11 เรื่องควรรู้..ก่อน 21 ก.พ.นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีเงินกู้ 191.20 ล้านบาทของพรรคอนาคตใหม่ที่กู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค
21 ก.พ.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีเงินกู้ 191.20 ล้านบาทของพรรคอนาคตใหม่ที่กู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค
ก็มีการคาดการณ์กันไปต่างๆนานา โดยล่าสุดข่าวจะออกไปในทางโน้มเอียงว่าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบและกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมือง แม้ว่านายธนาธร จะเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่จะรอดจากการถูกยุบพรรคในคดีนี้ได้ก็ตาม
แต่ก่อนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีนี้ มี 11 ข้อ ที่เราควรรู้
1. ศาลรธน.จะวินิจฉัยตามคำร้องของ กกต.
ศาลไม่ได้ตัดสินตามใจศาล แต่ตัดสินตามคำร้องของผู้ร้องซึ่งในที่นี้คือ กกต. โดยพิจารณาตามข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย
2. คำร้องของ กกต. ร้องว่าอะไร?
(11 ธ.ค. 62) กกต.มีมติ พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธรจำนวน 191,200,000 บาท เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 72แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
3. คำร้องของ กกต. แปลว่า?
3.1 พรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จำนวน 191 ล้านบาท
3.2 ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด ม.72 (ตาม พรป.ประกอบ รธน. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560)
3.3 กกต.จึงยื่นคำร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ตาม มาตรา 92 วรรค 1 (3) และ มาตรา 93
4. มาตรา 72 เขียนไว้ว่าอย่างไร
มาตรา 72 บัญญัติว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
5. มาตรา 72 แปลว่า
5.1 บอกว่า พรรคการเมือง ห้ามรับ สิ่งต่อไปนี้ (ไม่ได้บอกว่าใครจะให้กู้ได้หรือไม่ได้)
5.2 สิ่งที่ห้ามรับ ก็คือ
5.2.1 เงินบริจาค
5.2.2 ทรัพย์สิน
5.2.3 ประโยชน์อื่นใด
5.3 โดยรู้ หรือ ควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกม. หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย
6. ข้อเท็จจริงคือ
6.1 พรรคอนาคตใหม่รับเงินนายธนาธร มาแล้ว (โดยระบุว่าเป็นเงินกู้) ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว ศาลจึงไม่สั่งให้มีการไต่สวนเพิ่มเติม จึงเหลือเพียงการพิจารณาว่ามีความผิดตามข้อกฎหมายหรือไม่?
7. ข้อกฎหมายที่ศาลน่าจะวินิจฉัยคือ
7.1 เงิน ธนาธร ที่พรรครับมา เข้าข่ายสิ่งที่ห้ามรับหรือไม่ ตาม ม.72?
7.1.1 เงินที่พรรครับมาอยู่ในประเภทหนึ่งของรายได้พรรคการเมืองที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่
7.1.2 ตามมาตรา 62 นั้น เงินที่รับมานี้ไม่อยู่ในประเภทหนึ่งของรายได้พรรคการเมืองที่กฎหมายกำหนด (และตามกฎหมายมหาชน ต้องตีความตามตัวบท สิ่งที่ทำได้คือสิ่งที่กำหนดไว้เท่านั้น)
7.1.3 เงินที่ไม่อยู่ในประเภทหนึ่งประเภทใดของรายได้พรรคตามกฎหมายที่พรรคอนาคตใหม่รับมานี้ถือว่า “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ตามมาตรา 72 หรือไม่?
7.2 เงินที่พรรครับมา รู้ หรือ ควรรู้ว่า ได้มาโดยไม่ชอบด้วย กม. หรือ มีที่มาโดยผิดกม.หรือไม่?
7.2.1 มาตรา 66 วรรคสอง “พรรคการเมืองจะรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกินวรรคหนึ่งมิได้” = ห้ามพรรคการเมืองรับเงินจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งเกิน 10 ล้านบาท/ปี
7.2.2 เงินที่พรรคอนาคตใหม่รับมาจากธนาธร 191 ล้าน เกิน 10 ล้านบาท/ปี
7.2.3 เงินที่รับมานี้จะถือว่า”ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ตาม มาตรา 72 หรือไม่? (แม้จะอ้างว่าไม่ใช่เงินที่มีที่มาผิดกฎหมายก็ตาม)
8. ถ้าวินิจฉัยว่าผิดจะวินิจฉัยต่อว่า มีโทษยุบพรรคตามมาตรา 92 วรรค1 (3) หรือไม่
9. ความเป็นไปได้ ก็คือ
9.1 วินิจฉัยว่า ไม่ผิด และ ไม่ยุบพรรค
9.2 วินิจฉัยว่า ผิด และ ยุบพรรค
9.3 วินิจฉัยว่า ผิด แต่ ไม่ยุบพรรค แต่อาจตัดสิทธิ์ กก.บห.ของพรรค
10. เอกสารหลุด ความเห็นทางกม.อื่นๆ ศาลจะฟังหรือไม่ฟังก็ได้ เพราะอำนาจการวินิจฉัยข้อกม.ของศาล อยู่ที่ศาลอยู่แล้ว
11. ประเด็นของรูปคดีนี้ไม่ใช่ ธนาธร “ให้พรรคกู้เงินได้” หรือไม่ได้? ผิดหรือไม่ผิด? (นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องไปว่ากันอีกคดี) แต่คือ พรรคอนาคตใหม่หรือกรรมการบริหารพรรค “รับเงิน” ของธนาธร (ไม่ว่าจะเรียกว่าเงินอะไรก็ตาม) เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ จะมีความผิดหรือไม่? และมีความผิดขนาดไหน?
สำหรับคดีนี้ใช้เวลาสืบเนื่องมายาวนานร่วม 9 เดือน ตั้งแต่นายศรีสุวรรณ จรรยา ไปยื่นต่อ กกต. เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2562 ต่อมา กกต.มีมติเมื่อ 11 ธ.ค. 2562 และยื่นศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 13 ธ.ค. 2562 และศาลนัดอ่านคำวินิจฉัย 21 ก.พ.2563 ที่พรรคอนาคตใหม่
ดังนั้นที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล บอกว่าคดีนี้ “มีธง”
คำถามคือว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงทำไมต้องปล่อยให้การพิจารณาคดีกินเวลายาวนานถึง 9 เดือน ซึ่ง กกต.ถูกวิจารณ์ว่าพยายามดึงเรื่องถ่วงเวลาให้ล่าช้าด้วยซ้ำ จนมีนักกฎหมายหลายคนต้องออกมากระทุ้งผ่านโซเซียลมีเดีย เรื่องจึงเดินต่อได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง