คอลัมนิสต์

ผู้กองมนัส แค่ ล็อบบี้ยิสต์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... ถอดรหัสลายพราง โดย... พลซุ่มยิง

 

 

          สลัดยังไงก็ยังไม่หลุด กับอดีตที่ตามหลอน ‘ผู้กองมนัส’ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กรณีเข้าไปพัวพันคดียาเสพติด ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ 30 ปีก่อน ซึ่งดูทีท่าจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะเตรียมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทำให้เสียชื่อเสียงกว่า 100 คดี ซึ่งหนึ่งในนั้นน่าจะมีชื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย 

 

 

          หลัง ‘เสรีพิศุทธ์’ ออกมายอมรับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังส่งข้อมูลให้ เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ สื่อออสเตรเลีย จนนำไปพาดหัวข่าวใหญ่โตระบุว่า From sinister to minister : politician’s drug trafficking jail time revealed (จากคนร้ายกลายเป็นรัฐมนตรี) โดยกล่าวอ้างว่า ร.อ.ธรรมนัส ติดคุกออสเตรเลีย 4 ปี ด้วยข้อหานำเฮโรอีนเข้าประเทศ


          ก่อนจะมอบหมายให้ พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นตัวแทนเปิดกระทู้ถามสด ขย่มซ้ำในสภา หวังกระทบชิ่งถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ ในฐานะเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีการท้วงติง


          แต่งานนี้ลุกลามไปถึงเรื่องคุณสมบัติแสดงวุฒิบัตรปริญญาเอกของ ‘ผู้กองมนัส’ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเพจ CSI LA เปิดเผยว่าเป็นของปลอม หรือแม้แต่การจับผิดวิทยานิพนธ์ ที่พบว่ามีหลายจุดไปคล้ายคลึงกับของคนอื่น จนกลายเป็นข้อถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายการเมือง และสังคมโซเชียลอยู่ในขณะนี้


          ทางคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี ‘เสรีพิศุทธิ์’ นั่งเป็นประธาน ได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการ 2 คณะ มี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ รับผิดชอบ เดินทางไปประเทศออสเตรเลีย ตรวจสอบทั้ง 2 กรณี

 



          เกมนี้คงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากต้องการสั่นคลอนเสถียรภาพ พล.อ.ประยุทธ์ หลังเชื่อกันว่า ‘ผู้กองมนัส’ คือ เส้นเลือดใหญ่ ที่หล่อเลี้ยงหัวใจรัฐบาล เพราะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประสานงาน และยังมีชื่อนั่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)


          ‘ผู้กองมนัส’ เป็นอีกคนได้รับฉายา “มือประสานสิบทิศ” เช่นเดียวกับ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หลังออกมายอมรับว่า เป็นคีย์แมนคนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการรวบรวมเสียงยกมือโหวตสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ถูกโจมตีในครั้งนี้


          บทบาทของ ‘ผู้กองมนัส’ ใน พปชร.ไม่ได้แตกต่างกับในอดีต สมัยที่เริ่มเข้าสู่เวทีการเมืองใหม่ๆ ด้วยการทำฐานเสียงใน กทม. ให้แก่พรรคไทยรักไทย (ทรท.) ยุค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แข่งกับ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เพียงแต่การทำงานเป็นไปในทางลับ ไม่มีตำแหน่งรองรับ เหมือนเช่นปัจจุบันนี้


          จากวิกฤติการเมืองเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2549 ทำให้ ‘ผู้กองมนัส’ มีชื่ออยู่ในบัญชีหน่วยงานความมั่นคง ที่ต้องเผชิญปัญหานานัปการและเกือบจะถูกริบทรัพย์สิน แต่ด้วยความรู้จักคนมากหน้าหลายตา ทำให้ทุกอย่างพ้นมาได้ ก่อนจะหายเงียบไปจากเวทีการเมืองช่วงหนึ่ง


          การกลับเข้ามาช่วยงานใน พปชร. เข้าข่าย บุญคุณต้องตอบแทน เพราะต่างฝ่ายต่างเคยพึ่งพากันและกัน โดย ‘ผู้กองมนัส’ เคยตอบคำถามของสื่อ หลังมีชื่อเข้ามาช่วยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นขั้วการเมืองตรงข้ามกับพรรคไทยรักไทย ซึ่งปัจจุบันกลายสภาพเป็นพรรคเพื่อไทย ว่า “นายเรียกตัว ขอให้มาช่วยงาน”


          ว่าไปแล้ว ‘ผู้กองมนัส’ ก็คือ ล็อบบี้ยิสต์ ดีๆ นี่เอง ที่ “บิ๊กป้อม” เลือกใช้บริการ หวังเป็นมือเป็นไม้ช่วยประคอง พล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ครบเทอมตามแผนที่ได้วางไว้ โดยให้รับบทบาทเป็นทั้งกันชน และมือประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะคนในพรรคฝ่ายค้าน ในสภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เพราะมีศิลปะในการเข้าหาคน และมักจะเข้าได้ถูกคนเสียด้วย


          ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดียาเสพติด และปริญญาเอก จะเป็นอย่างไรต้องไปพิสูจน์กันด้วยพยานหลักฐาน แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เชื่อเถอะว่า แผนโจมตี ‘ผู้กองมนัส’ หวังให้กระทบเสถียรภาพ หรือล้มรัฐบาล คงไม่ได้ผล เพราะคนที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ ที่ทำหน้าหน้าที่หล่อเลี้ยงหัวใจ พล.อ.ประยุทธ์ ตัวจริงน่าจะเป็น “บิ๊กป้อม” มากกว่า

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ