คอลัมนิสต์

เยาวชนกับอาชีพพริตตี้

เยาวชนกับอาชีพพริตตี้

25 ก.ย. 2562

บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันพุธที่ 25 กันยายน 2562

 

 

 

          มีผลสำรวจภาคสนามที่น่าสนใจจากสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เรื่อง พริตตี้ลัลลาเบล กับปัญหาสังคม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,565 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 19-21 กันยายน ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 66.2 บอกเป็นภาพสะท้อนสังคมไทยคือคนไม่มีคุณธรรม รองลงมาคือ ร้อยละ 47.7 ระบุว่าความปลอดภัยต่ำ ร้อยละ 41.5 เห็นว่าสังคมเน่า เสื่อม ร้อยละ 24.3 ระบุว่า คนตกเป็นทาสเงินตรา ค่าครองชีพ และร้อยละ 15.3 บอกว่า คนในสังคมไม่ช่วยกันดูแล อย่างไรก็ตามสำนักซูเปอร์โพลวิเคราะห์ว่า ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.0 บอกเอาไว้ว่าอาชีพพริตตี้ไม่ใช่อาชีพที่น่ารังเกียจ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.3 เห็นว่า เป็นอาชีพที่หาเงินได้มาก

 

 


          อย่างไรก็ตามจากการวิเคราะห์ผลครั้งนี้สำนักวิจัยชี้ว่าน่าเป็นห่วงคือ เกินกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.0 ตอบแบบสอบถามว่า ยอมเสี่ยงเสียตัวเพื่อแลกเงินก้อนใหญ่ และเมื่อจำแนกออกตามช่วงอายุ พบกว่าในกลุ่มเยาวชนหญิงคืออายุระหว่าง 15-19 ปี จำนวนมากหรือร้อยละ 40.0 ยอมเสี่ยงแลกกับเงินก้อนใหญ่ และหญิงที่อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปเกินกว่า 1 ใน 3 เช่นกันหรือร้อยละ 33.7 ยอมเสี่ยงเสียตัวแลกกับเงินก้อนใหญ่ อย่างไรก็ตามนอกจากผลการวิจัยนี้แล้วได้มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความห่วงใยต่ออนาคตของเยาวชนที่อาจตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะในกรณีของการ

 


          ประกอบอาชีพที่อยู่ในภาวะ “เสี่ยง” ซึ่งแม้จะมีมานานแล้ว แต่สังคมไทยก็ไม่ได้ให้ความสนใจกระทั่งเกิดกรณีลัลลาเบลขึ้นมาในกรณีนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มองในแง่มุมของสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ต้องให้ความเคารพต่อการตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพ จะไม่เอาความคิดตัวเองไปบังคับคนอื่น หรือจับใครเข้าแถวให้คิดเหมือนกันทั้งหมด เพราะความหลากหลายคือจุดแข็งของสังคม อาชีพพริตตี้เป็นธุรกิจใหม่ที่ขยายมาจากธุรกิจบันเทิงที่เด็กทุกคนฝันจะเข้าวงการนี้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเด็กสมัยนี้ไม่มีความอดทนเหมือนคนรุ่นก่อน และโลกในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก ฉะนั้นอย่าใจแคบ ส่วนความเป็นห่วงที่ว่าเยาวชนจะตกเป็นเหยื่อนั้น ได้คำตอบว่าเด็กบางคนความคิดอาจนำผู้ใหญ่ก็ได้

 


          ในความเห็นของฝ่ายที่มองว่าเป็นสิทธิในการเลือกประกอบอาชีพ รวมทั้งผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 93.0 ที่บอกว่า อาชีพพริตตี้ไม่ได้น่ารังเกียจ และร้อยละ 70.3 ก็เห็นว่าสามารถทำเงินได้มาก น่าจะตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าบุคคลที่ประกอบอาชีพนี้ควรจะบรรลุนิติภาวะ หรือพ้นจากความเป็นเยาวชนไปแล้ว อีกทั้งอาชีพพริตตี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานอีเวนท์ต่างๆ มาช้านาน หากแต่กรณีของลัลลาเบลนั้น อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง ยิ่งถ้าเป็นเยาวชนหรือกลุ่มอายุ 15-19 ปีด้วยแล้ว อาจจะตกเป็นเหยื่อความโสมมของสังคมก็เป็นไปได้ ซึ่งในกรณีเช่นนี้เยาวชนหญิงเหล่านี้ก็ควรจะต้องได้รับการดูแลโอบอุ้มจากสังคมและการคุ้มครองตามกฎหมายในหลายกรณีด้วยเช่นกัน