คอลัมนิสต์

โดนน็อกซ้ำซาก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดนน็อกซ้ำซาก โดย...  สถิตย์ธรรม

 

 

          บรรดาคอการเมืองซึ่งหนักไปทาง "กองแช่ง” มากกว่า "กองเชียร์” เคยวิพากษ์รัฐบาล "ลุงตู่” อยู่ในสภาพเสียงปริ่มน้ำ คงเอาตัวไม่รอด อยู่ไม่ครบวาระต้องมีอันเป็นไปไม่เกินหนึ่งปีแหงๆ


          โดยเฉพาะการบริหารจัดการภายในสภาที่มีเหตุการณ์สภาล่มตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการประชุมสภาวาระยิบย่อย ตั้งแต่แก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาไปถึงญัตติ การตั้งกรรมาธิการศึกษาผลกระทบมาตรา 44 ถูกนำไปขึ้นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง “รัฐนาวาส่อล่ม”

 

 

          แต่หารู้ไม่ยิ่งทำให้รัฐบาลที่มาจากการผสมผสานของพรรคการเมืองที่ อยากอยู่ในอำนาจ ศึกษาหาแนวทางแก้ไขฮึดกลับจากการตั้งรับมาเป็นรุก จากเสียงปริ่มน้ำกลับมาเป็นเสียงเหนือน้ำไร้กังวล หรือแม้แต่การประสบชัยชนะเลือกตั้งซ่อมทั้งสองเขตในจังหวัดนครปฐมและขอนแก่น ด้วยการล้มแชมป์เก่าจากพรรคฝ่ายค้านด้วยกันทั้งสิ้น ก็พอจะบ่งบอกว่า พรรครัฐบาลตั้งหลักรับมือกลเกมการเมืองได้แล้ว
  

          ความจริงความเคลื่อนไหวจากบางกลุ่มบางฝ่ายหาทางให้ “รัฐบาลพังพังพัง” เพียรพยายามมาทุกช็อต นับตั้งแต่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี การแถลงนโยบายรัฐบาลด้วยการที่ฝ่ายค้านสบช่องโจมตีผ่านการอภิปรายอ้างว่านายกฯ และครม.ถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน เป็นรัฐบาลไม่สมบูรณ์แบบ


          แม้แต่การทำงานในสภาที่หาแต่ประเด็นดิสเครดิตรัฐบาลมาพิจารณาในคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ โดยที่มีสัดส่วนส.ส.พรรคฝ่ายค้านนั่งกุมบังเหียนอยู่ชนิดที่เรียกว่าจ้องพิมพ์แต่การ์ดเชิญ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องมาชี้แจงต่อกรรมาธิการคณะต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับจัด เวทีเชือด สร้างความสะใจเอามัน ครั้นไม่มาก็หาเหตุกระดกลิ้นให้ข่าวต่อสื่อทันที “นายกฯ หนีสภา” หวังจะได้พื้นที่ข่าวเป็นผลดีต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เป็นต้น ก็ดูจะผิดคาดกันไปหมดเพราะผลตกกระทบกลับไปสู่พรรคฝ่ายค้านสร้างความเอือมระอาในสายตาประชาชน


          กระทั่งการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีวาระสองและวาระสามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็หักปากกาเซียน เมื่อผลการลงมติกลับได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบอย่างไร้กังวล
  


            จากที่เคยฟุ้งกันว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณในวาระสองและสามไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ โดยเฉพาะการเตรียมล่อเป้าถล่มงบประมาณกระทรวงกลาโหมไปจนถึงกลเกมการเข้าประชุมยกมือโหวตให้รัฐบาลต้องได้รับความพ่ายแพ้ ในที่สุดก็ปรากฏเป็นหนังคนละม้วนในลักษณะไม่ดุเดือดอย่างที่คิดชนิด “กองแช่ง” ไม่ถูกใจสิ่งนี้อีกครา


          เมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ได้รับการโหวตรับรองจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ผ่านวาระสามแถมเสียงสนับสนุน กลับปรากฏมาจากซีกพรรคการเมืองฝ่ายค้านถึง 7 รายบวกกับไม่ลงคะแนนอีก 1 ราย ถัดจากนี้เข้าสู่ขั้นตอนวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งดูตามปฏิทินเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2563
  

          ผ่านมาตั้งแต่ปีที่แล้วจนมาถึงต้นปีนี้ พอประเมินฝีมือการทำหน้าที่ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ระดับหนึ่ง ฝ่ายใดก้าวเดินไปข้างหน้าแสวงหาความสร้างสรรค์บริหารประเทศ กับอีกฝ่ายที่ย่ำเท้าอยู่กับการเล่นเกมการเมืองแบบเดิมๆ ดิสเครดิตไปวันๆ ไม่ได้แสวงหามิติใหม่ในการเสนอแนะการพัฒนาประเทศ สุดท้ายฝ่ายที่ล่มไม่เป็นท่ากลับกลายเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน
  

          มิพักกล่าวถึงเกมการเมืองนอกสภาที่ออกมาคั่นจังหวะ สลับกันไปมากับเกมการเมืองในสภา ผ่านการออกแบบของอดีตส.ส.ผู้ถูกตีตราถือครองหุ้นสื่อจนต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งเหลือเพียงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอย่างเดียว ล้วนจะพาองคาพยพลงเหวไปด้วยจากต้องคดียุบพรรครอการวินิจฉัยในอีกไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้
  

          การสรรหาทุกวิธีล้างสมองคนรุ่นใหม่ให้มีความคิดผิดแผกไปจากแนวทางตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในลักษณะที่กำลังขยายเครือข่ายลัทธิชังชาติ ผ่านการจัดกิจกรรม “วิ่ง ไล่ ลุง” หรือกิจกรรมคอนเสิร์ตในอีกไม่กี่วัน ด้วยหัวข้อ ไม่ถอยไม่ทน
  

          หากเป็นการเปิดพื้นที่ให้ระบายความคับแค้นใจด้วยการปราศรัยกันไปมา แล้วจากไปคงจะไม่มีอะไร เป็นสิทธิเสรีภาพทางการเคลื่อนไหวตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่สามารถกระทำได้ แต่ตราบใดที่ชาวคณะพาคนรุ่นใหม่ล้ำเส้นกรอบกติกาบ้านเมืองเป็นเรื่องที่ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
  

          ล้วนแต่เป็นวิธีวนเวียนซ้ำซากสร้างความแตกแยกไม่สร้างสรรค์ย่อมถูกน็อกได้ทุกเวทีทุกเวลา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ