คอลัมนิสต์

ยุทธศาสตร์ ลุงตู่ อยู่เป็น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยุทธศาสตร์ ลุงตู่ อยู่เป็น คอลัมน์...  วงในวงนอก   โดย...  อสนีบาต  Aussaneebard @hotmail.com

 

 

 

          เสร็จสิ้นบิ๊กอีเวนท์ระดับซีกโลกกันไปแล้วกับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 35 โดยที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ส่งมอบค้อนให้เหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม รับเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซียนในปีหน้า

 

 

          มาวันนี้อดีตประธานอาเซียนกลับมาผูกผ้าขาวม้าคาดเอวในบท “ผู้นำสัญจร” ด้วยการเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งถือเป็นการประชุม ครม.สัญจรครั้งแรกของรัฐบาล "ลุงตู่” สมัยสอง แต่เป็นครั้งแรกของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง


          ขอเสริมเข้าไปอีกสักเล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนครม.สัญจร “ลุงตู่” ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดศรีสะเกษเพื่อไปติดตามการแก้ปัญหาพี่น้องเกษตรกร ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์
  

          ภายหลังประชุมครม.สัญจร ต้องเตรียมโกอินเตอร์กันอีกหลายประเทศ ทั้งเอเชีย ยุโรป โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เชื้อเชิญผู้นำอาเซียนไปร่วมประชุมสมัยพิเศษในปีหน้า
   

          นอกจากนี้ “เซลล์แมนรัฐบาล” ไม่ว่าจะเป็น สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม คณะผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ บินไปฮอกไกโดเชื้อเชิญนักธุรกิจ บริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นให้มาขยายการลงทุนในบ้านเรา


          …อสนีบาต…หยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อชี้ให้เห็นว่านายกฯ รัฐมนตรี ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำหนดรูปแบบการทำงานในครม.อย่างมียุทธศาสตร์ชนิดที่อย่าได้ประมาทเชียว เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเมืองทั้งภายในและนอกประเทศอย่างเป็นมืออาชีพ ทั้งการสร้างฐานมวลชนให้สนับสนุนและการกำหนดโรดแม็พต่างประเทศเพื่อขยายแผนการค้าการลงทุน


  
          ที่สำคัญต้องการเช็กเรตติ้งความเชื่อมั่นเมื่อเทียบกับสมัยที่เคยสวมหมวกหัวหน้า คสช.อีกใบหนึ่ง แต่ครานี้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาตามกลไกระบอบประชาธิปไตยก็ยิ่งจะเรียกความเชื่อมั่นในระดับสูงขึ้น ประชุมครม.สัญจรนัดปฐมฤกษ์นี้เช่นกัน ประจวบเหมาะเสียเหลือเกินดันตรงกับคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง ทำให้ “ลุงตู่” ของอาจารย์น้อง และครม. ใช้โอกาสนี้เรียกความนิยมจากชาวกาญจนบุรีด้วยการเข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทงในช่วงเย็นนี้ที่ท่าเรือขุนแผน เทศบาลตำบลปากแพรก ก็เป็นการเกาะกระแสเทศกาลได้อย่างลงตัวไปอีก
   

          มิพักต้องกล่าวถึงวิธีการแบ่งงาน กระจายความสำคัญไปยังรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอย่างที่ทราบเก้าอี้ผู้นำรายนี้จะมั่นคงสถาพรจำเป็นต้องอาศัยพรรคร่วมคอยค้ำยัน จึงให้เกียรติรัฐมนตรีต่างพรรคได้มีบทบาทโชว์ผลงาน ดังเห็นได้ว่า “ลุงตู่” มอบหมาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้จัดแจงเนื้อหาสาระการประชุม ครม.ในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 (กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี)
  

          ฉะนั้นโปรเจกท์ใหญ่ ล็อกเป้าหมายไปที่เส้นทางคมนาคมจะถูกหยิบยกมาพูดคุย อีกอย่างเรื่องนี้ก็อยู่ในความดูแลของรมว.คมนาคม รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยนั่นเอง นั่นคือ “โครงการทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อสามแยกวังมะนาว–บรรจบทางหลวงหมายเลข 3510 (จุดเชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ-ภาคใต้และภาคตะวันออก-ภาคตะวันตก)” นับเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี เนื่องจากติดชายแดนประเทศเมียนมาร์ที่เชื่อมต่อกับโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของกลุ่มประเทศซึ่งมีที่ตั้งของประเทศในเขตลุ่มแม่น้ำโขงทั้ง 6 ประเทศด้วยกัน คือ ไทย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน ที่จะต้องมีการส่งเสริมการลงทุน
  

          ขณะเดียวกันยังเป็นการวางบทบาทรัฐมนตรีพรรคการเมืองต่างๆ ลงพื้นที่ในลักษณะดาวกระจาย เปิดทางให้พรรคร่วมที่มีฐานคะแนนเสียงก่อนเป็นสำคัญ เช่น ฟากประชาธิปัตย์ ที่มี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค ลงไปติดตามโครงการประกันรายได้มันสำปะหลัง หรือกรณีพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีฐานคะแนนเสียงอยู่ใน จ.สุพรรณบุรี ต้องหลีกทางให้ ประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เจ้าของพื้นที่ติดตามนโยบายข้าวในจังหวัดของตนเองอย่างเต็มตัว
  

          ส่วน พรรคพลังประชารัฐ คงไม่ต้องอรรถาธิบายกันมากมี ส.ส. กาญจนบุรี ซึ่งกวาดมาได้ 4 เขต แบ่งให้ภูมิใจไทย 1 เขต หรือ ราชบุรี เป็นของพปชร. 3 เขต นำโดย “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ที่เหลือ 2 เขต เป็นของประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ซึ่งเตรียมนำพี่น้องประชาชนเมืองโอ่งมังกร พร้อมกับชาวแม่น้ำแควเสริมทัพต้อนรับเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของพรรคร่วมรัฐบาล
  

          นี่ผ่านมาสี่เดือน (ไม่นับรวมสี่ปีที่อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าคสช.) ใครจะว่า “ลุงตู่” ไม่เป็นการเป็นงานทางการเมือง ก็ต้องกลับไปคิดกันใหม่เพราะสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่กำลังเข้าหลัก “อยู่เป็น” อีกต่างหาก


          ดีไม่ดีจะ "อยู่เป็น” นายกฯ ไปอีกนาน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ