คอลัมนิสต์

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋ งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงานพิเศษจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 2-3 พ.ย.62

 

 

*****************************

 

จะว่าไป ช่วงหลังๆ กระทรวงเกษตรโขมยซีนไปเยอะกับการเดินหน้าแบน 3 สามพิษภาคเกษตร แต่หลังจากนั้นฝ่ายกระทรวงสาธารุณสุข โดย “หมอหนู อนุทิน ชาญวีรกูล” ก็ออกมาโชว์ฟอร์มสด ขอแบ่ง “มาร์เกตแชร์แรงเชียร์” จากประชาชนบ้าง

 

วันที่หมอหนูออกมายืนยันไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ยกเลิกการใช้สารเคมี พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต พร้อมระบุ “ไทยไม่ใช่เมืองขึ้นอเมริกา”!! วันนั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วไทย กระทรวงคุณหมอกลับมายืนหยัดบนแผงหน้า 1 ในใจคนไทยอีกรอบ

 

และก็ไม่รู้เพราะกระทรวงเกษตรเขาแท็คกันเป็นทีมหรือไม่ก็ตาม คือมาหมดทั้งรมต. และรมช. ปรากฏว่าที่กระทรวงคุณหมอ รมช.อย่าง สาธิต ปิตุเตชะ ก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์แบบไม่เคยปรากฏมาก่อนบ้าง

 

งานนี้เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าเป็นการปรับรูปแบบใหม่เพื่อประชาสัมพันธ์งานสาธารณสุข ใครบอกหน่อมแน้ม ไม่รู้ แต่อะไรที่ถูกใจชาวโชเชียล ล้วนมีผลทางจิตวิทยาทั้งนั้น เพราะเรื่องการเมืองกับการตลาด มันไม่เคยแยกจากกันได้

 

 

 

หมอตี๋มาแล้ว

 

เกิดอะไรขึ้นกับ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลุกขึ้นมายิงมุกกระจายในโลกโซเชียล บนเฟซบุ๊ก “หมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ”

 

 

 

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋  งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

 

 

 

แต่จะว่าไป ก็เป็นมุกกระจายที่เต็มไปด้วยสาระทางสุขภาพ จนแม้แต่หมอแลบแพนด้ายังยอมใจ ว่างานนี้ที่ทำมันสร้างสรรค์จริงๆ

 

ที่จริงแฟนเพจของ สาธิต ปิตุเตชะ ที่แอคทีฟอยู่นั้น มี 2 อัน คือเฟซบุ๊ก “สาธิต ปิตุเตชะ” ที่เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2554 นัยว่า คงต้องใช้โซเชียลสู้ศึกปูแดงที่กำลังมาแรง

 

กับแฟนเพจ หมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ” ที่ข้อมูลระบุเพิ่งเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 หรือหลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยแบบเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ก่อนหน้านั้นแค่ 8 วันนี่เอง

 

แน่นอนงานนี้ไม่ต้องสงสัยนัยใดๆ เพราะเปิดขึ้นมาเพื่อภารกิจในกระทรวงคุณหมอโดยเฉพาะ! 

 

อย่างไรก็ดี เมื่อย้อนไปดูบรรยากาศในเพจช่วงแรกๆ พบว่ายังไม่แตกต่างจากเพจนักการเมืองทั่วไป คือเป็นภาพความชื่นมื่นของการรับตำแหน่งใหม่ๆ ของคนบ้านค่าย จังหวัดระยองที่ชื่อ “ตี๋”

 

แต่พอตั้งหลักได้เท่านั้น วันที่ 24 กรกฎาคม รมช.ก็ออกลีลาเลย ลุกขึ้นมาประกาศว่า "จัดมา! ท่านอยากให้ผมท้า บุคคลดัง หรือ รัฐมนตรี ท่านไหนออกกำลังกาย พิมพ์คอมเม้นท์เพื่อโหวตกันเข้ามาได้เลยครับ!!

 

เลื่อนลงไปดูยอดไลค์ 142 ไลค์ แชร์ 17 ครั้ง และคอมเมนท์ 32 รายการ ยอดไลค์เพจภาพรวมราวสองพันกว่าๆ ก็นับว่ามาถูกทางแล้วเบาๆ

 

 

 

งานสร้างสรรค์มันๆ

 

ที่จริงเจ้าตัวก็พอรู้ว่าสิ่งที่ทำมันเกิดคำถาม ว่าแล้วจึงออกมาไขข้อข้องใจในเฟซบุ๊ก ท่วงทำนองว่า ไม่มีอะไรมาก แต่นี่คือการทำหน้าที่ชองคนเป็นรมช.สาธารณสุข ที่ต้องเล็งเห็นถึงสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ

 

ยกตัวอย่างงานสร้างสรรค์ที่หมอตี๋ทำออกมา นับแต่เปิดหน้าท้าชนกับโลกการเมืองที่ต้องเฟื่องเรื่องโซเชียล เช่นวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้โพสต์เฟสบุ๊กเตือนของทอด 6 อย่าง ที่ไม่ควรบริโภค

 

 

 

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋  งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

 

 

 

ด้วยเนื้อหาที่เกรียนขนาดหนัก คือ "แห สมอเรือ ผ้าบังสุกุล ผ้าป่า กฐิน สะพาน” งานนี้ไม่ต้องถามสาระ เอาฮา เอายอดไลค์ ยอดแชร์ไว้ก่อน แถมชาวเน็ตยังเอาไปทำมีมต่อ เป็นไวรัลทั่วไทยแล้ว! 

 

ไหนจะมุกชวนบริจากโลหิตด้วยชุดแวมไพร์รับกระแสวันอาโลวีน โอ๊ย ต้องนับถือไอเดีย

 

 

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋  งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

 

แตทั้งหมดนี้ แน่นอนเหตุผลต้องมี โดยเจ้าตัวพูดถึงมุมนี้ว่า หากสื่อสารเฉพาะเนื้อหาสาระจะไม่ได้รับความสนใจ จึงต้องมีการนำเสนอในมุมคลายเครียด เพื่อให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มวัย ซึ่งหากเข้าไปดูรายละเอียดเนื้อหาจะมีคำอธิบายโทษของอาหารประเภททอด ทำให้ได้รับประโยชน์ 2 เด้ง คือต้องทานอาหารให้เป็นแระโยชน์ไม่เป็นโทษกับร่างกาย และทำให้ยิ้มตามไม่เครียด สุขภาพจิตดี

 

และต้องบอกว่า ทีมที่ทำประชาสัมพันธ์เป็นทีมงานส่วนตัวที่เป็น “นักศึกษา” ที่เข้าใจวัยรุ่น และอารมณ์สังคม จึงทำให้ข้อมูลได้รับความสนใจโดนมีคนเข้ามาดูและแชร์ต่อเป็นล้านแล้ว

 

งานล่าสุดที่ต้องบอกว่าเด็ด คือการเล่นกับ “หมอเป้ง” ของสาวๆ กับการทำภาพกราฟฟิคตนเองกับ “ทานตะวัน” นางเอกของหมอเป้งในซีรีย์ดัง “รักฉุดใจ นายฉุกเฉิน” พร้อมติกแอชแทกว่า #หมอเป้งหรือจะสู้หมอตี๋

 

 

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋  งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

 

 

อ่านแล้วต้องบอกเลยว่า แม้เนื้อหาจะพูดอย่างหล่อว่าดีใจที่มีละครน้ำดีที่ให้ความรู้เรื่องทางการแพทย์ และขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจบริการ เพื่อช่วยชีวิตและส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของทุกคน

 

แต่งานนี้ เด็กน้อยยังรู้ว่า “งานโหน” ก็เอาอ่ะ...หมอตี๋!!

 

 

 

ฟิตตัวจริง

 

ไม่รู้ว่ากำลังจะสอยตำแหน่ง "รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุด" มาจากบางคนหรือเปล่า แต่ที่แน่ ครม.ชุดนี้ที่โดดเด่นเห็นตามงานวิ่ง ก็คงเป็น “หมอตี๋–สาธิต ปิตุเตชะ” นี่แหละ

 

แต่ว่ากันว่า นอกจากเที่ยวโพสต์เที่ยวแชร์ตามโลกโซเชียลแล้ว ชีวิตจริงก็มีการออกกำลังกายหลังเลิกงานอยู่แล้วสม่ำเสมอ ไม่งั้นปีนี้ 52 ขวบแล้ว คงไม่ดูหนุ่มขนาดนี้ (ฮา)

 

 

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋  งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

 

 

ที่สำคัญ รู้ยังว่าเจ้าตัวเป็นกัปตันทีม ประชาธิปัตย์ เอฟซี” อีกด้วย ช่วงวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งแท็คทีม อดีต ส.ส. อดีตผู้สมัคร ส.ส. อดีต สก. อดีต สข. สมาชิกรุ่นเก๋า และคนรุ่นใหม่ มาได้เหงื่อตามๆ กัน

 

วันนั้น กระจอกข่าวรายงานว่า หมอตี๋ลั่นกลางสนามว่า “บอลประเพณีกับสื่อปีนี้ เจอผมแน่!!!”

 

แต่เดี๋ยวก่อน สำหรับการลงมาใช้การตลาดแบบโซเชียลครั้งนี้ หมอตี๋ไม่เพียงโลดแล่นในหน้าเฟซบุ๊ก แต่ยังเปิดฉากที่จอ “ยูทูบ” ด้วย กับรายการ “หมอตี๋พาฟิต” คลับคล้ายคลับคลาชื่อรายการดังอย่าง “โมเมพาเพลิน”  (ฮา)

 

แต่ของหมอตี๋ งานนี้เพื่อปลุกกระแสให้คนทุกเพศทุกวัย หันมาออกกำลังกายกันเยอะๆ แถมเจ้าตัวยัง่เป็นผู้ดำเนินรายการเอง รูปแบรายการจะไลฟ์สดตระเวนไปทุกที่ เพื่อชวนคนมาออกกำลังกาย

 

 

 

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋  งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

 

 

ใครที่ตกข่าวไปดูย้อนหลังได้ จะได้พบลีลาหมอตี๋บุกไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ปลุกคนรุ่นใหม่ใส่ใจออกกำลังกาย ตามสโลแกนประจำใจคือ “...ออกกำลังกายทุกวัน ไม่แข็งแรงให้มันรู้ไป!!!..."

 

รู้ไม่รู้ ช่วงวันที่ 26-27 ตุลาคมที่ผ่านมา หมอตี๋ก็เพิ่งจัดไป 2 งาน งานแรกคือแวะเวียนไปให้กำลังใจและร่วมวิ่งกับทีม “ก้าว” นำโดย พี่ตูนของพวกเรา “อาทิวราห์ คงมาลัย” ที่ได้จัดทำโครงการวิ่งเพื่อระดมทุนช่วยเหลือ 7 โรงพยาบาลในภาคใต้ งานที่สองคือ งานเดินวิ่งการกุศล เพื่อโรงพยาบาลลันตา ครั้งที่ 2 RUN FOR LANTA มาหมาดๆ พร้อมยืนยันว่า ตนเองนั้น ยังฟิตเหมือนเดิม!”

 

 

 

ตี๋-หนู คุณหมอคู่ใจ

 

เมียงมองไป ใครๆ อาจเม้าท์ว่าหมอตี๋โดดขึ้นมาเทียบฟอร์ม หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่รายนั้นเล่นโซเชียลกับการทำการเมืองมาก่อน

 

หากสไตล์หมอหนูนั้น ต้องบอกว่าทำมาแบบเรื่อยๆ เรียงๆ อย่างที่รู้ว่าคนชื่อหนู ถึงไม่ได้เป็นหมอจริง เป็นหมอการเมืองที่ได้มาเพราะขึ้นแท่นเจ้ากระทรวงคุณหมอ

 

 

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋  งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

 

 

แต่ที่ผ่านมากับ "ภารกิจหัวใจติดปีก" ที่เจ้าตัวสวมวิญญาณกัปตัน พาเครืองขึ้นบินนำคณะแพทย์และพยาบาลไปรับอวัยวะหัวใจที่ได้รับการบริจาคจากที่ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจแข่งกับเวลาเพียง “6 ชั่วโมง” 

 

นี่ก็คือสปิริตของคนที่แม้จะไม่ใช่หมอ แต่ก็หล่อระดับเดียวกัน!! แถมยังโพสต์ลงโซเชียล ขอกำลังใจจากแฟนคลับไม่ได้ขาด

 

หันมาข้าง “หมอตี๋” เจ้าตัวเองคงไม่ถึงขึ้น “ท้าชน” หรือขโมยซีนตัวจริงเสียงจริงรายนั้น เพราะยังไงก็คือคนกระทรวงสาธารณสุข ทีมเดียวกัน หัวใจต้องดวงเดียวกัน!

 

และที่จริง ถ้าพูดถึงเนื้อหาสาระของนโยบายที่รัฐมนตรีกระทรวงคุณหมอต้องขับเคลื่อนให้เกิดผลก็มีมากมาย เช่น ยกระดับมาตรฐานสตรีทฟู้ด, ทำโคงการเทเลฟาร์มาซี ลดขั้นตอนรับยา

 

หรือโครงการ "บล็อกเชนนำร่อง 6 เขตสุขภาพ"  ตลอดจนเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของผู้คนอย่าง เปิดเวทีถกหาข้อสรุปบุหรี่ไฟฟ้า, เดินหน้าเพิ่มค่าตอบแทน อสม. โดยเฉพาะเรื่อง "ต่อยอดเทรนด์ออกกำลังกาย" นี่แหละ ที่รัฐมนตรีช่วยชื่อตี๋ต้องทำด้วย

 

 

 

"รักฉุดใจ" คุณหมอตี๋  งานฟิตต้องมา งานโซเชียลต้องแรง

 

 

งานนี้ถามว่าต้องไปยังไง หรือจะเปิดอีเวนท์ชวนออกกำลังกายวันพุธหรือวันไหน แล้วจบไปแบบไม่มีการติดตามผล พูดง่ายๆ ทำแบบเดิมแต่หวังผลต่าง หมอตี๋คงไม่สะดวกทำแบบนั้น!

 

ว่าแล้ว สู้ลงเองลุยเองดีกว่า ได้ใจทั้งวัยโจ๋-วัยเก๋า แถมสื่อก็ตามติด แบบนี้ดีกว่ากันเยอะ ใช่หรือไม่คุณหมอตี๋!

 

 

**************************

 

ภาพจากเฟซบุ๊ก  หมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ