คอลัมนิสต์

'บูลลี่ไทยๆ'? เพราะเป็น 'โอ๊ค' จึงเจ็บปวด 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงานพิเศษ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 5-6 ต.ค.62

 

 

*************************

 

“ทอม แฮงค์” เจ้าตำนานออสการ์ เคยฉลองชัยที่ลูกชายกลับมาเป็นลูกคนเดิม หลังจากเดินเส้นทางผิดจนต้องเข้ารับการบำบัดอยู่นานนับเดือน

 

ปี 2558 ลูกชาย “เฉินหลง” ต้องติดคุกคดีใหญ่เป็นข่าวทั่วโลก และ “ไมเคิล ดักลาส" รุ่นเก๋าฮอลลีวู้ดเคยกล่าวถึงลูกชายที่เกือบจะเสียคนว่า “ผมก็พอจะเข้าใจถึงความกดดันในการตามหาตัวตนของตัวเองอยู่เหมือนกัน”

 

 

'บูลลี่ไทยๆ'?  เพราะเป็น 'โอ๊ค' จึงเจ็บปวด 

 

 

นี่คือตัวอย่างที่ว่าบางครั้งการมีไอดอลเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทั้งชื่อเสียงเงินทองและเป็นคนใกล้ชิด ก็กลายมาเป็นความกดดัน เป็นกระจกบานใหญ่ที่หันมาสะท้อนเราเอง

 

โดยเฉพาะ “ลูกชาย” สิ่งที่ต้องแบกรับคือความคาดหวังระดับสูงซึ่งคนที่เกิดเป็น “ลูกสาว” อาจไม่ค่อยเข้าใจนัก

 

หันมาบ้านเราหนึ่งในลูกชายที่มีความสำเร็จของคนรุ่นพ่อเป็นแบบอย่าง ในบรรดาคนดังที่ยืนอยู่แถวหน้า ต้องมีชื่อ "หนุ่มโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร

 

ข่าวล่าสุดของเขาทำให้คนไทยต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งห่วงจริง หรือห่วงเยาะ เรื่องนี้เจ้าตัวคงไม่ขำด้วยเพราะรุ่งขึ้นโอ๊คถึงกับโพสต์เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ว่า

 

เชื่อครับ...ว่ายุคนี้ “ลูกทักษิณ” หาโอกาสที่จะอยู่แบบสบายๆ ยากมาก ผมยอมรับว่าครั้งนี้ #หนักที่สุดในชีวิต และเครียดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน #ใครไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอก

 

ถ้าจะถามว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขา ต้องเปลี่ยนไปถามว่า เขาเจออะไรมาบ้างจะดีกว่า

 

 

 

ลูกนายกฯ ต้องอดทน

 

ช่วงปี 2544 นับแต่คนไทยมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ต่อให้มาจากการเลือกตั้ง ต่อให้มาจากประชาชน จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม บุตรชายคนโตของเสี่ยแม้วก็ถูกจับตาจากสังคม “เป็นพิเศษ” ตั้งแต่หนนั้น

 

ปี 2546 แม้ขณะที่ทักษิณกำลังขึ้นหม้อ แต่ไม่ได้แปลว่าจะมีแต่คนรัก ความพิเศษที่โอ๊คถูกจับตาทวีหนักขึ้นในปีนั้นเกิดขึ้นหลังจากเช้าวันที่ 29 สิงหาคม 2546 หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวว่า “พานทองแท้ พกโพยเข้าห้องสอบ”

 

ข่าวเจาะลึกจนได้เรื่องว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องสอบวิชาการวิเคราะห์ ระบบการเมืองไทย หรือ PS 421 ของนักศึกษาปี 3 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

 

'บูลลี่ไทยๆ'?  เพราะเป็น 'โอ๊ค' จึงเจ็บปวด 

 

 

กระทั่งมีการแจงจากยงยุทธ ติยะไพรัช ขณะเป็นโฆษกรัฐบาลว่าจริงๆ แล้วเป็นเพียงกระดาษจดโน้ตย่อทั่วไปที่ทำไว้อ่าน และอาจารย์คุมสอบก็พบก่อนเข้าห้องสอบ จากนั้นก็ไพล่ไปเรื่องการเมืองในรั้ว ม.ราม

 

จริงเท็จยังไงคงมีไม่กี่คนที่รู้ แต่คนไทยก็จำเฉพาะพาดหัวข่าวไปแล้วอย่างช่วยไม่ได้ เหนืออื่นใดหลังจากนั้นโอ๊คก็ถูกขุดไม่จบ

 

สมัยนั้นศัพท์ “บูลลี่” ยังไม่เกิดในบ้านเรา แต่การถูกคุ้ยยาวแล้วมาโพสต์ตามเว็บไซต์ดังๆ แบบไร้แหล่งที่มาก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ

 

ช่วงนั้นโอ๊คเจอขุดไปถึงสมัยเรียน ม.ปลายที่ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ทั้งในเรื่องของนักเรียนที่มีสิทธิพิเศษ ไล่มาถึงการเข้าเรียนต่อในรั้วธรรมศาสตร์ ด้วยโควตานักกีฬาบาสเกตบอล แต่เรียนไม่จบแล้วไปต่อที่รามฯ แทน

 

ถามคนไทยหลายคนอาจบอกว่าที่โอ๊คเจอนั้น “เด็กๆ” แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า “มันไม่เคยมีวันหยุด”

 

เพราะในขณะที่สปอตไลท์จับไปที่พ่อ ผู้ซึ่งใช้ทุกอย่างที่มี ทำทุกอย่างที่จะทำในเก้าอี้นายกฯ สมัยแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนส่งผลมาถึงเก้าอี้สมัยที่ 2 ในปี 2548 มีโอกาสได้เดินหน้าตามคำขวัญ “4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง”

 

แต่คนไทยก็ยังมีไฟฉายอีกกระบอกเอาไว้จับตาดูโอ๊คโดยเฉพาะ

 

 

 

ลูกไม้ที่หล่นแรง

 

คาบเกี่ยวกันในรอยต่อปี 2546 เราได้เห็นโอ๊คในวัย 24 มาไกลเป็นถึงซีอีโอบริษัทใหญ่ แม้ไม่มีวี่แววจะไปทางเดียวกับบิดา แต่ที่โอ๊คทำ พ่อก็พอเอาไปคุยกับเพื่อนได้

 

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 โอ๊คปรากฏตัวในฐานะประธานบริษัท ฮาว คัม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ดำเนินธุรกิจความบันเทิงครบวงจร ทั้งโทรทัศน์ ภาพยนตร์ โฆษณา คอนเสิร์ต ตลอดจนอีเวนท์ และออแกไนเซอร์

 

มีผู้ถือหุ้นเป็นเพื่อนสนิทที่เรียกว่า “ก๊วนฮาวคัม” คือ “ป่าน” นันทสิทธิ์ แจ่มสมบูรณ์, “น้ำนิ่ง” ไอยคุปต์ กฤตบุญญาลัย, “มดดำ” สุศิษฎา (หรือคชาภา) ตันเจริญ, “ฮาน่า” ทัศนาวลัย องอาจอิทธิชัย และยังมีน้องสาวคนรอง พิณทองทา ชินวัตร ร่วมถือหุ้นด้วย

 

จากนั้นก็เพิ่มทุนแตกบริษัทลูกออกมาอีก 4 บริษัท คือ ฮาวคัมเอวี, ฮาวคัมมีเดีย, ฮาวคัมสตูดิโอ ฮาวคัมไอพี

 

แน่นอนช่วงนั้นโอ๊คก็เจอบูลลี่ว่าใช้เส้นสายของพ่อหางาน แม้แต่การที่โอ๊คเปิดร้านถ่ายภาพสตูดิโอ SHE@MOOD, บริษัทโอกานิท, ได้สัมปทานพื้นที่โฆษณาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินตั้งบริษัท มาสเตอร์  โฟน ขายมือถือ VERTU โคตรแพง ทั้งหมดนี้โอ๊คก็ยังเจอข้อหาเปิดกี่ที่ก็มีโฮ คือ “ไม่รอด”

 

ไม่นับที่บางคนสร้างหนังเรื่อง "ยอดชายนายโอ๊กอ๊าก" (ตอนหลังเปลี่ยนชื่อเป็น "โว้กว้าก") ช่วงปี 2547 ที่มีเนื้อหาล้อเลียนตนเอง คนไทยขำเยาะแต่คนถูกล้อคงไม่ขำด้วย

 

 

'บูลลี่ไทยๆ'?  เพราะเป็น 'โอ๊ค' จึงเจ็บปวด 

 

 

จนกระทั่งการขายหุ้นชินฯ ของพ่อ ที่โอ๊คมีเอี่ยวในฐานะลูก ผู้เหมือนต้องกรีดเลือดร่วมขัน เรื่องนี้แน่นอนทำให้เส้นทางการเมืองของผู้พ่อต้องล่มสลายอย่างรวดเร็วในวันที่ 19 กันยายน 2549 แต่เส้นทางชีวิตของโอ๊คเองก็ล่มไปด้วยเป็นโดมิโน

 

คนหนุ่มในวัยสร้างชื่ออย่างโอ๊ค ต้องระเห็จหลบอยู่บ้านเพื่อน หนีไปอยู่ตามเซฟเฮาส์ มีวันที่ต้องคิดว่าถ้าต้องตาย “ก็จะตาย”

 

ไม่ต้องถามถึงธุรกิจที่ “ฮาวโก” ไปตามระเบียบ และคำว่า “ก๊วนฮาวคัม” ก็ค่อยๆ เงียบหายไป ต่อให้ภายหลังโอ๊คกลับมาบริหาร “วอยซ์ทีวี” แต่คำครหาและข้อขุดคุ้ยก็ไม่เคยจบ

 

 

 

ลูกโอ๊คผู้(ต้อง)แข็งแกร่ง

 

ถ้าจะย้อนไปไกลกว่าความเป็น ลูกนายกฯ” เอาจริงๆ โอ๊คก็คงมองเห็นพ่อผู้ซึ่งลุยงานมาสารพัดตั้งแต่จำความได้

 

เราไม่มีทางรู้ว่าบรรยากาศในบ้านโอ๊คจะเหมือนหนัง เหมือนละคร ที่พ่อแม่พุ่งใส่งานอย่างกะทิงคลั่ง จนไม่มีเวลาเอาใจใส่ลูกหรือเปล่า

 

แต่ที่แน่ๆ เราเคยได้ยินว่าช่วงปี 2543 คุณหญิงอ้อ พจมาน ณ ป้อมเพชร์ พาลูกแก้วชื่อ “โอ๊ค” ในวัย 21 ปี ไปบวชเรียนที่วัดธรรมวิหารี (วัดร่วมใจพัฒนา-วัดป่าละอู) แก่งกระจาน เพชรบุรี กับอดีตพระดัง “พระอิสระมุนี”

 

ช่วงที่โอ๊คโดนขุดก็มีการเอาเรื่องนี้มาเผยแพร่ในทำนองว่า “ลูกชายเสี่ยแม้วไม่ได้ไปบวชธรรมดา แต่ไปรักษาอาการบางอย่าง!”

 

 

'บูลลี่ไทยๆ'?  เพราะเป็น 'โอ๊ค' จึงเจ็บปวด 

 

 

แต่ที่สุดช่วงรัฐบาลอาปู โอ๊คก็กลับมาในกระแสโซเชียลที่ตัวเองได้เขียนเอง สร้างวาระเอง เปิดประเด็นเอง และได้ตอบโต้กลับไปยังสังคมที่คาใจในตัวเขาบ้าง ใครตามเฟซบุ๊กโอ๊คจะเห็นเลยว่าโอ๊คเองก็คมและบ้าพอตัวเหมือนกัน

 

จะมีก็แต่คดีกรุงไทยที่โอ๊คยังคงต้องมีเอี่ยวในอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับรุ่นพ่อ ขณะที่พอหันไปมองน้องสาวอีกสองคน คงไม่ต้องบรรยายว่าพวกเธอมาได้ไกลขนาดไหนทั้งเรื่องงานและชีวิต

 

แต่วันนี้่เรื่องของโอ๊คในวัย 40 ยังคงวนเวียนเป็นหัวข้อให้คนไทยแซะรายวัน เช่น โอ๊คฟอกเงิน โอ๊คจะหนี โอ๊คไม่รอด พอออกโชว์ตัวช่วยลูกพรรคค่ายแดงหาเสียง หรือมีกระแสว่าจะลงการเมือง โอ๊คก็ถูกสบประมาทว่าเป็นได้แค่เชียร์ลีดเดอร์!!

 

 

'บูลลี่ไทยๆ'?  เพราะเป็น 'โอ๊ค' จึงเจ็บปวด 

 

 

จนกระทั่งวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ขนาดโอ๊คตัวจริงมายืนให้สัมภาษณ์สื่อที่หน้าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง วันนั้นโอ๊คตอบคำถามสื่อชัดเจนดีว่าตื่นเต้นเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นการเข้าไต่สวนเป็นครั้งแรก

 

แต่คนไทยก็ยังอุตส่าห์ไปจับผิดโอ๊คที่ท่าทาง ภาษากาย แล้วก็เม้าท์มอยให้เจ้าตัวต้องออกมาบ่นผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า...เป็นลูกแม้ว “อยู่ยาก” จริงๆ

 

คำว่า “เจอมาเยอะ” ของโอ๊คมาจนถึงวันนี้ จริง-แต่งแค่ไหนก็ไม่เคยมีเนื้อที่พอให้เล่าถึงได้หมด!

 

*********************

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ