คอลัมนิสต์

ที่แท้ "ม็อบต้าน คสช. หนูลองยาอนาคตใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ที่แท้ "ม็อบต้าน คสช." หนูลองยาอนาคตใหม่ คอลัมน์...  กระดานความคิด  โดย...  บางนา บางปะกง

 

 

 

          เท่าที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ลี้ภัยการเมืองไทย ที่อยู่แถวยุโรป และสหรัฐอเมริกา มักจะประเมินสถานการณ์ในประเทศตามขนบ “ซ้ายเก่า” ประชาชนต้องลงสู่ท้องถนน รวมพลังลุกขึ้นสู้ จะมัวแต่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอสมาร์ทโฟนต่อไปอีกไม่ได้ 

 

 

          ตรงกันข้าม "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ“ และ “ชัยธวัช ตุลาธน” เพื่อนร่วมอุดมการณ์สมัยเป็นนักกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่างมีบทเรียนมาจากการเคลื่อนไหวบนท้องถนน ตั้งแต่สมัย “ม็อบต้านท่อก๊าซสงขลา” และ “ม็อบคนเสื้อแดง” จึงวางยุทธศาสตร์ “ปฏิรูปประเทศไทย” อย่างสันติ ผ่านระบอบรัฐสภา


          ล่าสุด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงเรื่องพบโจชัว หว่อง ที่ฮ่องกง ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งตอนหนึ่งเขาเขียนว่า


          “ผมได้พูดถึง “ฮ่องกง” ในระหว่างที่ผมบรรยายอยู่บนเวทีจริง ผมกล่าวว่าเมื่อปลายปี 2560 ตอนที่ผมและเพื่อนๆ กำลังตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของระบอบ คสช. เราครุ่นคิดกันว่าจะสร้างขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม (Social Movement) หรือพรรคการเมือง..โจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ และฮ่องกงชวนให้เราคิดถึงโมเดลขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม..”

 

 

ที่แท้ "ม็อบต้าน คสช. หนูลองยาอนาคตใหม่

 


          ฮ่องกงในเวลานั้นคือ “ม็อบร่ม” ยุคแรกๆ ของการประท้วงจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ “ธนาธร” ก็ตัดสินใจ “...ตั้งพรรคการเมือง และต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงผ่านระบบรัฐสภาแทน เนื่องจากความสูญเสียจากการสลายการชุมนุมปี 2553 ยังคงบาดลึกอยู่ในสังคมไทย”


          ทำนองเดียวกัน “ปิยบุตร แสงกนกกุล” นักวิชาการที่เชิญชวนธนาธรมาตั้งพรรคการเมือง ได้อธิบายแนวคิดและอุดมการณ์ไว้ในช่วงการบรรยายตอบโต้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. มีความตอนหนึ่งว่า

 

 

 



          “...พวกเราเป็นซ้ายจัดดัดจริต ชอบปฏิวัติ แต่ผมศึกษาประวัติศาสตร์ทั่วโลกเพื่อเป็นบทเรียน เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเจอสถานการณ์แบบนั้น ทั้งนี้ ผมมองว่าการเปลี่ยนแปลงในโลก มี 2 แบบคือ ปฏิวัติและปฏิรูป ซึ่งพรรคอนาคตใหม่พร้อมปฏิรูปประเทศไปพร้อมกับ ผบ.ทบ.​”


          ปิยบุตรย้ำว่า พวกเขาเลือกหนทางปฏิรูป ไม่เอาการปฏิวัติ ดังนั้น อย่าได้ระแวงว่า พรรคอนาคตใหม่จะปลุกมวลชนลงถนนเหมือนพรรคเพื่อไทย และ นปช. เปิดยุทธการแดงทั้งแผ่นดิน ปี 2552-2553


          จริงๆ แล้ว “ธนาธร” และเพื่อนพ้อง ได้ทดลอง “ลงสู่ท้องถนน” มาก่อนหน้านั้น ผลปรากฏว่า “ม็อบจุดไม่ติด” 


          เริ่มจาก “กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่” เป็นกลุ่มนักกิจกรรมจากหลากหลายมหาวิทยาลัยมารวมตัวกัน อาทิ กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย, กลุ่มดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น และกลุ่มลูกชาวบ้าน มหาวิทยาลัยบูรพา


          “รังสิมันต์ โรม” กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีฯ และ “ไผ่ ดาวดิน” กลุ่มดาวดิน เป็นพระเอกของท้องเรื่อง โดยเปิดปฏิบัติการ 22 พฤษภาคม 2558 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขอนแก่น และที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร

 

 

 

ที่แท้ "ม็อบต้าน คสช. หนูลองยาอนาคตใหม่

 


          ตามมาด้วย ยุทธการ 24 มิถุนายน 2558 ไม่ประสบผลสำเร็จในแง่ “พลังมวลชน” เพราะมีนักศึกษาไม่กี่กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว


          หลังยุทธการนี้ “โรม” ต้องแยกตัวไปตั้งองค์กรใหม่ชื่อ “กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย” โรมเชื่อว่านักศึกษายุคปัจจุบันยังสนใจการเมือง แต่อาจไม่ได้ต้องการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่อีก


          ปลายปี 2560 โรมตั้ง “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ขับเคลื่อนร่วมกับกลุ่มแดงอิสระ มีเป้าหมายเพื่อกดดันให้รัฐบาลประยุทธ์ และคสช. ทำตามสัญญาคือ จัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว


          โรมและเพื่อนพยายามจัดการชุมนุม และเดินขบวนครั้งใหญ่ แต่ก็มีมวลชนเข้าร่วมหลักร้อย และไม่กล้าฝ่าด่านตำรวจไปทำเนียบ จึงประกาศสลายการชุมนุม


          กระทั่งกลางปี 2561 “ธนาธร-ปิยบุตร" ตกผลึกเรื่องตั้งพรรคอนาคตใหม่ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจึงปิดฉาก และแกนนำหลายคนตบเท้าเข้าเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่


          แสดงว่า ปฏิบัติการของ “โรม” ช่วง คสช.ปกครองประเทศ ก็แค่ห้องปฏิบัติการ “ทดสอบพลังมวลชน” ของแกนนำพรรคสีส้มเท่านั้นเอง 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ธนาธร นำทัพอนาคตใหม่ ติวเข้ม ส.ส. ชำแหละงบฯปี2563
-ยุบ อนาคตใหม่ ไม่จริง?
-ที่แท้ "ม็อบต้าน คสช. หนูลองยาอนาคตใหม่
-'ทอน' ห้าว หัก 'เป้า' คนจริง 'สิงห์โตทอง'

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ