คอลัมนิสต์

เจาะเบื้องหลังเลื่อนศึกซักฟอก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจาะเบื้องหลังเลื่อนศึกซักฟอก โดย...  ทีมข่าวการเมือง เครือเนชั่น

 

 

 

          การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครม.ของ “เจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้าน” ที่ตอนแรกวางไทม์ไลน์ไว้ในช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคมนั้น อาจจะเลื่อนออกไป...เพราะแกนนำเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านมองเกมว่าเมื่อ ”วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี เปรยถึงการนับห้วงเวลาการยื่นญัตติว่าควรนับเวลาใดระหว่างรอบปีตามปฏิทินหรือรอบปีการเริ่มทำงานของครม.เรือเหล็ก เพราะศึกซักฟอกนั้นกฎหมายระบุให้ทำได้ปีละหนึ่งครั้ง และเมื่อคีย์แมนเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านมองว่าเมื่อมันกำกวมแบบนี้จึงทำหนังสือสอบถาม “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้วินิจฉัยและรอความชัดเจนตรงนี้ออกมาก่อน...

 

 

          และตอนนี้คำตอบชัดๆ ที่ได้รับมาคือปฏิทินการเมืองนั้น “หนึ่งปี” ยึดตามรอบปีการเริ่มทำงานของ ครม.เรือเหล็ก (พ.ค.2562-พ.ค.2563) ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้ห้วงเวลามกราคม 2563 ก็ไม่ผิด และก่อนหน้านี้ “รหัส” ที่จับและถอดความจากคีย์แมนเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านระบุว่า “การเลื่อนศึกซักฟอก” จะไปอยู่ช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า เพราะช่วงต้นเดือนมกราคมปีหน้า สภาผู้แทนฯ ต้องลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาทเสียก่อน เกมนี้เจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านน่าจะวางหมากไว้ว่า ร่างกฎหมายงบประมาณเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจที่ตอนนี้ออกอาการย่ำแย่ไปทุกหัวระแหงแดนไทย ดังนั้นร่างกฎหมายฉบับนี้จำเป็นยิ่งที่ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเพื่อมาขับเคลื่อนระบบการเงินของเมืองไทยในวันข้างหน้า ดังนั้นเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านวางหมากไว้ว่าควรรอให้ร่างกฎหมายงบประมาณผ่านเสียก่อนโดยน่าจะใช้วิธี ”งดออกเสียง” จากนั้นหมากการเมืองอื่นๆค่อยขยับน่าจะเหมาะสมกว่า


          เพราะร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้หากพรรคร่วมฝ่ายค้าน "คว่ำ” รัฐบาลเรือเหล็กมีสองทางเลือกคือ "นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภา” ตรงนั้นการเมืองไทยจะวุ่นไปอีกเพราะแกนนำเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านมองแล้ว "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” คงไม่ใช้วิธีลาออกเพราะเสียศักดิ์ศรี "สร.1” และในประวัติศาสตร์การเมืองไทย สร.1 แทบไม่ใช้วิธีนี้ ดังนั้น "การยุบสภา” น่าจะเป็นวิถีที่เหมาะกว่าหากเกมการเมืองออกไปในแนวทางนั้น

 



          สมมุติว่า หาก สร.1 เลือกวิธี "ยุบสภา” เมื่อร่างกฎหมายงบประมาณโดนคว่ำ คนที่ลำบากคือ "ส.ส.ทุกคน” เพราะต้องหาเสียงใหม่และคงใช้กติกาหลักฉบับเดิม และมองสถานการณ์ยามนี้แล้วพบว่าตอนนี้ท่อน้ำเลี้ยงของหลายพรรคยังตีบตัน เว้นเสียแต่บางพรรคที่พอจะเปิดก๊อกแล้วช่วยเหลือผู้สมัครส.ส.ได้ง่ายกว่า หากเป็นแบบนี้หลายพรรคคงไม่สะดวกใจที่จะยอมเสี่ยงใช้วิธีนี้ แม้ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำรัฐบาลจะมีคะแนนนิยมที่ติดลบก็ตาม เพราะหากเลือกตั้งใหม่ "พปชร.” ไม่น่าจะยึดตัวเลขส.ส.วันนี้ไว้ได้ และจำนวนว่าที่ส.ส.คงกระจายออกไปให้หลายพรรค รวมทั้งรอยปริของพรรคร่วมเรือเหล็กที่ตอนนี้เริ่มฉายแววอาการขัดแย้งเล็กๆ ออกมาแล้ว แม้พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐจะยืนยันความแน่นเหนียวของครม.เรือเหล็กก็ตาม แต่ตรงนี้ต้องรอประเมินรายวันเพราะอะไรบางอย่างทางการเมืองมักเกิดแบบชั่วพริบตา...


          และอีกข้อเท็จจริงคือ หากการยุบสภาเกิดขึ้นเพราะร่างกฎหมายงบประมาณโดนคว่ำ หนึ่งในความผิดที่สังคมจะตำหนินั้น "พรรคร่วมฝ่ายค้าน” จะโดนข้อหาว่าเล่นการเมืองมากไปจนชาวบ้านเดือดร้อนทั่วเมือง ตรงนี้ย่อมมิใช่ผลบวกต่อเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านเลย..รวมทั้งมีการยืนยันจากแกนนำเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้านเองว่า "ส.ส.งูเห่าบางชีวิตจากฝ่ายค้านจะเทแต้มให้เรือเหล็กชัวร์กับร่างกฎหมายงบประมาณ" ดังนั้นปิดกล่องเลยว่า "ร่างกฎหมายงบประมาณผ่านความเห็นชอบแน่” เพราะส.ส.ขั้วตรงข้ามมาเทคะแนนให้ แต่จะผ่านความเห็นชอบ "กี่แต้ม” นั้นรอติดตามกัน...


          แต่นัยที่แท้จริงของการส่อเลื่อนศึกซักฟอกน่าจะเป็นเพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านยังหา “ข้อมูลเด็ดๆ” ที่เป็นหมัดน็อกครม.เรือเหล็กไม่ได้มากกว่า... เพราะแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายคนยอมรับตรงกันว่า ”ตอนนี้กำลังหาข้อมูลการทุจริตของรัฐบาล ยอมรับว่าครม.เพิ่งทำงานไม่กี่เดือนข้อมูลเหล่านี้หาได้ลำบาก ดังนั้นควรรอเวลาอีกระยะน่าจะเหมาะสมกว่า โดยเฉพาะการดูข้อมูลจากกมธ.วิสามัญงบประมาณและรอข้อมูลจากสังคมที่ยื่นเข้ามาให้ไปตรวจสอบ”


          “กังวลว่าประธานสภาผู้แทนฯ อาจรับลูกรัฐบาลให้บรรจุวาระนี้ไปไว้ในช่วงปลายปี ตอนนั้นคนไทยเริ่มเดินทางไปฉลองปีใหม่แล้ว หากอภิปรายตอนนั้นคงไม่มีใครฟังและมันทำลายบรรยากาศความสุขของคนไทยด้วย” แกนนำพรรคสีส้มคนหนึ่งให้ข้อมูล


          หนึ่งในคีย์แมนพรรคเพื่อไทยระบุว่า “ตอนนี้ยังไม่มีการมอบหมายภารกิจเพราะประเด็นการอภิปรายอยู่ที่ผู้ใหญ่ในพรรคคนหนึ่งและยังไม่แจกจ่ายภารกิจ...” และ ”กลัวว่าช่วงนั้นชนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่นด้วย ตอนนี้พรรคกระจายแกนนำและส.ส.ไปหาเสียงเพื่อเพิ่มหนึ่งส.ส.ให้พรรค ตอนนี้เสียงของรัฐบาลแกว่งแล้วเห็นจากการที่สภาผู้แทนฯ ล่มสองครั้งติดต่อกันจากญัตติตั้งกมธ.วิสามัญศึกษา ม.44 ของคสช. และยังมีญัตติศึกษาและแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก หากรัฐบาลยังยืนยันแบบเดิมสภาล่มต่อแน่ เพราะฝ่ายค้านวอล์กเอาท์ต่อ ดังนั้นหากทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันแบบนี้มันจะไม่มีผลดี จึงมองว่าเลื่อนการอภิปรายไปก่อนดีกว่า เพราะเรื่อง ม.44 และแก้รัฐธรรมนูญในสภาน่าจะมีเหตุสภาล่มเรื่อยๆ เพราะเสียงปริ่มน้ำ อย่างไรเสียก็ต้องใช้ฝ่ายค้านลงมติและรัฐบาลต้องรับผิดชอบองค์ประชุม หรือถ้าสภาไม่ล่ม เรื่อง ม.44 และแก้รัฐธรรมนูญฝ่ายค้านก็ยังนำมาใช้ได้และใช้ได้เรื่อยๆ เพื่อขยายผล เพราะมองแล้วว่ารัฐบาลไม่ให้มีการตั้งกมธ.วิสามัญสองชุดนี้แน่เพราะมันจะขยายผลไปถึง 3 ป. เรื่องนี้ยื้อกันอีกนานและผลลบอยู่ที่รัฐบาลมากกว่า”


          ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์คนหนึ่งของพรรคเสรีรวมไทยบอกว่า "ยอมรับว่าตอนนี้หาข้อมูลอภิปรายยาก แม้จะมีข้อมูลเดิมๆ ของคสช.และรัฐบาลที่แล้ว แต่ก็ใช้ไปแล้วช่วงอภิปรายทั่วไป หากนำข้อมูลเก่ามาพูดสังคมคงตำหนิ”


          ประมวลข้อมูลจากฝ่ายค้านในข้างต้นมันมองเกมการเมืองในยามหน้าได้แน่ชัดแล้วว่า ม.44 และแก้รัฐธรรมนูญ จะเป็นเครื่องมือเลี้ยงกระแสเจาะเรือเหล็กให้รั่วเพิ่ม และจับจังหวะเหยียบตาปลาของพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งรอยแผลของผู้แทนฯบางคนในขั้วรัฐบาลที่ตอนนี้มีกระแสว่าผู้ใหญ่บางคนบนเรือเหล็กสั่งดูแลขุนพลปะ-ฉะ-ดะที่ไปทำหน้าที่กันชนฝ่ายค้าน ตรงนี้อาจจะเกิดช่องให้ฝ่ายค้านใช้ทุบกลับบนเกมการเมืองและอาจลากโยงไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังว่าใช้คำสั่งโดยมิชอบเพื่อเอื้อพวกพ้อง


          ...ดังนั้นการเลื่อนศึกซักฟอกของฝ่ายค้านไปอีกระยะน่าจะเหมาะสมกับไทม์ไลน์ทางการเมืองไทย เพราะยามนี้และยามหน้ามันคล้ายว่ากระแสบางอย่างเริ่มจะตีกลับไปซัดเรือเหล็กแล้ว...

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ