คอลัมนิสต์

คลุกวงใน วันเสาร์ - วันอาทิตย์ที่  1-2 กุมภาพันธ์ 2563

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คลุกวงใน วันเสาร์ - วันอาทิตย์ที่  1-2 กุมภาพันธ์ 2563 โดย... อสนีบาต  [email protected]

 

 


          คมเข้มทุกประเด็น ชัดเจนในเนื้อหา ลึกถึงเบื้องหลัง ต้องอ่านหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 อยู่ในมือคุณผู้อ่านแล้วครับ …0…สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ทำให้องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ตัดสินใจเมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ออกประกาศ ให้เป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ”

 

 

          0…ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก นพ.เทดรอส อัธนอม เกเบรเยซุส ให้เหตุผลสำคัญของการประกาศ "ภาวะฉุกเฉินโลก” ไม่ใช่เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน แต่เป็นเพราะการพบผู้ติดเชื้อในประเทศอื่น เพิ่มขึ้น เรื่อยๆ ความกังวลที่สุดของ องค์การอนามัยโลก คือหากไวรัสชนิดนี้ระบาดไปในประเทศที่มีระบบป้องกันด้านสาธารณสุขไม่ดีพอ จะทำให้ยากต่อการรับมือ


          0…คราวนี้ เมื่อประกาศ “ภาวะฉุกเฉินโลก" หันกลับมาดูประเทศไทย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้สถิติพบผู้ติดเชื้อชาวจีนในไทยมาเป็นลำดับสองรองจากจีน ทว่าตอนนี้ชาติอื่นกำลังแซงแล้วนะครับ มิวายสังคมโซเชียลประเทศไทยประเภทตื่นตูมบวกกับเป็นโรคคลั่งการเมือง ออกมาถล่มก่นด่า พาลมาลงที่ "รัฐบาลลุงตู่” เช่นเคย ทำนอง “เห็นมั้ย WHO ประกาศภาวะฉุกเฉิน รัฐบาลยังเชื่องช้าอยู่เลย"


          0…ทำไงได้ ยุคเสพข่าวสารหน้าจอโทรศัพท์เหมือนบริโภคอาหารจานด่วน นิยมอ่านสั้นๆ ใช้ความรู้สึกเป็นตัวตัดสิน โดยไม่ได้ติดตามในสาระรายละเอียด มิแปลกที่จะมีการผลิตข่าวลวง ข่าวปลอมมากมาย แถมนำพาผู้คนหลงเชื่อ ครั้นหน่วยงาน องค์กรสื่อที่เป็นที่ยอมรับเสนอข้อเท็จจริง กลับไม่เชื่อซะงั้น

 



          0…ขอย้ำ อ่านถ้อยแถลง WHO ให้ครบ ตั้งคำถามผลจากแถลงจะทำอย่างไรกันต่อ ในเมื่อสถานการณ์โรคชนิดนี้ติดต่อจากคนสู่คน จะรับมืออย่างไร … อสนีบาต… ยกรักแร้แสดงความเห็น ระหว่างนี้ไม่ต้องรอรัฐบาล รอวิทยาศาสตร์การแพทย์วิจัยหาวัคซีนหรอกครับ กลับมาสำรวจตนเองก่อน ตระเตรียมดูแลสุขภาพหมั่นศึกษารับคำแนะนำจากทางสาธารณสุข โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย กินร้อนช้อนกลาง นี่คือ เบสิกขั้นพื้นฐานตามหลักอนามัย ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีแต่โรคอุบัติใหม่ ช่างอยู่ยากเต็มทน


          0… คราวนี้ กลับมาที่องค์การอนามัยโลกอีกรอบ WHO ประกาศเพื่อให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางและพัฒนาการสาธารณสุขไม่ดีพอ ได้รับการสนับสนุนก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนประเทศไทยอยู่ระดับไหน ขออ้างอิง ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ อันเป็นสถาบันด้านการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก จัดอันดับ ไทย เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพเป็น อันดับที่ 6 จากทั้งหมด 195 ประเทศ และเป็น อันดับหนึ่งของเอเชีย ในการเฝ้าระวังติดตามโรคระบาด ฉะนั้นต้องมั่นใจต่อทีมแพทย์ของไทยในการสู้กับไวรัสโคโรนาครั้งนี้เช่นกัน


          0..แถลงของ WHO ต้องการให้คนทั่วโลกตระหนัก หาองค์ความรู้ใหม่ในการทำสงครามไวรัสชนิดนี้ พร้อมกับเปิดทางให้ได้รับคำแนะนำ จาก WHO อย่างทั่วถึง เหนืออื่นใด WHO ต้องการความร่วมมือ ไม่ได้ต้องการให้เกิดการกีดกันแตกแยก ทั้งย้ำเจตนาไม่ต้องการให้เลิกบินไปจีน ซึ่งตอนนี้มีประเทศทางยุโรปบางประเทศเริ่มสั่งงดบิน ซึ่ง WHO ไม่ต้องการเช่นนั้น… ตรงนี้ถึงบางอ้อ ทำไมไทยยังเปิดน่านฟ้าให้จีน แม้แต่ อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข เตรียมชงเรื่อง ของดวีซ่าชาวจีน มาประเทศไทยเข้าที่ประชุม ครม. โดน “ลุงตู่” ซึ่งเพิ่งหายป่วยจากไข้หวัดธรรมดา เบรกไปเรียบร้อยแล้ว


          0…ปิดท้ายให้ข้อมูลผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 60 อัพ และมีโรคประจำตัวด้วย ฉะนั้นการแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่นข้ามพรมแดนได้เร็วหากเทียบกับ ซาร์ส เมื่อ 17 ปีก่อน แต่อัตราการตายยังน้อยกว่าซาร์สที่เสียชีวิตทั่วโลกรวม 800 คน (ตอนนี้ผู้เสียชีวิตไวรัสอู่ฮั่น อยู่ในจีน 200 กว่าคน) ส่วนคนขับแท็กซี่ ที่ถือเป็นคนไทยรายแรก ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ผลการตรวจรักษาอาการดีขึ้น นี่จึงเป็นข่าวดีในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่น่าเสียดายกลับไม่ยักมีการขยายความให้เกิดการตระหนักแต่อย่าตระหนก
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ