คอลัมนิสต์

ยุคดิจิทัล..อาชญากรรมเปลี่ยนรูป(โกงออนไลน์)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยุคดิจิทัล..อาชญากรรมเปลี่ยนรูป(โกงออนไลน์) คอลัมน์...  สายตรวจระวังภัย   โดย...  ทีมข่าวอาชญากรรม

 


 

          ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อนรูปแบบของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นเหตุ “ลัก วิ่ง ชิง ปล้น” หรือแม้แต่การ “ฉ้อโกง” ก็เป็นการก่อเหตุซึ่งหน้า แต่งตัวดีมีราคาน่าเชื่อถือ มาพูดจาโน้มน้าวเพื่อให้เหยื่อตายใจตกหลุมพลาง 

 

อ่านข่าว...  ตะลึง...คดีโกงออนไลน์สถิติพุ่งเป็นเท่าตัว

 

 

          ทว่าสิบปีให้หลังจวบจนมาถึงปัจจุบันอาชญากรรมได้เปลี่ยนรูปแบบไปโดยเฉพาะการ “ฉ้อโกงออนไลน์” ซึ่งทุกวันนี้มีมากมายหลายรูปแบบ ทั้งแชร์ลูกโซ่ หลอกขายสินค้า บริการ ฯลฯ ซึ่งทำได้ง่ายผ่านช่องทาง “โซเชียลมีเดีย” ดังที่เห็นปรากฏเป็นข่าวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและตอกย้ำด้วยสถิติการเข้าแจ้งความเฉพาะกับ “ตำรวจไซเบอร์” กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ที่มียอดเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี


          ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้เสียหายจากการถูกหลอกขายตั๋วเครื่องบินและโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวประมาณ 40 คน เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ กระทรวงยุติธรรม ว่าถูกหลอกขายตั๋วเครื่องบินและโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยว โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 514 ราย มูลค่าความเสียหาย 31 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายบางรายไม่สามารถแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันได้เนื่องจากเจ้าของเพจเป็นเครือญาติกับนายตำรวจ


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ตัวแทนผู้เสียหายเล่าว่า เข้าไปจองซื้อตั๋วเครื่องบินและโปรแกรมทัวร์กับหน้าเพจเฟซบุ๊ก Twogetther และอินสตาแกรม 2getther ซึ่งมีราคาขายถูกกว่าโปรแกรมทัวร์อื่นๆ ในท้องตลาด แต่ราคาไม่ได้ถูกมากจนผิดสังเกต โดยผู้ขายมักจะแถมน้ำหนักกระเป๋า พ็อกเก็ตไวไฟ ตั๋วรถไฟความเร็วสูง หรืออัพเกรดโรงแรมที่พัก เช่น ราคาตั๋วเครื่องบินจากเว็บไซต์อื่นราคา 12,000 บาท แต่ราคาของเพจ Twogetther นำมาเสนอขายเพียง 8,000-9,000 บาท โดยอ้างว่าได้ตั๋วราคาถูก เนื่องจากจองซื้อลอตใหญ่ หรือซื้อจากสายการบินในช่วงลดราคา จึงหลงเชื่อเริ่มจองตั๋วจากทริปราคาถูกก่อน พบว่ามีตั๋วเครื่องบินและที่พักจริงแต่อาจได้รับตั๋วช้าบ้าง เมื่อตรวจสอบจากยอดรีวิวก็พบมีดารานักแสดงและพ่อของเจ้าของเพจซึ่งเป็นตำรวจร่วมรีวิวด้วย 




          กระทั่งเดือนกันยายนลูกค้าเริ่มพบปัญหามีการออกตั๋วช้า บางรายไม่ได้ตั๋วเครื่องบิน โดยเฉพาะการจองทริปท่องเที่ยวในแถบยุโรปที่มีราคาแพงจะได้รับตั๋วกระชั้นชิดจนไม่สามารถวางแผนการท่องเที่ยวได้ ทำให้ผู้เสียหายบางรายเข้าแจ้งความและขอลงบันทึกประจำวัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความอ้างว่าความเสียหายยังไม่เกิดขึ้น หรือเป็นความเสียหายทางแพ่ง ไม่ใช่คดีฉ้อโกง ผู้เสียหายต้องฟ้องร้องกันเอง ขณะที่ตำรวจบางโรงพักก็ให้ความช่วยเหลืออย่างดี แต่ผู้เสียหายยังกังวลใจทำให้ต้องรวมตัวกันมายื่นคำร้องผ่าน ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข


          สำหรับภัยออนไลน์ที่เกิดขึ้นในสังคมดิจิทัลทุกวันนี้ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนว่า อาชญากรเปลี่ยนรูปแบบฉ้อโกงหลอกลวงไปในหลายลักษณะ กลุ่มผู้ซื้อทัวร์ไม่ได้หวังรวย แต่ต้องการซื้อทัวร์เพื่อพาครอบครัวไปท่องเที่ยว ซึ่งการเลือกซื้อแพ็กเกจในราคาถูกไม่ได้เป็นความผิด ไม่ได้เกิดจากความโลภ แต่ถูกโกง หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งประมวลตัวเลขความเสียหายและพฤติการณ์ในการกระทำความผิดว่าเข้าเงื่อนไขที่จะรับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยเบื้องต้นต้องมีมูลค่าความเสียหายเกินกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป


          เรื่องการฉ้อโกงออนไลน์ก็เปรียบได้กับสำนวน “ความวัวไม่ทันหายความควายก็มาแทรก” เพราะเรื่องลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตใช้งานแค่นั้นพอ สิ่งที่จะป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อคือมีสติ คิดให้รอบคอบ ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน อย่าเห็นแก่ของดีราคาถูก หรือผลตอบแทนมหาศาลชั่วพริบตา เพราะผลที่ตามมาคุณอาจเป็นเหยื่อรายต่อไป..!!



 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ