คอลัมน์ 'ท่องยุทธภพ' โดย 'ขุนน้ำหมึก' จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก 24 มี.ค.63
*****************************
ภาพข่าว “แรงงานเพื่อนบ้าน” นับแสนคนทะลักหน้าด่านชายแดนควรจะเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ แต่ปีนี้ไวรัสโควิดส่งผลให้พวกเขาเหล่านั้นกลับบ้านเร็วกว่ากำหนด
เมื่อกระทรวงมหาดไทยสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปิดด่านตามแนวชายแดนเพื่อสกัดโควิด-19 รวมถึงปิดจุดผ่อนปรน ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ อยู่แล้ว ประกอบกับกรุงเทพมหานครสั่งปิดห้าง ทำให้แรงงานเพื่อนบ้านตกงานชั่วคราว จึงหลั่งไหลกลับประเทศ ก่อนเส้นตายปิดด่าน 23 มีนาคม 2563
‘ลาว’ ตั้งตัวไม่ทัน
เดิมทีคณะรัฐมนตรีรัฐบาลลาวได้ประชุมประจำเดือนมีนาคม 2563 และพิจารณาเร่งด่วนเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ สปป.ลาว ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเพราะประเทศเพื่อนบ้านพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รัฐบาลลาวจึงออกมาตรการสกัดกั้นปิดด่านท้องถิ่นและด่านประเพณีในขอบเขตทั่วประเทศ และกำหนดเงื่อนไขการเข้า-ออก ในด่านสากล
บันทึกประวัติ ก่อนส่งตัวกลับบ้าน
ลึกๆ รัฐบาลลาวต้องการห้ามคนลาวไปเที่ยวและชอปปิงที่ห้างสรรพสินค้าใน จ.อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี และเชียงราย
อีกด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่สถานทูตลาวประจำไทย ได้พูดคุยกับแรงงานลาวเพื่อให้เลื่อนการเดินทางกลับบ้านช่วงบุญปีใหม่ลาวหรือสงกรานต์ เพราะรัฐบาลสั่งห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ หรือจัดงานคอนเสิร์ตปีใหม่ลาว
นายกฯ ทองลุน สีสุลิด มาตรวจศูนย์ประชุมที่เตรียมทำโรงพยาบาลสนามรองรับหากมีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมาก
เมื่อมีมาตรการปิดห้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล บวกกับมหาดไทยปิดด่าน แรงงานลาวจึงรีบเดินทางกลับประเทศเกือบแสนคน
กระทรวงสาธารณสุขลาวจึงรีบออกมาตรการให้แรงงานลาวที่กลับบ้านต้องกักตัวเอง 14 วัน โดยมอบให้ “นายบ้าน”(ผู้ใหญ่บ้าน) เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
คนลาวส่วนหนึ่งตกอยู่ในภาวะหวาดกลัวเพื่อนร่วมชาติเกรงจะนำเชื้อโควิดติดตัวมา เหมือนครั้งหนึ่งคนไทยกลัวผีน้อย
‘เขมร’ ปรับแผนใหม่
สถานการณ์ไวรัสโควิดในกัมพูชา มียอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด 84 คน (ถึงวันที่ 23 มีนาคม 2563) ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเขมรที่เดินทางกลับจากมาเลย์
นายกฯ ฮุน เซน สั่งผู้ว่าฯ 25 จังหวัดเตรียมโรงเรียน และศูนย์ประชุม เป็นโรงพยาบาล
รัฐบาลกัมพูชาได้มอบหมายให้ทูตกัมพูชาประจำไทย เข้าพูดคุยและขอร้องแรงงานเขมรไม่ควรออกจากไทยหากไม่มีความจำเป็น โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ ขอให้เลื่อนการเดินทางกลับ
พลันไทยปิดด่านแรงงานเขมรหลายหมื่นคนแห่กลับบ้าน สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเตรียมหาสถานที่เช่นโรงเรียนและศูนย์ประชุม ปรับสภาพให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราวทันที
ผู้เชี่ยวชาญจีน มาช่วยเขมรสู้โควิด
เช้าวันที่ 23 มีนาคม 2563 ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของจีน 7 คน พร้อมเวชภัณฑ์ เดินทางมาถึงพนมเปญ เพื่อช่วยกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชารับมือโควิด ตามคำร้องขอของกัมพูชา
นับว่าเป็นข่าวดีในวันที่มีข่าวร้าย..การเคลื่อนย้ายแรงงานครั้งใหญ่จากไทยสู่กัมพูชา
‘เมียนมาร์’ ป่วนหนัก
เมียนมาร์เป็น 1 ใน 2 ชาติอาเซียนที่ยังไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ก่อนหน้านี้ ทางการเมียนมาร์ได้มีมาตรการสกัดกั้นที่ชายแดนโดยกำหนดเงื่อนไขการเข้าประเทศให้เข้มข้น
เหนืออื่นใดรัฐบาลเมียนมาร์สั่งงดจัดสงกรานต์ หรือเทศกาลตะจานทั่วประเทศ รวมถึงระงับกิจกรรมที่มีการชุมนุมของผู้คน
การคัดกรองของเจ้าหน้าที่เมียนมาร์
งานสงกรานต์หรือตะจาน เป็นเทศกาลที่ใหญ่มาก สมัยรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาร์เคยหยุดงานถึง 10 วัน แต่รัฐบาลซูจีลดเหลือ 5 วัน
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 สถานทูตสหภาพเมียนมาร์ประจำไทย ได้แจ้งกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ประสานขอความร่วมมือจากแรงงานเมียนมาร์ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงสงกรานต์
เมียนมาร์ พบผู้ติดเชื้อโควิด 2 รายแรก
สิ่งที่ทางการเมียนมาร์คาดไม่ถึงก็คือคำสั่งปิดห้างในกรุงเทพฯ ตามมาด้วยการปิดด่านพรมแดนไทย-พม่าทุกจุด ทำให้มีแรงงานชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ และชาวไทใหญ่ เดินทางกลับมาหลายหมื่นคน
ด้วยเหตุนี้กระทรวงสาธารณสุขเมียนมาร์จึงสั่งการให้เตรียมการหาโรงแรม โรงเรียน และอาคารในวัดบางแห่งมาแปรสภาพเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว
รัฐบาลซูจีประเมินแล้วแรงงานเมียนมาร์คืนถิ่นเที่ยวนี้มีผู้ติดเชื้อโควิดเป็นรายแรกแน่
*********************************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง