คอลัมนิสต์

โรดแม็พถล่มรัฐบาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โรดแม็พถล่มรัฐบาล คอลัมน์...  วงในวงนอก    โดย...   อสนีบาต  aussaneebard @ Hotmail.com

 

 

 

          เหมันตฤดูมาเยือนแล้ว ตื่นขึ้นมามีลมเย็นๆ พัดผ่านกระแทกใบหน้ากันบ้างหรือยัง ส่วนคนในพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มจะหนาวๆ ร้อนๆ อยู่เหมือนกันครับ พลันได้รับทราบความเคลื่อนไหวจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมนัดหารือถึง "โรดแม็พถล่มรัฐบาล”

 

 

          ทันทีที่มีการเปิดสภาสมัยสามัญเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จะมีอีเวนท์สำคัญสองเรื่อง เรื่องแรก ขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีทัพหน้าจากเหล่าอดีต ส.ส. ตกงาน อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เดินสายสร้างเครือข่ายอยู่นอกสภาไว้แล้ว ส่วนภายในสภาว่าด้วยการถกญัตติตั้งกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ย่อมสร้างแรงกดดันพุ่งตรงไปสู่ "รัฐบาลลุงตู่” โดยเฉพาะ พรรคพลังประชารัฐ ที่พยายามแก้เกมด้วยการลงพื้นที่จัดกิจกรรม “ปากท้องต้องมาก่อนแก้ รธน." จะปรับทัพรับศึกในสภาอย่างไรเพราะไม่ใช่แค่พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” มีนโยบายแก้ไข รธน. ร่วมด้วยช่วยผสมโรง
    

          เรื่องที่สอง ถือเป็นไฟท์บังคับ ไม่ทำไม่ได้ เดี๋ยวจะขาดใจตายเพราะช้าไปจะไม่มีพื้นที่เก็บคะแนนหาเสียง นั่นคือ การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เบื้องต้นวางปฏิทินคร่าวๆ จะเปิดอภิปรายไม่เกินวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ขืนช้าเกินการณ์ไปกว่านี้จะเจอเทศกาลคริสต์มาส ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อีก การเตรียมเสนอหน้าออกสื่อเก็บคะแนนก็จะหมดความหมาย
  

          นอกจากนั้นมีการปล่อยข่าวออกมาอีกว่าบุคคลที่จะถูกซักฟอกคือ 3 รัฐมนตรี ตั้งแต่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ด้วยปมการแก้ปัญหาเศรษฐกิจล้มเหลว ปล่อยปละละเลยอาจนำไปสู่การทุจริต โครงการอีอีซี รถไฟฟ้า และบีทีเอส “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในกรณีบีทีเอส ซึ่งก่อนหน้านี้ กมธ.วิสามัญในสภาคัดค้านไม่ให้ต่อสัญญาสัมปทานให้บริษัท BTSC ออกไปอีก 40 ปี เพราะเป็นการใช้อำนาจ ม.44 มาต่อสัญญาโดยไม่ชอบและสัญญาไม่เคยผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุน (PPP)
  

 


          รายที่สามกลายมาเป็นรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เกี่ยวกับการใช้อำนาจและการแต่งตั้งโยกย้ายในระบบราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ ในกระทรวงคมนาคม ตลอดจนการแทรกแซงการบริหารในรัฐวิสาหกิจต่างๆ จนงานไม่เดิน
   

          ช้าก่อน! นั่นเป็นแค่การปล่อยหัวเชื้อตามสไตล์พรรคเพื่อไทย หวังสร้างประเด็นข่าวให้ฮือฮา เพราะเอาเข้าจริงยังมีประเด็นอื่นซ่อนอยู่อีกมาก โดยเฉพาะในรายของ “ลุงตู่” ผู้ต้องนั่งสมาธิสะกดอารมณ์ก่อนเดินเข้าสภา จะถูกหยิบยกกรณี “คดีพิพาทระหว่างรัฐกับเหมืองอัครา” ในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจ คสช.มาตรา 44 สั่งระงับการทำเหมืองจนเขาเรียกค่าเสียหายเกือบ 4 หมื่นล้านบาท มาอภิปรายเป็นแน่แท้


          กรณีเหมืองอัครา กำลังใกล้ถึงจุดไคลแม็กซ์ซึ่งจะต้องมีการเผชิญหน้าระหว่างตัวแทนรัฐบาลกับฝ่ายเอกชนต่างชาติราวกลางเดือนพฤศจิกายน ทำให้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ต้องแจ้งให้ ครม.ทราบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อหาทางออก แต่ยังไม่มีคำตอบใด
  

          ได้ยินแต่เพียงคำกล่าวสั้นๆ จากนายกฯ ว่า “ผมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” มาถึงตรงนี้ยังไม่รู้ว่า “รัฐบาลบิ๊กตู่” จะตัดสินใจแก้ปัญหานี้อย่างไร


          4 ทางเลือก ระหว่างจ่ายเงินให้บริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แล้วให้เลิกกิจการ 2.ดำเนินการตามข้อเสนอของบริษัทอัครา ซึ่งจะช่วยให้อาจไม่ต้องจ่ายเงิน 3.รอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการแล้วปฏิบัติตาม หรือ 4.หาช่องทางจ่ายเงินค่าปรับบางส่วนโดยให้ชดเชยค่าเสียหายแล้วให้ดำเนินกิจการต่อ
  

          อย่าลืมว่ากรณีข้อพิพาทเหมืองอัครา ต่อการใช้อำนาจ คสช.ตามมาตรา 44 สั่งปิดเหมืองที่ จ.พิจิตร ถูกพรรคร่วมฝ่ายค้านโดย สุทิน คลังแสง ประเดิมอภิปรายตั้งแต่วันแถลงนโยบายรัฐบาลแล้วนะจะบอกให้ เดือดร้อนไปถึง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ต้องลุกขึ้นชี้แจงในตอนนั้นและกำลังเครียดในตอนนี้
   

          คำมั่น “ผมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” กับการตัดสินใจทางใดทางหนึ่งซึ่งมีผลประโยชน์ชาติเป็นเดิมพัน จะตามมาหลอกหลอน "บิ๊กตู่” ถึงญัตติอภิปรายไม่ไม่วางใจ เชื่อหัวไอ้เรืองเหอะ!


 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ