คอลัมนิสต์

อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กทม.และอีกหลายจังหวัดดำเนินมาตรการเข้มข้น # อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ คอลัมน์ 'ดับเครื่องชน' โดย อ๊อด เทอร์โบ

          ‘ดับเครื่องชน’ ได้รับข้อความ ‘อยู่บ้าน–หยุดเชื้อ–เพื่อชาติ’ ซึ่งโดนใจมากและอยากจะเป็นสื่อกลางนำมาแจ้งให้ทราบ เพราะเวลานี้ กทม.และอีกหลายจังหวัดดำเนินมาตรการเข้มข้นเพื่อหยุดการแพร่ระบาด

          พร้อมกันนี้ได้รับจดหมายที่เป็นประโยชน์มากเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์ที่จำเป็นและการขอความร่วมมือจากกระทรวงต่างๆ

          ในฐานะประชาชนคนไทยจึงขอให้ทุกท่านตระหนกและมีความสามัคคีเพื่อผ่านพ้นวิกฤตินี้ และเราต้องมีมติ มีความอดทนอย่างถึงที่สุด

          ตัวเลขของผู้ป่วยมีมากขึ้นเหลือเกินอย่างน่าตกใจและเวลานี้มีคนเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดมากมายเพราะความจำเป็น เนื่องจากกิจการหลายอย่างในกรุงเทพฯ ปิดลง ขืนอยู่ไปก็เดือดร้อน

          มีความห่วงใยว่าผู้เดินทางกลับบ้านนับล้านคนนี้จะเป็นการนำเชื้อไวรัสนี้แพร่ขยายออกไปซึ่งขอให้เตรียมป้องกันรับมือ

          สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงต่อไปคือ ต้องช่วยเหลือคนไทยให้อยู่รอดตลอดไปเพราะผลกระทบมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษี, ลดดอกเบี้ย, ลดค่าน้ำ-ไฟ หรือการขนส่งต่างๆ ดีกว่าจะเอาเงินไปแจกเฉยๆ

          อยากจะขอร้องนักการเมืองทั้งฝ่ายค้าน-รัฐบาล หรือบรรดาผู้มีเกียรติในสภาทั้งหลาย เวลานี้ต้อง ‘นิ่ง’ และทำทุกอย่างเพื่อชาติ-ประชาชน มิใช่ผลประโยชน์ส่วนตัวหรือการค้ากำไรบนความทุกข์ยากของผู้อื่น

          ขอเรียนว่าเวลานี้เราต้องสามัคคี อดทนและอยู่กับบ้านเพื่อยุติการแพร่กระจาย และหากร่วมมือกันแล้วทุกอย่างก็จะคลี่คลายด้วยดี

อ๊อด เทอร์โบ

กระทรวงอุตสาหกรรม

          ขอความร่วมมือ 6 กฎเหล็ก (ผ่านไปยังทุกโรงงาน)

          วันก่อนผมได้รับข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งขอความร่วมมือจากโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 80,000 แห่ง ซึ่งขอนำมาแจ้งให้ทราบเพราะสามารถนำเป็นกฎเหล็กได้ครับ

          1.จัดให้ผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงงานและบุคคลภายนอกที่มาติดต่อในโรงงานดูแลสุขภาพส่วนบุคคล ทำความสะอาดมือด้วยการล้างด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ กรณีผู้ที่มีอาการไอ จาม ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค นอกจากนี้อาจจัดให้มีการเฝ้าระวังและคัดกรองโดยการวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงงานและบุคคลภายนอกที่มาติดต่อในโรงงาน

          2.ให้ดูแลอนามัยในโรงงาน อาทิ การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นทางเดินเข้า–ออกอาคาร ลิฟต์ ห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ตรวจเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสสาธารณะต่างๆ

          3.ขอความร่วมมือผู้ที่ปฏิบัติงานในโรงงาน งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปหรือแวะผ่านประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยง อาทิ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ เยอรมนี อิตาลี อิหร่าน รวมทั้งประเทศหรือเขตปกครองที่อาจมีความเสี่ยงตามที่ทางราชการจะได้มีการประกาศในอนาคต จนถึงเดือนเมษายน 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศของทางราชการเปลี่ยนแปลง

          4.กรณีมีผู้ปฏิบัติงานต้องเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่หรือผ่านประเทศเสี่ยงก่อนวันที่มีประกาศขอความร่วมมือนี้ ขอให้พิจารณาความจำเป็นของการเดินทาง หากจำเป็นให้ระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ให้เฝ้าระวัง 14 วัน โดยให้หยุดงานเพื่อแยกตัวเองออกไป

          5.กรณีที่จะมีผู้ปฏิบัติงานเดินทางกลับมาจากประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดให้บุคคลดังกล่าวแจ้งเจ้าของโรงงาน และให้มีการเฝ้าระวัง 14 วัน โดยให้หยุดงานเพื่อแยกตัวเองออกไป เมื่อครบกำหนดหากไม่ติดเชื้อกลับมาปฏิบัติงานปกติจะต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตลอดเวลา

          6.ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานติดตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือติดการแถลงข่าวของรัฐบาลเพื่อปฏิบัติตามอย่างใกล้ชิด

          ทั้ง 6 กฎเหล็กนี้น่าสนใจและขอให้นำไปปฏิบัติเพราะโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศเป็นแหล่งชุมนุมผู้คนและต้องให้ทุกคนเข้มข้น-เข้มแข็ง

          ขอให้ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัดและแจ้งผ่านมาเพื่อโปรดพิจารณา

สมบูรณ์ (ปากน้ำ)

 

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ

          ส่งท้ายด้วยหมายเลขโทรศัพท์เกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งขอรวบรวมมาให้ทราบไว้เพื่อติดต่อในยามจำเป็น

          ขอให้ทุกหมายเลขมีผู้รับและประจำอยู่เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนยามเดือดร้อน

อ๊อด เทอร์โบ

เบอร์สายด่วนควรทราบ

          สายด่วน 111 ของศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) สำนักนายกฯ รวมทั้งรับเรื่องร้องเรียนได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2288-6070 ต่อ 4

          สายด่วน 1422 และโทรศัพท์ 0-2590-3000 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

          สายด่วน 1669 ศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)

          สายด่วนสุขภาพ 0-2590-2000 ของกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

          สายด่วนปรึกษาเรื่องยา 0-2644-8850 กด 73 ขององค์การเภสัชกรรม

          สายด่วน 1330 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)หรือโทร.0-2831-4000 ต่อ 1330

          สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.)

          ศูนย์ Hot Line สปส.เพื่อประสานการใช้สิทธิผู้ประกันตน สถานพยาบาล นายจ้าง ติดต่อที่หมายเลข 0-2956-2513-4 ในวันและเวลาราชการ

          จึงแจ้งมาให้ทราบเพื่อความสะดวกในการติดต่อด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ