คอลัมนิสต์

สัญญาณเข้มการเมืองต้นปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สัญญาณเข้มการเมืองต้นปี บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2563

 

 


          ปรากฏการณ์การเมือง “วิ่งไล่ลุง-วิ่งเชียร์ลุง” ซึ่งมีมวลชนทั้งสองฝ่ายออกมาแสดงพลังถือเป็นการแสดงออกทางระบอบประชาธิปไตยที่ต่างฝ่ายต้องเคารพในสิทธิทางการเมืองตราบใดที่ไม่มีการละเมิดข้อกฎหมายและดำเนินการถูกต้องตามระเบียบกติกาบ้านเมือง โดยสังคมส่วนรวมเองก็ต้องใช้วิจารณญาณให้ถ้วนถี่ในการรับฟังข้อมูลข่าวสารอีกทั้งไตร่ตรองว่าสิ่งที่รับฟังนั้นเป็นเหตุเป็นผลมีความน่าเชื่อถือเพียงใดเพราะบทเรียนในอดีตของการเมืองไทยที่ขัดแย้งมาตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ย่อมเป็นสิ่งสะท้อนในมิติต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และคดีความการเมืองในอดีตยังมีอีกมากที่ยังไม่เสร็จสิ้น ก็เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปในปัจจุบันได้เช่นกัน

 

อ่านข่าว...  วิ่งไล่ vs เชียร์ (ลุง) สงครามตัวแทน

 

 

          การนำมวลชนมาชุมนุมโดยไม่รับผิดชอบต่อความปลอดภัยและชีวิตของผู้ร่วมชุมนุมเพียงเพราะต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างที่ต้องการเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำหรือให้เกิดขึ้นอีกและยังแสดงให้เห็นถึงเจตนาแอบเร้นที่หลีกหนีไม่ได้เลยว่าประสงค์ให้เกิดความรุนแรงและขยายวงเพิ่มขึ้นซึ่งก็เป็นเกมการเมืองที่เดินตามขั้นตอนเพื่อไปให้ถึง “จุดติด” ยิ่งชัดเจนเมื่อแกนนำประกาศว่าจะมีม็อบเกิดขึ้นอีกต่อเนื่องในปีนี้ พร้อมโหมเชื้อไฟให้เห็นว่าการลงถนนเป็นความชอบธรรมเพราะระบบต่างๆ ถูกครอบงำปิดกั้นและไม่มีความยุติธรรมหลงเหลืออีกแล้ว จึงเป็นเพียงสตอรี่ใหม่เปลี่ยนตัวละครแต่เดินบนแพทเทิร์นเดิมๆ ที่ก่อความบอบช้ำให้ประเทศ


          ในภาวการณ์เช่นนี้สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือการเร่งปฏิกิริยาเพื่อไปให้ถึงจุดพีคซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วและเหตุการณ์ในอดีตจะย้อนกลับมาอีกครั้งหรือไม่ แต่เชื่อว่าสังคมเจ็บมามากกับเรื่องนี้และไม่ต้องการให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว แม้จะมีการคาดหมายว่าจะไม่มีความรุนแรงการเมืองในบ้านเมือง และมองว่าวิ่งเชียร์-วิ่งไล่เป็นแค่เหตุการณ์สีสันการเมืองแต่ก็ไม่ควรตั้งอยู่ในความประมาทและทุกส่วนถือว่าควรมีส่วนร่วมในการช่วยกันพยายามลดเงื่อนไขความขัดแย้งลงและให้กติกาบ้านเมืองทำหน้าที่ไปตามระบบ ถ้าใช้ความชั่งใจไตร่ตรองให้รอบด้านและผลกระทบที่จะเกิดกับส่วนรวมก็เชื่อว่าเหตุวิกฤติจะไม่หวนกลับมาอีก




          ในส่วนรัฐบาลต้องเร่งทำการบ้านในทุกด้านทั้งเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังมีปัญหาในประเทศรวมไปถึงสถานการณ์ในต่างประเทศและภาวะเศรษฐกิจโลก อีกทั้งด้านภัยธรรมชาติ ทั้งเรื่องภัยแล้งที่ประชาชนจำนวนมากในหลายจังหวัดประสบความเดือดร้อน อีกทั้งต้องทำงานด้วยความโปร่งใสสามารถตรวจสอบถ่วงดุลได้ ซึ่งเชื่อว่าทุกปัญหาจะถูกเชื่อมโยงเข้ารวมกับการเมือง และที่จะมาถึงในเร็ววันนี้คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี จึงเห็นได้ว่าปัญหาเหล่านี้เป็นการทำงานที่หนักแน่นอน โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นต้องมีเอกภาพมีประสิทธิภาพในการทำงานและรับมือให้ได้ ยิ่งสัญญาณการเมืองเข้มข้นแต่ต้นปียิ่งต้องแสดงฝีมือให้ประจักษ์
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ