คอลัมนิสต์

ถึงเวลา?... พึ่ง'เคอร์ฟิว' ยาแรงปราบ'โควิด-19'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ข่าวลือสะพัดว่ารัฐบาลจะมีการใช้ 'ยาแรง' ถึงขนาดประกาศ 'เคอร์ฟิว' รับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส'โควิด-19' ...มันถึงเวลาแล้วหรือยัง.. สุกงอมแค่ไหนแล้ว

      เมื่อวานนี้ (23 มี.ค. ) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของ 'โควิด-19'

      และมีข่าวออกมาว่า พล.อ. ประยุทธ์ ได้พูดที่ในประชุมว่า  "ผมกล้าตัดสินใจอยู่แล้ว ในมาตรการเข้มข้นสูงสุด ผมพร้อมสั่ง แต่ต้องประเมินสถานการณ์ก่อน "

     จากนั้นก็มีข่าวลือสะพัดตลอดทั้งวันว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้( 24 มี.ค.) รัฐบาลเตรียมออกมติคณะรัฐมนตรีประกาศยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขั้นที่สูงขึ้น โดยจะมีมาตรการห้ามเดินทางข้ามจังหวัด / มาตรการห้ามรวมตัวกันทำกิจกรรมทุกประเภท / และห้ามออกจากบ้านในเวลาที่กำหนด หรือที่เรียกว่า "เคอร์ฟิว" โดยจะต้องบังคับด้วยกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาได้พยายามขอความร่วมมือแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ยังคงมีประชาชนเดินทางข้ามจังหวัด และฝ่าฝืนไปรวมตัวกันในสถานที่ต่างๆ เช่น ตามริมหาด / ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว และมีแนวโน้มสูงขึ้นไปถึงหลักแสนภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือนข้างหน้า   

 และเมื่อเป็นมาตรการทางกฎหมาย ก็น่าจะเป็นการใช้  พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ "พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ" กฎหมายฉบับนี้เป็นเครื่องมือของรัฐบาลพลเรือนในการระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนเพื่อป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ และสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจกระทบต่อพี่น้องประชาชนในวงกว้าง 

     ส่วนคำตอบที่ว่าถึงเวลาหรือยัง... ที่ต้องใช้ยาแรงถึงกับ "ประกาศเคอร์ฟิว"  ใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ในประเทศไทยนั้น ต้องพิจารณาถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสมหันตภัย 'โควิด-19' ว่าเป็นอย่างไร 

     ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกแพทยสภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า...
     "ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ไม่ควบคุม ปล่อยไปตามธรรมชาติ ปล่อยให้ประชาชนใช้ชีวิตอยากไปไหนก็ไป จะทำให้แนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มร้อยละ 33 ทุกวันๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้น จะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากวันที่ 15 มีนาคม 2563 ที่เราพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิน 100 คนจากนั้นอีก 1 เดือน หรือวันที่ 15 เมษายน  2563 เราจะมีคนไทยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 351,947  ราย  ในจำนวนนี้คาดต้องนอนโรงพยาบาล 52,792 ราย ต้องเข้ารักษาตัวที่ห้องไอซียู 17,597 ราย และเสียชีวิต 7,039 ราย  เราจึงต้องควบคุมอัตราการแพร่ระบาด ต้องดึงกลับมาให้อยู่ที่ร้อยละ 20  หากไทยสามารถทำได้ ผู้ติดเชื้อจะอยู่ที่ 24,269 ราย จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล 3,640 ราย ,อยู่ในห้องไอซียู 1,213 ราย และเสียชีวิตเกือบ500 คนหรือ 485 ราย นี่คือเป้าหมายที่ไทยต้องการดึงตัวเลขลงมาอยู่ที่ร้อยละ 20 ของการแพร่ระบาด"

    จำเป็นอย่างยิ่งที่ไทยต้องคุมให้อยู่ เพราะปล่อยให้การแพร่ระบาดแต่ละวันเป็นร้อย 33 แล้ว เกินศักยภาพไทย เพราะทั้งบุคลากรทางการแพทย์และจำนวนเตียงเรามีจำกัด หากคนไข้เกิน 17,000 รายที่เตียงรองรับไหว เพิ่มเป็นกว่า3.5 แสน อาจจำเป็นต้องเลือกว่า.... ให้"ใครมีชีวิตอยู่ หรือใครต้องเสียชีวิต"

     ในขณะที่มีเพจดัง"เรื่องเล่าหมอชายแดน"  ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ทำนายได้เลยว่าอีก 10 วันต่อจากนี้เราจะเป็น"อิตาลีโมเดล" ที่มีคนไข้มากขึ้นแบบก้าวกระโดด มีคนล้มตายจำนวนมากอย่างช่วยเหลือไม่ทัน 

   เพราะ....เราไม่มี social distancing ไม่มี self quarantine ที่จริงจัง ยังออกไปเที่ยว ไปกินข้าวนอกบ้าน จัดงานสังสรรค์ที่มีคนมากกว่า 60 คนขึ้นไป ใครไปห้ามไปเตือนก็ด่าว่าเขา

     มีการเคลื่อน การไหลของประชากร เพราะ shut down เมืองเป็นจุด ๆ ไม่พร้อมกัน ไม่ปิดกั้นการออกของคน เมื่อเมืองที่มีจำนวนคนไข้สูงสุดปิด ผู้คนไหลออกมาเพื่อกลับชนบท นี่มันประเทศอิตาลีเลยนะ

    และยังมี นพ. มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า ศึกโควิด-19 ครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

       ที่ร้ายที่สุด คือ ประเทศไทยกำลังมีเชื้อโควิดที่ดุร้ายจากประเทศอิตาลีแพร่ระบาด  ประเทศอิตาลีเริ่มมีการระบาดปลายเดือนมกราคม การระบาดเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก และยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงมาก ยอดรวมการเสียชีวิตของประเทศอิตาลีพุ่งแซงหน้าจีนขึ้นมาอันดับหนึ่งของโลก ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อ 47,021 คน ยอดเสียชีวิต 4,032 คน อัตราตายของโรคโควิด-19 ในประเทศอิตาลี 8.6 %
      สาเหตุที่สำคัญน่าจะเป็นจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศอิตาลีเป็นเชื้อสายพันธุ์ที่ดุร้ายกว่าประเทศอื่นในเอเชีย สามารถเพิ่มจำนวนในปอดได้รวดเร็ว ทำให้แพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นมากขึ้น และเชื้อนี้เล่นงานปอดอย่างหนัก ทำให้ปอดอักเสบอย่างรุนแรง ระบบหายใจล้มเหลว อัตราการเสียชีวิตจึงสูงมาก
    ประเมินจากพฤติกรรมของคนไทย และความร้ายแรงที่จะตามมาจาก 'โควิด-19'  พอได้คำตอบหรือยังว่า...ถึงเวลาต้องใช้"ยาแรง"หรือไม่

    อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สะพัด รัฐเตรียมประกาศเคอร์ฟิว คุมเข้มห้ามออกนอกบ้าน

 

   

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ