คอลัมนิสต์

ซักฟอกรัฐธรรมนูญ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ซักฟอกรัฐธรรมนูญ คอลัมน์... เกาะขอบรั้วสภา

 

 

          ผ่านพ้นการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณไปเป็นที่เรียบร้อย มาคราวนี้ก็ถึงเวลาของการพิจารณาศึกษา การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กันอย่างจริงจังกันเสียที โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อวันที 14 และ 17 มกราคม ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญได้นัดประชุม ซึ่งการประชุมในวันดังกล่าวนับว่าได้น้ำได้เนื้อกันพอสมควร

 

 

          หลักใหญ่ใจความอยู่ที่การกำหนดแนวทางกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยจะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อทำหน้าที่เป็นการเฉพาะ ในประเด็นนี้พีระพันธุ์ย้ำว่าต้องสร้างกลไกที่เปิดกว้างให้ประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่กำลังเป็นช่องการสื่อสารหลักของคนไทยในยุค 4.0 ซึ่งสถาบันพระปกเกล้าจะเข้ามาเป็นเจ้าภาพเพื่อออกแบบกระบวนการเหล่านี้ให้แก่คณะกรรมาธิการวิสามัญ


          การทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ‘พีระพันธุ์’ มีนโยบายว่าจะทำงานเป็นคู่ขนาน กล่าวคือ คณะกรรมาธิการวิสามัญจะพิจารณาเนื้อหาของ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ควบคู่ไปกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้การทำงานที่อยู่ภายใต้เวลาที่มีจำกัดนั้นเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด


          อย่างไรก็ตามการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ก็ยังมีข้อติดขัดอยู่พอสมควรเนื่องจากงบประมาณที่คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ได้รับสำหรับการดำเนินงานนั้นเพียงพอต่อการตั้งคณะอนุกรรมาธิการแค่ 2 ชุดเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ประธานสภาได้ให้เอาไว้ ทำให้การตั้งคณะอนุกรรมาธิการอาจจะต้องมีการประสานงานไปยังประธานสภาว่าจะขอยกเว้นเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้สามารถตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ต่อไป ภายหลังกฎหมายงบประมาณ พ.ศ.2563 บังคับใช้อย่างเป็นทางการ




          ขณะเดียวกันเรื่องการก่อสร้าง อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ก็ยังเป็นปัญหาปวดหัวอย่างต่อเนื่อง อย่างก่อสร้างห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือห้องประชุมพระสุริยัน ที่เดิมมีการวางแผนน่าจะเปิดใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์แต่มีแนวโน้มว่าอาจจะล่าช้าออกไป ด้วยเหตุนี้ทำให้ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องลงไปตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างพร้อมกับสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และคณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไม่รู้เหมือนกันว่างานที่เคยล่าช้าจะเร็วขึ้นหรือไม่นั้น คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์


          แต่เหนืออื่นใดประธานสภาย้ำต่อส.ส.ว่าการใช้ห้องประชุมจันทรา ซึ่งเป็นในส่วนของวุฒิสภานั้นส.ส.จะต้องใช้สถานที่ด้วยความเกรงใจ เพราะเมื่อห้องประชุมของสภาเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ก็ต้องมีการคืนพื้นที่ให้แก่วุฒิสภาด้วยสภาพที่เรียบร้อยที่สุด


          นอกเหนือไปจากงานภายในประเทศที่สภากำลังทำงานด้วยความขะมักเขม้นแล้ว ปรากฏว่าการประชุมเพื่อสร้างความร่วมมือก็เป็นอีกงานที่ฝ่ายนิติบัญญัติให้ความสำคัญเช่น โดย สุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ สมาชิกวุฒิสภา และ จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้แทนสมาชิกรัฐสภาไทย เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความเข้าใจและตระหนักในเรื่องเพศสภาพ (Gender Sensitivity Training Workshop) โดยมีสมาชิกรัฐสภาจากประเทศสมาชิกสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 6 ประเทศ เนื้อหาของการประชุมอยู่ที่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมกันนิยามความคาดหวังที่มีต่อความเป็นชายและหญิงในแต่ละประเทศ เพื่อทำความเข้าใจความแตกต่าง ที่สังคมในแต่ละชาติมีต่อเพศสภาพเครดิต


          ปิดท้ายกันด้วยความเคลื่อนไหวของวุฒิสภา ล่าสุดเดิมที คำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.เตรียมตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาเรื่อง การให้สัมภาษณ์ด้วยข้อมูลที่คลาดเคลื่อนของรมว.ต่างประเทศ กรณีการพิพาทระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบถึงผลประโยชน์ของชาติและประชาชน และการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของวิกฤติการณ์โลก แต่ปรากฏว่า ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ไม่สามารถมาตอบกระทู้ดังกล่าวได้ทำให้เรื่องนี้ต้องกระเด็นหลุดไปจากวุฒิสภาอย่างน่าเสียดาย


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ