผลงาน รายละเอียดการทำงานที่ผ่านมาผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ และพร้อมที่จะตอบปัญหาในทุกประเด็นของฝ่ายค้าน

ด้านฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยได้จัด 15 ขุนพลฝีปากกล้า เตรียมซักฟอกรัฐมนตรี โดยมั่นใจว่าข้อมูลอภิปรายครั้งนี้ มีหลักฐานชัดเจน ไม่ออกนอกเรื่องอย่างแน่นอน

โดยเบื้องต้น“ขุนพล”ที่ฝ่ายค้านวางตัวไว้ซักฟอกรัฐมนตรี  ก็มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์  นายสุทิน คลังแสง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร นายจิรายุ ห่วงทรัพย์  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว   นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคเศรษฐกิจใหม่  นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  นายวิโรจน์  ลักขณาอดิสร  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ จากพรรคก้าวไกล  พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 

ส่วนทางฝ่ายรัฐบาลก็เตรียมพร้อมรับมือการซักฟอกเต็มที่  โดยจะมีการตั้ง“วอร์รูม” แถลงตอบโต้ทันทีเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งนอกสภาฯ และในสภาฯ

ทั้งนี้“วอร์รูม” ดังกล่าวมีหน้าที่ในการหาข้อมูลสนับสนุนพิทักษ์ 10 รัฐมนตรี ซึ่งภารกิจหลัก จะมีการเก็งข้อสอบ ล้วงตับฝ่ายค้าน เช็คภายใน ทั้งบนดิน ใต้ดิน และทางลับว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะอภิปรายนายกฯ และรัฐมนตรี ในเรื่องอะไรบ้าง 

ขณะเดียวกัน“วอร์รูม” ก็จะมีการเตรียมข้อมูลจากฝ่ายรัฐบาลให้กับ นายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรี รวมถึงข้อเสนอแนะให้รัฐมนตรีชี้แจงตอบโต้ฝ่ายค้านในประเด็นต่างๆ และยังส่งข้อมูลให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล เพื่อให้ช่วยรัฐมนตรีตอบข้อซักค้านของฝ่ายค้านว่าที่กล่าวหามาอะไรเป็นเรื่องเท็จ 

ส่วน“ขุนพล” ของฝ่ายรัฐบาลที่เตรียมไว้รับมือกับฝ่ายค้าน ก็มีทั้งในและนอกสภา

นอกสภา ก็มี แรมโบ้อีสาน- สุภรณ์ อัตถาวงศ์  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี , ธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 

ส่วนในสภามี สิระ เจนจาคะ  ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ  วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ 2 รมต.ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์  และนายนิพนธ์ บุญญามณี  รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย นั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ เป็นประธานคณะทำงานติดตามข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนคณะทำงานฯก็มี นายนริศ ขำนุรักษ์ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ และนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค เป็นเลขานุการคณะทำงาน

ด้าน“ซูเปอร์โพล”  ได้สำรวจความเห็นประชาชนเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้างใจในครั้งนี้ พบว่าประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ 

แต่มีประชาชนมากถึง 99.3% เชื่อว่าหลังจบซักฟอกจะมีการ“ปรับ ครม.” ซึ่งก็มีความเป็นได้เช่นกัน

เพราะหากมองมาที่ฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่ได้เป็นเอกภาพโดยเฉพาะใน“พรรคพลังประชารัฐ” ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลว่าจะสอบผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ 

จึงมีข่าวกระเส็นกระสายออกมาว่าจะมี ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่โหวตให้กับ“รัฐมนตรี” บางคน 

ซึ่งหากมี“รัฐมนตรี” คนใด ได้คะแนน“ไว้วางใจ” น้อยกว่า“รัฐมนตรี”คนอื่นมากๆ ก็ยากที่จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีต่อได้แม้ว่าจะ “สอบผ่าน”การอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ 

โปรลาซาด้า

ศึกซักฟอก ลุ้น..รมต.เก้าอี้หัก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ