คอลัมนิสต์

ทำไมคนไม่เชื่อมั่น "อาจารย์แหม่ม "คุมเศรษฐกิจทั้งที่คุณสมบัติเพียบพร้อม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

น่าสนใจว่าในขณะที่คุณสมบัติในเรื่องความรู้ " อาจารย์แหม่ม-นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" เพียบพร้อม เป็นทั้งศาสตราจารย์และดอกเตอร์ ด้านการเงิน แต่กลับไม่ได้รับการขานรับจากสังคม เมื่อมีชื่อว่าจะเข้ามาดูแลทีมเศรษฐกิจ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น.. ที่นี่มีคำตอบ

หลังจาก"อนุชา นาคาศัย" เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ได้ออกมาเปิดเผยหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เสร็จสิ้น ว่า โฉมหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่ของพรรคจะนำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และคนมีชื่อเสียงของประเทศ ขอให้รอตกผลึกอีกครั้ง
 อาจารย์แหม่ม นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาลกลายเป็น“ตำบลกระสุนตก”ทันทีเพราะคนที่เป็นมือเศรษฐกิจของพรรค ก็มักจะได้เป็น"รัฐมนตรีเศรษฐกิจ"ของรัฐบาลไปด้วย
 แม้ว่านายอนุชา จะออกมาชี้แจงในภายหลังว่า"อาจารย์แหม่ม"เป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคเท่านั้นไม่ใช่ของรัฐบาล แต่ก็ไม่สามารถที่จะห้ามคนมองข้ามช็อตว่า "อาจารย์แหม่ม-นฤมล" อาจก้าวไปถึงหัวหน้าทีม “รัฐมนตรีเศรษฐกิจ” แทนที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  รองนายกฯเศรษฐกิจและ"สี่กุมาร"  ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่า"อาจารย์แหม่ม" จะได้เป็น"รัฐมนตรี" มาแล้ว 
 

เมื่อนักข่าวพบก็รุมซักถาม.."อาจารย์แหม่ม" ก็อธิบายอย่างไม่สะทกสะท้านเสียงวิจารณ์ว่า ตั้งแต่พรรคพลังประชารัฐตั้งขึ้นมา ตัวเองก็อยู่ในทีมนโยบายเศรษฐกิจของพรรคอยู่แล้ว เมื่อมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่  เลขาธิการพรรค-นายอนุชา นาคาศัย ก็บอกให้รับผิดชอบต่อก็เท่านั้นเอง เป็นเรื่องการทำนโยบายของพรรคเท่านั้น 
จากนั้นเล่าประสบการณ์ทำงานของตนเองเป็นฉากๆ ว่า เป็นอาจารย์สอนด้านการเงิน สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ในด้านสายงานวิชาการก็ทำจนเป็น "ศาสตราจารย์" 
นอกเหนือจากงานวิชาการ งานวิจัย แล้ว ในด้านตลาดทุนก็เป็นที่ปรึกษาตลาดหลักทรัพย์มา 10 กว่าปี  ส่วนด้านตลาดเงินก็เป็นที่ปรึกษาให้กับธนาคารหลายแห่ง รวมทั้งช่วยภาคเอกชน ภาคธุรกิจโดยเป็นกรรมการ  ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เข้ามาช่วยงานที่กระทรวงการคลัง(ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี คิดนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในสมัยที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็น รมว.คลังก่อนลาออกลงสู่สนามการเมือง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 ของพรรคพลังประชารัฐ และได้รับเลือกตั้ง)
 และเมื่อไปพลิกดู"โปร์ไฟล์"ของ"อาจารย์แหม่ม-นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" ก็พบว่าเพียบพร้อมเลิศหรู เป็นทั้ง"ดอกเตอร์"และ"ศาสตราจารย์" ซึ่งสำหรับเส้นทาง"นักวิชาการ" มีคนไม่มากนักที่ได้ครบทั้งสองอย่าง 
 ส่วนด้านการศึกษา -ปริญญาตรี สถิติศาสตรบัณฑิต (คณิตศาสตร์ประยุกต์) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                   - ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต(คณิตศาสตร์ประยุกต์) มหาวิทยาลัยรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐฯ, บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์ประยุกต์) มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย        
                   -ปริญญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (การเงิน) มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย

                   -เคยเป็นอาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า  
 เมื่อนักข่าวถามว่าด้วยประสบการณ์ขนาดนี้ มั่นใจสามารถเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้ไหม"อาจารย์แหม่ม"ตอบแบบเลี่ยงๆว่า คงไม่สามารถสรุปเช่นนั้น ถ้าถามว่าเราทำอะไรมาบ้าง ก็บอกว่าเราทำมาประมาณนี้ มีความรู้เรื่องตลาดทุน ตลาดเงิน งานวิจัย งานด้านนโยบายที่เคยช่วยอยู่ที่กระทรวงการคลัง
 ตบท้ายด้วยคิดอย่างไรกับการมีชื่อคั่วเก้าอี้รัฐมนตรีเศรษฐกิจ อาจารย์แหม่ม บอกว่า “แล้วแต่นายกฯ” 
 เรียกว่า “ตอบแบบสงวนท่าที” ไม่ปฏิเสธ 
  คุณสมบัติ"เพอร์เฟ็ก"ขนาดนี้ แต่ทำไมคนกลับไม่เชื่อมั่น " อาจารย์แหม่ม-นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ " หากได้นั่งรัฐมนตรีคุมทีมเศรษฐกิจ 
  คำตอบ 
  1. ดูจากการทำงานของเธอในตำแหน่ง"โฆษกรัฐบาล"  ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับตำแหน่งรัฐมนตรีคุมทีมเศรษฐกิจ ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถูกวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง  ผลงานไม่ปรากฏชัด
   2. แม้จะมีความรู้เพียบพร้อมแต่ส่วนมากงานที่ทำมาเป็นด้านที่ปรึกษา งานวิจัย  งานวิชาการ มากกว่างาน"บริหาร" โดยเฉพาะการบริหารงานภาครัฐ( ซึ่งยากกว่าการบริหารงานภาคเอกชนมาก)
    3.ผลโพลของซูเปอร์โพลที่ออกมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(28 มิ.ย.) หลังมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่ประชาชนร้อยละ 62.5 ไม่เห็นด้วยต่อการลาออกจากทุกตำแหน่งของสี่รัฐมนตรีหรืออีกความหมายหนึ่งก็คือต้องการให้ 4 รัฐมนตรี ซึ่งได้แก่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ , นายอุตตม สาวนายน, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อยู่ต่อเป็นรัฐมนตรีต่อไป
     โดยเหตุผลหนึ่งคือ สี่รัฐมนตรีมีส่วนสำคัญในการสร้างผลงานปรากฏต่อสายตาต่างชาติ ทำให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่น่าลงทุน มีผลงานในประเทศโดยเฉพาะช่วงวิกฤติ"โควิด-19" เงินเยียวยาอัดฉีดตรงถึงกระเป๋าของประชาชน ลดค่าไฟ ลดราคาน้ำมัน ค่าก๊าซ และกำลังลงสู่เศรษฐกิจฐานรากชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ
    ดังนั้นเมื่อมีชื่อ"นางนฤมล" โผล่ขึ้นมาว่าจะมาดูแลเศรษฐกิจแทน ก็ทำให้ไม่ได้รับการตอบรับ ถูกปฏิเสธจากสังคมโดยรวม 
  4. ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่หลังเกิดวิกฤต'โควิด-19' ประชาชนจึงต้องการเห็นคนที่มากประสบการณ์ในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศเข้ามาดูแลในด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งต้องเป็นคนที่ต่างชาติให้การยอมรับเชื่อถือ เชื่อมั่นเพื่อที่จะได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ไม่ใช่ถอนทุนหนีไปหมดในขณะที่นางนฤมล ยังถูกมองว่า เป็น"มือใหม่"อ่อนด้วยในเรื่องประสบการณ์ 

 5.ผลจากการเลือกกรรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐชุดใหม่ ได้"นักการเมืองเก่า"เข้ามาบริหาร ทำให้ประชาชนเอือมระอา นางนฤมล มีภาพว่าเป็นคนของกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐชุดใหม่ จึงทำให้ไม่ได้รับการยอมรับไปด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ