คอลัมนิสต์

ทำงานต่อเนื่องช่วงปิดสมัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทำงานต่อเนื่องช่วงปิดสมัย คอลัมน์.. เกาะขอบรั้วสภา

 


          เวลาการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติผ่านไปเร็วเหมือนติดจรวด เพราะเผลอแป๊บๆ ก็ครบหนึ่งปีของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ถ้ารัฐบาลและสภายังสามารถประคองสถานการณ์ให้ผ่านความท้าทายและแรงเสียดทานนี้ไปตลอดอีก 3 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายชวน หลีกภัย จะเป็นรัฐบาลและสภาที่สองที่สามารถอยู่ครบ 4 ปี ต่อจากยุคของทักษิณ ชินวัตร

 


          เดิมก่อนมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงเชื่อว่ารัฐบาลและรัฐสภาชุดนี้น่าไปถึงจุดนั้นด้วยความลำบากเนื่องจากทราบดีว่ารัฐบาลอยู่ในภาวะเสียงปริ่มน้ำ อีกทั้งยังเคยโหวตแพ้ฝ่ายค้านกลางสภามาให้เห็นแล้ว ประกอบกับความง่อนแง่นภายในของรัฐบาลที่เกิดสถานการณ์เตะขัดขากันไปมาไม่เว้นแต่ละวัน


          แต่เมื่อการเมืองเดินมาถึงจุดที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจึงนำมาสู่สถานการณ์ผึ้งแตกรังต้องหาค่ายใหม่ จนในที่สุดก็มี ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ถึง 10 คนที่ได้ลงคะแนนเสียงโหวตไว้วางใจให้รัฐบาล โดย 10 คนนี้จะแบ่งกันไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคชาติพัฒนา แล้วแต่จิตศรัทธา ทำให้รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนสูงถึง 277 เสียง ซึ่งเป็นคะแนนที่อ้างจากเสียงไว้วางใจที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้รับ ทั้งๆ ที่ถูกอภิปรายในสภาน้อยมาก


          ดังนั้นที่เคยว่าไว้ว่ารัฐบาลจะไปไม่รอดนั้นอาจจะต้องกลับมาคิดใหม่ สถานการณ์ภายในรัฐบาลเริ่มนิ่งแล้วก็เหลือแต่เพียงสถานการณ์นอกสภาที่รัฐบาลจะต้องหาทางผ่านไปให้ได้ ทางแก้อาจไม่ยากเพียงแค่ให้บรรดาลิ่วล้อและกองเชียร์รัฐบาลทั้งหลายหยุดการออกมาพูดแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องแฟลชม็อบเท่านั้นเอง เพราะในอดีตเคยมีให้เห็นมาแล้วว่าเจ้านายหลายคนต้องตกอับเพราะฝีปากของพวกขี้ข้า


          เป็นที่ทราบกันดีว่าขณะนี้รัฐสภาอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม แม้สภาจะปิดเทอมแต่การทำงานก็ไม่ได้ชะงักหยุดลงไปด้วย เพราะบรรดาคณะกรรมาธิการสามัญและวิสามัญทั้งหลายก็ยังเดินหน้าประชุมกันตามปกติ ไฮไลท์สำคัญแน่นอนว่าต้องอยู่ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ เป็นประธาน


          ทั้งนี้จากสถานการณ์นอกสภาที่เริ่มกดดันขึ้นเป็นระยะ มีความเป็นไปได้เหมือนกันที่คณะกรรมาธิการจะเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในบางมาตรา เช่น ระบบเลือกตั้ง เป็นต้น ไม่รู้เหมือนกันว่านายกฯ และวุฒิสภาจะยังตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะบางทีการยอมถอยสักสองก้าวอาจทำให้รัฐบาลสามารถเดินหน้าไปอีกสามก้าวก็เป็นไปได้


          ขณะเดียวกันท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดขณะนี้ประธานสภาทั้งสอง ‘ชวน หลีกภัย’ ประธานสภา และ ‘พรเพชร วิชิตชลชัย’ ประธานวุฒิสภา มอบนโยบายให้คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาและวุฒิสภาชะลอการเดินทางไปต่างประเทศในระยะนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาด เว้นแต่คณะกรรมาธิการบางคณะที่มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการตามพันธกรณี โดยขอให้เน้นการศึกษาดูงานภายในประเทศแทน เพราะนอกจากจะเป็นการลดการระบาดแล้ว ยังจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย


          ทันทีที่นโยบายนี้ออกไปคณะกรรมาธิการกิจการสภาและคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภาก็แจ้งไปยังคณะกรรมาธิการของแต่ละสภา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะคณะกรรมาธิการหลายคนยกเลิกการเดินทางไปต่างประเทศแล้ว ทำดีและเป็นตัวอย่างแบบนี้ต้องปรบมือให้ แต่หวังว่าทั้งสองสภาจะดำรงตนเป็นแบบอย่างให้สังคมได้เห็นตลอดรอดฝั่ง
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ