คอลัมนิสต์

ยกคดี สมคิด พุ่มพวง  รื้อระบบล้อมคอก อาชญากรโดยสันดาน 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จำเลยรายสำคัญ ก่อคดีสะเทือนขวัญ ราชทัณฑ์ต้องมีเทคนิคในการดึงคนกลุ่มนี้ให้อยู่นานที่สุด ต้องขังไว้ในเรือนจำให้ยาวนานจนเขี้ยวหัก เล็บหลุด หมดศักยภาพทำร้ายสังคม

        เมื่อสังคมตั้งคำถาม เหตุใด “สมคิด พุ่มพวง” ผู้ก่อคดีฆาตกรรมหญิงสาวมาอย่างโชกโชน 5 ศพ ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต จึงพ้นโทษเดินออกจากเรือนจำหลังติดคุกจริงเพียง 14 ปี มิหนำซ้ำอดีตผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมยังแปรสภาพกลับมาเป็นเสือร้ายอาละวาดขย้ำคอเหยื่อ เพิ่มสถิติเหยื่อเป็นศพที่ 6  

        คำตอบคือ ความผิดพลาดของระบบกลั่นกรองของกรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติตามระเบียบ ทำงานไปตามรูทีนปกติ         “สมคิด” เมื่อถูกจับก็รับสารภาพตลอดกล่าวหา โทษจำคุกตลอดชีวิตที่ได้รับถือว่าสูงสุด โดนซ้ำกี่คดีก็ไม่สามารถเพิ่มโทษให้มากไปกว่าจำคุกตลอดชีวิต  

                        ยกคดี สมคิด พุ่มพวง  รื้อระบบล้อมคอก อาชญากรโดยสันดาน 

       นอกจากนี้การรับสารภาพตั้งแต่ชั้นตำรวจจนถึงชั้นศาลทำให้กระบวนพิจารณาคดีใช้เวลาไม่นาน  เมื่อคดีถึงที่สุดเร็ว “สมคิด” จึงเข้าสู่ระบบจัดชั้นนักโทษเร็ว แตกต่างจากคดีอุกฉกรรจ์อื่นที่จำเลยต่อสู้จนถึงที่สุด 3 ศาล  โดยนักโทษเด็ดขาดเข้าใหม่ที่ถูกจัดชั้นเป็นชั้นกลาง จะเลื่อนชั้นได้ ต่อเมื่อเป็นนักโทษที่ถูกคุมขังในเรือนจำมาแล้วไม่น้อยกว่า6 เดือนนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด  หรือเป็นนักโทษเด็ดขาดมาน้อยกว่า 6 เดือนแต่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี

         หลักเกณฑ์ดังกล่าวใช้บังคับกับนักโทษทุกรายในเรือนจำทั่วประเทศ ส่งผลให้นักโทษทุกราย รวมถึง “สมคิด” เมื่อเข้าคุกก็ต้องปรับตัวเข้ากับสังคมคนคุก พยายามเข้าโครงการฝึกอบรม ฝึกอาชีพ ฝึกวินัย ฝึกสมาธิ  เรียกได้ว่าเข้ารับการพัฒนาพฤตินิสัยแทบจะทุกหลักสูตร บางคนยอมตัดใจเข้าโครงการเลิกบุหรี่   เพื่อให้มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์พิจารณาเลื่อนชั้น จากนักโทษชั้นกลาง เป็นชั้นดีและชั้นเยี่ยม  เป้าหมายไม่ใช่แค่สิทธิประโยชน์ในการเยี่ยมญาติใกล้ชิด แต่เป็นการได้กลับบ้านเร็ว ออกก่อนกำหนด  

                อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:รวบ "สมคิด พุ่มพวง" บนรถไฟที่ปากช่อง

ยกคดี สมคิด พุ่มพวง  รื้อระบบล้อมคอก อาชญากรโดยสันดาน 

          ด้วยเหตุนักโทษอุกฉกรรจ์ที่ต้องโทษสถานหนัก..ติดนาน  ทำให้เขามีโอกาสได้รับการลดโทษมากกว่าผู้ต้องโทษจำคุกไม่กี่ปี ทำให้ในอดีตนักโทษประหาร ติดคุกเฉลี่ยนาน 19 ปี ก็ได้รับการปล่อยตัว 

         หลายคนอาจยังไม่คลายสงสัย และมีคำถามค้างคาใจว่า ทำไมจึงต้องวางระเบียบให้ราชทัณฑ์มีระบบลดวันต้องโทษ- พักการลงโทษ ให้ติดยาวๆ เต็มเหนี่ยวตามคำพิพากษาไปเลยไม่ได้หรือ  

         ก็คงต้องมองย้อนไปถึงวิวัฒนาการของการลงโทษในกระบวนการยุติธรรมทั่วโลก ในอดีตวัตถุประสงค์ของการลงโทษ เพื่อแก้แค้นทดแทนให้สาสมกับความผิด สร้างความหลาบจำให้สังคม ฆ่าคนตายก็ต้องถูกประหาร ลักเล็กขโมยน้อยโดนตอกเล็บ ลักลอบเป็นชู้ต้องถูกประจาน  

ยกคดี สมคิด พุ่มพวง  รื้อระบบล้อมคอก อาชญากรโดยสันดาน 

                                          สมคิด พุ่มพวง

         ต่อมาเมื่อโลกเจริญขึ้นผู้คนมองว่าการลงโทษระบบเดิมทารุณโหดร้าย ลงโทษได้แต่ต้องมีมนุษยธรรม โทษอาญาในโลกสมัยใหม่จึงเหลือเพียง ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ ริบทรัพย์ เมื่อนำไปบวกกับความเชื่อของนักอาชญาวิทยาที่ว่า คนทุกคนที่เกิดมาล้วนต้องการเป็นคนดี กระบวนการแก้ไขให้นักโทษเปลี่ยนมาเป็นคนดีตกเป็นภาระและหน้าที่ของราชทัณฑ์ โดยมาตรการลดโทษ-พักโทษเป็นแรงจูงใจหลัก ที่ให้นักโทษมีกำลังใจที่จะปรับเปลี่ยน

                ยกคดี สมคิด พุ่มพวง  รื้อระบบล้อมคอก อาชญากรโดยสันดาน 

                                                   ณรัชต์ เศวตนันทน์

          แต่…ปัจจุบัน มุมมองความคิดทางอาชญาวิทยาเปลี่ยนอีกครั้ง หลักคิดที่ว่าคนทุกคนที่เกิดมาล้วนต้องการเป็นคนดี … ใช้ได้กับคนบางคน  ใช้ไม่ได้กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่เป็นโจรโดยสันดาน

          ในอดีตเราเคยใช้ศาสตร์การดูโหงวเฮ้งจากใบหน้า หรือจำแนกตามตำราโหราศาสตร์ถึงคนที่เกิดมาในฤกษ์ “ดาวโจร - กาลีบ้านกาลีเมือง” ซึ่งเชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง  แต่เทคโนโลยีเชื่อสมัยใหม่ทำให้เราสามารถพิสูจน์เซลล์อาชญากรหรือดีเอ็นเอโจร ได้ด้วยวิทยาศาสตร์  โดยในเซลล์สมองของคนที่เกิดมาเป็นอาชญากรโดยสันดาน  จะมีเซลล์บางตัวที่ส่งผลต่อความรู้สึกยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด กดประสาทด้านการแยกแยะผิด-ถูก  

          นอกจากการสแกนสมองแยกแยะโจรโดยสันดาน หรือคนที่มีความเป็นอาชญากรอยู่ในตัว  เรายังสามารถแยกแยะได้ด้วยแบบทดสอบทางจิตวิทยา หรือ Criminal mind ซึ่งกรมราชทัณฑ์ริเริ่มระดมนักทัณฑวิทยา นักอาชญาวิทยา และนักจิตวิทยา มาร่วมทำแบบประเมินตั้งแต่ปี 2555-2556 ก่อนจะคลอดแบบประเมินมากกว่า 10 แบบ ใช้ทดสอบประเมินนักโทษตั้งแต่แรกรับ ควบคุมตัว พัฒนาพฤตินิสัย ไปจนถึงแบบประเมินสุดท้ายก่อนปล่อย เพื่อบอกสังคมให้ได้ว่านักโทษที่ปล่อยตัวออกไปจากการพักโทษควรได้รับการปล่อยเพราะอะไร ขณะเดียวกันก็มีคำตอบให้กับนักโทษได้ว่าทำไมเขายังไม่สมควรได้รับการพักโทษ

         ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับคำชี้แจงที่แน่ชัดว่าแบบประเมินจิตวิทยายังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบ หรือถูกนำมาใช้แล้วกับผู้ต้องโทษกลุ่มใดบ้าง แต่สันนิษฐานว่า อาจไม่ได้ใช้ทดสอบ “สมคิด” เพราะเขาไม่ได้ถูกปล่อยในระบบพักการลงโทษ แต่เป็นการปล่อยเพราะติดคุกมาจนครบกำหนดโทษ ตามที่ได้รับการลดโทษในวโรกาสสำคัญต่างๆ   การปล่อยตามป้าย จึงต้องปล่อยไปโดยไม่มีระบบติดตาม ไม่มีเงื่อนไขให้ต้องรายงานตัว ส่งผลให้คนที่เป็นอาชญากรโดยสันดานทำผิดซ้ำหลังพ้นโทษเพียงไม่กี่เดือน

ยกคดี สมคิด พุ่มพวง  รื้อระบบล้อมคอก อาชญากรโดยสันดาน 

         ความผิดพลาดจากระบบกลั่นกรองของกรมราชทัณฑ์ในครั้งนี้  ที่ส่งผลให้ฆาตกรผู้ก่อคดีฆ่าหญิงสาว  5 ศพ พ้นโทษก่อนกำหนดแล้วออกไปก่อเหตุฆาตกรรมซ้ำเป็นศพที่ 6  ไม่ได้ถูกปล่อยผ่านเลย เพียงเพราะภาวะนักโทษล้นคุกซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการจำแนกและบำบัดพฤตินิสัยเป็นรายบุคคล ด้วยจำนวนนักโทษกว่า 3 แสนคน ขณะที่เรือนจำมีขีดความสามารถในการรองรับได้เพียง 2 แสนคน 

        โดย  “สมศักดิ์ เทพสุทิน” สั่งการให้กรมราชทัณฑ์รื้อระบบกลั่นกรอง ก่อนพัก-ลด ต้องรอบคอบ  เคยก่อเหตุคดีร้ายแรงอะไรมาบ้าง และเข้าข่ายที่จะได้รับการลดวันต้องโทษหรือพักการลงโทษหรือไม่ รายใดควรปล่อย รายใดไม่ควรได้รับการลดโทษเลย กรณีนักโทษรายสำคัญ ก่อคดีอุกอาจสะเทือนขวัญเข้าข่ายเป็นอาชญากรโดยสันดาน โดยเฉพาะกลุ่มมือปืนรับจ้าง ปล้นฆ่าข่มขืน ต้องมีเทคนิคในการ ดึงคนกลุ่มนี้ให้อยู่นานที่สุด ประเมินเลื่อนชั้นนักโทษยากที่สุด ต้องขังไว้ในคุกให้ยาวนานจนเขี้ยวหัก เล็บหลุด หมดศักยภาพในการทำร้ายสังคม ซึ่งพฤติการณ์ในคดีจะถูกนำมาเป็นตัวตั้ง  
         สำหรับลำดับชั้นนักโทษ ซึ่งจัดแบ่ง ชั้นเยี่ยม ชั้นดีมาก ชั้นดี ชั้นกลาง ชั้นเลว และชั้นเลวมาก กรณีของ “สมคิด” เมื่อกลับเข้ามารอบนี้ เขาจะยังไม่ถูกจัดชั้น เพราะยังไม่ใช่นักโทษเด็ดขาด ต้องรอจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งครั้งนี้ “ สมคิด” จะไม่ได้เริ่มต้นที่นักโทษชั้นกลางอีกต่อไป แต่อาจถูกจัดชั้นเป็นนักโทษชั้นเลว หรือเลวมาก จากการกระทำผิดซ้ำ ต้องโทษจำคุกอีกภายในเวลา 5 ปี นับจากวันพ้นโทษ และการเลื่อนชั้นนักโทษของเขายังเป็นเรื่องยาก เพราะอาจเข้าเงื่อนไขต้องเพิ่มเวลาในการเลื่อนชั้น  โดยเขาอาจต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปีในการได้รับการพิจารณา 1 ครั้ง  หรืออาจต้องใช้เวลายาวนานกว่านั้น ตามเงื่อนไขข้อสุดท้ายที่ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ใช้ดุลพินิจ  
       

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ