คอลัมนิสต์

"หนู" โกยแต้ม ประชานิยมสายเขียว เอาใจ "เกษตรกรอินทรีย์"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงานพิเศษ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก 17-18 ส.ค.62

 

*****************************

 

วันนี้ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล” จากอดีต รมช.สาธารณสุข ในรัฐบาลเสี่ยแม้ว กำลังโกยแต้มสุดฤทธิ์ในฐานะ รมว.สาธารณสุข ในรัฐบาลลุงตู่

 

ใครจะดูเบาว่าเพราะวิ่งเล่นในกระทรวงคุณหมอมานานก็ตามที แต่ตอนนี้กระแสชื่นชมกำลังมา ถามกันว่านาทีนี้รัฐมนตรีคนไหนงานดี งานไหล เท่าเสี่ยหนูและคนในสังกัดสีน้ำเงิน ยังไม่ค่อยเห็น

 

 

ปลดล็อกหมอพื้นบ้าน

 

อย่างที่รู้ ที่จริงปัญหาหมอพื้นบ้าน มีมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะกระทรวงสาธารณสุขบังคับให้ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และล่าช้า หลายคนสงสัยว่านี่คือการเตะตัดขา

 

ปรากฏว่าตอนนี้หมอพื้นบ้านได้เฮลั่น วันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา รมต.หนู จัดให้ โดยลงนามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562

 

ใจผักที่รอคอยคือ กฎหมายนี้จะให้หมอพื้นบ้านตามระเบียบกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นหมอพื้นบ้านตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 “อัตโนมัติ” โดยไม่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติใหม่

 

 

"หนู" โกยแต้ม  ประชานิยมสายเขียว  เอาใจ "เกษตรกรอินทรีย์"

 

การลงนามนี้เกิดขึ้นต่อหน้า เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย และ รสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย

 

แน่นอน ระเบียบว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้านฉบับใหม่นี้ จะทำให้หมอพื้นบ้านกว่า 3,000 คน รวมทั้ง เดชา ศิริภัทร ผู้ปรุงน้ำมันกัญชาแจกจ่ายรักษาประชาชน สามารถดำเนินการรักษาต่อไปได้

 

วันนั้น ท่านรมต.บอกว่า “ที่ผ่านมาอาจมีอะไรติดขัดบ้าง ก็เพราะเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล รัฐมนตรีแต่ละคนก็มีนโยบายต่างกัน ปลัด สธ. และอธิบดีต่างๆ ก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐมนตรี จึงไม่อยากให้โกรธเคืองกัน อะไรที่แล้วก็ให้แล้วไป อย่าตะขิดตะขวงใจ”

 

หรือที่จริงอยากบอกว่า “หาเสียงยังไง ทำจริงตามนั้น!"

 

 

ตามสัญญากัญชาไทย

 

แต่ยังไม่จบแค่นั้น เพราะเสี่ยหนู ยังลงนามประกาศกระทรวงอีก 2 ฉบับ 1.กำหนดผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้าน ตามกฎหมายวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ที่จะสามารถปรุง หรือสั่งจ่ายตำรับยาที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ได้ และ 2.เรื่องกำหนดตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ ที่ให้เสพเพื่อรักษาโรค หรือการศึกษาวิจัยได้

 

เรื่องนี้หมอพื้นบ้านยิ่งเฮลั่นหนักกว่าเก่า เพราะเดิมทีกำหนดให้ใช้วัตถุดิบจากเครื่องกัญชากลาง ซึ่งอาจต้องมีการผสมสมุนไพรอื่น อย่างพริกไทยลงไป ด้วยเจตนาที่จะมีหน่วยผลิตกลาง เพื่อป้องกันการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

 

 

"หนู" โกยแต้ม  ประชานิยมสายเขียว  เอาใจ "เกษตรกรอินทรีย์"

 

 

แต่จริงๆ หมอพื้นบ้านและแพทย์แผนไทยไม่ได้ใช้เครื่องกัญชากลาง ต้องใช้พืชใบสด และจะได้ปรุงยาเฉพาะรายได้ตรงตามสูตร เพราะหากมีการผสมอย่างอื่นก็อาจจะผิดสูตรไปได้ พอมีการแก้ไขตรงนี้ก็จะทำให้หมอพื้นบ้านและแพทย์แผนไทยปรุงเฉพาะรายดีขึ้น

 

แน่นอน ระเบียบและประกาศทั้งหมดจะมีผลทันทีหลังจากประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา แต่ที่เห็นเสี่ยหนูลุยแล้วคือ วันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา เสี่ยหนูได้แถลงเรื่องการส่งสารสกัดน้ำมันกัญชามาตรฐานทางการแพทย์ จากองค์การเภสัชกรรม ไปให้แก่โรงพยาบาลศูนย์ทุกเขตสุขภาพ เขตละ 1 แห่ง รวม 12 แห่ง และผู้ป่วยในโครงการวิจัย 2 ประเภท ได้แก่ การศึกษาวิจัย และการรักษากรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย เพื่อให้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล เข้าถึงการรักษาด้วยสารสกัดน้ำมันกัญชา

 

 

"หนู" โกยแต้ม  ประชานิยมสายเขียว  เอาใจ "เกษตรกรอินทรีย์"

 

 

โดยเป็นแบบหยดใต้ลิ้น ชนิด THC สูง ขนาด 5 มล. 4,500 ขวด และจะได้เพิ่มอีก 2,000 ขวด (ชนิด CBD สูง ขนาด 10 มล. 500 ขวด และชนิด THC : CBD (1:1) ขนาด 5 มล. 1,500 ขวด) รวมเป็น 6,500 ขวดภายในเดือนสิงหาคมนี้

 

แถมเสี่ยหนูยังลั่นว่าจะเร่งเดินหน้าให้ประชาชนได้เข้าถึงสารสกัดน้ำมันกัญชา 1 ล้านขวด ภายใน 5-6 เดือนนี้ และจะทยอยผลิตสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง 2 แสนขวดต่อเดือน ตั้งแต่กันยายนนี้ไป

 

 

"หนู" โกยแต้ม  ประชานิยมสายเขียว  เอาใจ "เกษตรกรอินทรีย์"

 

 

 

รมช.สวยเก่ง

 

ว่ากันว่า นับจากเข้าทำงานที่กระทรวงคุณหมอวันแรกเมื่อ 18 กรกฎาคม 2562 ลมหายใจเข้าออกของ รมว.สาธารณสุข คนนี้ คือเรื่องกัญชาทางการแพทย์ จนที่สุดก็ออกมาเป็นรูปธรรมให้เราได้เห็นตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

 

ล่าสุดยังสั่งกรมการแพทย์แผนไทยฯ ผลิตน้ำมันกัญชาสูตร “อ. เดชา” 1 แสนขวด พร้อมให้ อ.เดชาเป็นที่ปรึกษาและร่วมผลิตอีกด้วย !

 

แต่งานนี้หล่อคนเดียวไม่ได้ เพราะงานดีๆ ของพรรคภูมิใจไทย ยังมีคนสวย อย่าง มนัญญา ไทยเศรษฐ์” รมช. เกษตรฯ ที่กำลังออกลีลาสุดฤทธิ์เหมือนกัน

 

 

"หนู" โกยแต้ม  ประชานิยมสายเขียว  เอาใจ "เกษตรกรอินทรีย์"

 

 

นั่นคือการเดินหน้าแก้ปัญหาสารพิษในภาคการเกษตร คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเสต จากที่ วิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล (ลุงตู่) ที่แล้ว ได้ต่อสู้ให้ยกเลิกมาตลอด แต่ยังไม่เกิดผลชัดเจน

 

แต่เบแหม่ม มนัญญา กล้าบอกเลยว่า “การยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด จะทำให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ เพราะมีการใช้มานานเกินไปแล้ว ส่วนตัวแล้วอยากให้ยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิดอย่างถาวร”

 

โดยวันที่ 20 สิงหาคมที่จะถึง จะมีการทบทวน พ.ร.บ.คุ้มครองที่เกี่ยวข้องกับวัตถุอันตรายของสารเคมี เช่น การแบ่งโซนพื้นที่อันตราย หรือพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้ได้ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน

 

แน่น่อน คำว่า “ทบทวน” อาจแปลว่ายังไม่ได้ยกเลิก แต่ท่าทีที่ชัดเจนของ “เบแหม่ม” ก็ถูกใจคนไทย โดยเฉพาะเอ็นจีโอสายเกษตรกรที่ลุยต้านสารพิษ 3 ตัวนี้มานาน แทบจะเป็นสงครามย่อมๆ กับภาครัฐ

 

ทั้งหมดนี้ จึงส่งผลไปถึงภาพโดยรวมของคนพรรคภูมิใจไทย ที่น่าจับตามองไปถึงเส้นทางพรรคขนาดกลางที่น่าจะเติบโตไปได้อีกไกลยิ่ง

 

คะแนนจาก “ซูเปอร์โพล” ที่เผยผลสำรวจความเห็นของประชาชนในหัวข้อพรรคการเมืองใดเริ่มทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนได้มากที่สุด

 

คำตอบ อันดับ 1 กว่าร้อยละ 40 ก็คือ “พรรคภูมิใจไทย” นี่แหละ!! ไม่ใช่ใครเลย

 

*******************//*******************

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ