คอลัมนิสต์

ส่อง 'ปิยบุตร' ปฏิวัติหรือจลาจล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ขุดรากความคิดซ้ายใหม่ "ปิยบุตร" ชี้เป้ามี "เหตุปะทะ" หากไม่ยอมปฏิรูปสถาบันฯ...คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

        ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของคณะราษฎร ที่ประกาศยกระดับการกดดันรัฐบาลประยุทธ์ ด้วยพลังมวลชนอันมหาศาล และมุ่งหมายจะสร้างปรากฏการณ์ “ไทยสปริง”

 

        อ่านข่าว :  ชี้ 'ปิยบุตร' เก็บอาการไม่อยู่ แบบนี้ใกล้จบละครับ

 

        ขณะเดียวกัน ก็มีทัศนะร้อนๆ ออกมาจาก “เดอะป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ซึ่งเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

 

        โดยเฉพาะบทที่ว่าด้วย “ปฏิรูป VS ปฏิวัติ” ทางแฟนเพจPiyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล

 

        “ปฏิรูปกับปฏิวัติ ต่างก็คือการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงแบบปฏิรูปก็ต่างจากการเปลี่ยนแปลงแบบปฏิวัติ..”

 

        เหมือนอาจารย์ป๊อก จะย้ำเตือนว่า การปฏิรูปสถาบันฯ เท่านั้นเป็นทางรอดของสังคมไทย

 

        ++

        นักปฏิวัติ?

        ++

 

        ในทวิตเตอร์ @Piyabutr_FWP ตอนเย็นวันที่ 24 ตุลาคม 2563 ปิยบุตร ทวีตว่า “กำเนิดของ Constitutional-Pariliamentary Monarchy ทั่วโลก Monarchy ต้องยินยอมปรับตัว อาจยินยอมเพราะมีเจตจำนงต้องการปฏิรูป หรือยินยอมเพราะจำยอม หากปราศจากการปรับตัวของ Monarchy ก็จะเดินหน้าไปสู่การปะทะ ผลที่ได้คือไม่เป็น Absolutue Monarchy (โดยชัดแจ้ง/ซ่อนรูป) ก็กลายเป็น Republic”

 

        เหมือน “เดอะป๊อก” จะอ่านเกมท้องถนนออก จึงบอกว่า “หากปราศจากการปรับตัวของ Monarchy ก็จะเดินหน้าไปสู่การปะทะ ผลที่ได้คือไม่เป็น Absolutue Monarchy (โดยชัดแจ้ง/ซ่อนรูป) ก็กลายเป็น Republic”

       เดอะป๊อก กำลังชี้เป้า “สงครามกลางเมือง” ใช่หรือไม่?

 

        เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2563 ปิยบุตร โพสต์ข้อความผ่านเฟจเฟซบุ๊ก ว่าด้วยเรื่อง “ห้วงเวลาปฏิวัติ - Revolutionary Moment”

 

        “การปฏิวัติจะบังเกิดได้ในห้วงเวลาประวัติศาสตร์ที่ประชาชนจำนวนมหาศาลเกิดความรู้สึกนึกคิดร่วมกันในสองมิติ ได้แก่ มิติแห่งความโกรธแค้น และมิติแห่งความหวัง”

 

        การลุกฮือของมวลชน ด้วยความโกรธแค้น แบบไม่มีพรรคนำ ไม่มีการจัดตั้ง ปรมาจารย์การปฏิวัติชี้ว่า นี่คือ จลาจลและอนาธิปไตย

 

        ++

        ศาสดาเจ้าเก่า

        ++

 

        ตอนครบรอบ 1 ปี พรรคอนาคตใหม่ ปิยบุตรให้สัมภาษณ์ทางสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับศาสดาที่พวกเขาถอดรากความคิดมาปรับใช้ในการสร้างพรรค

 

        ปิยบุตรตอบชัดว่า “คนแรกคือ อันโตนิโอ กรัมชี (Antonio Gramsci)” นักลัทธิมาร์กซ ชาวอิตาเลียน

 

        “ความคิดของกรัมชี่ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการต่อสู้ทางการเมืองในสังคมไทย โดยเฉพาะช่วงยามหัวต่อหัวเลี้ยวเช่นนี้"

 

        อันโตนีโอ กรัมชี่ เป็นนักทฤษฎี “มาร์กซิสต์บริสุทธิ์” ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เผยแพร่ลัทธิมาร์กซคนสำคัญในยุคศตวรรษที่ 20

 

        ปิยบุตร ยอมรับว่า พวกเขาผู้เล่นใหม่ในสมรภูมิการช่วงชิงอำนาจนำใหม่


         “วิธีคิดของกรัมชีมองว่าการยึดอำนาจรัฐด้วยกำลังทางกายภาพ เช่น กำลังทหาร มวลมหาประชาชน หรือที่เรียกว่า ‘สงครามขับเคลื่อนพื้นที่’ (War of Movement) แค่นั้นไม่สำเร็จหรอก ถ้าคุณไม่ได้เปลี่ยนความคิดคน ดังนั้น กรัมชีจึงบอกว่าต้องทำงานผ่าน ‘สงครามทางความคิด’ (War of Position) ด้วย”

           อาจารย์ป๊อก ได้ทำสงครามความคิด จนใกล้สุกงอมแล้ว เมื่อเยาวชนคนรุ่นใหม่ ลุกขึ้นมายื่นข้อเสนอเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ

 

ส่อง 'ปิยบุตร' ปฏิวัติหรือจลาจล

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ