คอลัมนิสต์

เลือกตั้งซ่อมส.ส.สะท้อนอะไร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลือกตั้งซ่อมส.ส.สะท้อนอะไร บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562

 

 

 

          การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5 ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ จะชี้วัดอะไรได้บ้าง...พรรคอนาคตใหม่ขั้วฝ่ายค้านที่ประกาศว่า การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในบทพิสูจน์คะแนนนิยมรัฐบาล พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา จากชาวบ้านร้านตลาดว่ายังได้รับความไว้วางใจหรือไม่ แม้พื้นที่นี้พรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาลไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาลคือชาติไทยพัฒนาและประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ส่วนอีก 3 เขตที่มีแนวโน้มว่าเร็ววันนี้จะมีเลือกตั้งซ่อม ส.ส. คือ ขอนแก่น เขต 7, กำแพงเพชร เขต 2 และสมุทรปราการ เขต 5 ก็จะเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเบื้องต้นว่าคนไทยให้คะแนนรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมากกว่ากัน

 

 

          สถานการณ์การเมืองวันนี้ยังไม่แน่ชัดเท่าใดนัก เพราะจำนวนคะแนนเสียงของทั้ง “สองขั้ว” การเมืองมีความใกล้เคียงกันมาก ส่งผลให้มีกระแสข่าวงูเห่าภาคสามมาอย่างต่อเนื่องหลังรู้ผลเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เพราะคะแนนเสียงของขั้วรัฐบาลนั้นรวบรวม ส.ส.ผ่านเกณฑ์กึ่งหนึ่งมาแบบฉิวเฉียด โดยมาจากพรรคขนาดจิ๋วมาช่วยเกื้อหนุน และยามนี้กำลังพลจาก ส.ส.พรรคขนาดจิ๋วที่มีพรรคละหนึ่งไปจนถึงสามเสียงนั้น หลายคนทราบแล้วว่า บางพรรคขอเป็นฝ่ายค้านอิสระที่พร้อมลงมติให้ขั้วใดก็ได้ ตรงนี้ยิ่งทำให้สถานะของเรือเหล็กแปรผันได้ทุกเมื่อ

 


          หลายคนวิตกว่า เสียงปริ่มน้ำของเรือเหล็กลำนี้จะพาความฝันคนไทยบรรลุได้หรือไม่ เพราะกลางเดือนตุลาคมนี้จะมีการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระแรก วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐม นั้นคงไม่สามารถเพิ่มจำนวน ส.ส.จากพื้นที่นี้เข้าไปร่วมลงมติในร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นดัชนีชี้วัดเบื้องต้นตัวหนึ่งว่า ชาวประชามองการบริหารรัฐนาวาของพล.อ.ประยุทธ์ไว้อย่างไร และอาจมีผลกับการเลือกตั้งใน 3 เขตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้า

 

 

          ขั้วฝ่ายค้านหวังใจไว้ว่า 4 เขตนี้ อย่างน้อย 2 ถึง 3 เขตจะเป็นโอกาสของว่าที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านชนะว่าที่ ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาล แต่ขั้วรัฐบาลยังประเมินว่า 4 เขตที่จะเกิดการหย่อนบัตรเลือกตั้งใหม่นั้น ขั้วรัฐบาลน่าจะปักธงชัยไว้ครบ ตรงนี้น่าติดตามยิ่งนักหากวันข้างหน้าดุลการเมืองออกมาในแบบที่ขั้วฝ่ายค้านหวังใจไว้ การเมืองไทยจะพลิกสถานการณ์แบบบีบหัวใจรัฐบาลทันที เพราะจำนวน ส.ส.ของทั้งสองขั้วการเมืองจะเบียดชิดชนิดหายใจรดต้นคอ เนื่องจากสมัยประชุมหน้าหลังการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณยุติลงในวาระแรก สภาผู้แทนราษฎรจะต้องพิจารณาร่างกฎหมายและญัตติต่างๆ ตามที่ ส.ส.เสนอขึ้นมา และต้องลงมติ ตรงนี้เองที่จะทำให้เหตุสภาล่ม, ร่างกฎหมายบางฉบับไม่ผ่านความเห็นชอบ, การโต้เถียงด้วยสงครามน้ำลายของสองขั้วการเมืองจะว่อนไปทั่ว และสุ่มเสี่ยงที่จะมีแรงปะทะกันสูงขึ้นเรื่อยๆ




          พรรคการเมืองที่วันนี้มี ส.ส.เดินเข้าไปทำงานที่รัฐสภา เกียกกาย แม้จะมีการแข่งขันเพื่อชิง 4 เก้าอี้ ส.ส. แม้จะแบ่งเป็นสองขั้ว แต่ขอฝากไว้ ณ ตรงนี้ว่า ควรแข่งขันด้วยความใสสะอาด ไม่สาดโคลน เพราะพรรคการเมืองและส.ส.คือตัวแทนและหน้าตาของประชาธิปไตยไทย ดังนั้นการจะสอบติดหรือสอบตกหลังการลงคะแนนเสียงจากประชาชนใน 4 เขตข้างต้นนั้น มันสื่อถึงคุณภาพของสังคมไทยในวันนี้และวันหน้าว่า จะเลือกให้ตัวเองและชาติบ้านเมืองเดินไปในทิศทางใด แต่ไม่ควรย้ำรอยเดิมของกงกรรมการเมืองในช่วงสิบปีเศษที่ผ่านมาที่สร้างรอยช้ำให้ประเทศมามากมาย เพราะการเล่นการเมืองที่มากเกินไปของนักการเมืองไทยนั่นเอง...

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ