คอลัมนิสต์

"เอ๋ โพธาราม" สายแข็งสู้สิบทิศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงานพิเศษจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก 10-11 ส.ค.62

 

 

การเมืองยุค 5.0 ผู้แทนภูธร-นครบาล ถูกลากเข้าสู่สมรภูมิสื่อใหม่ เกิดปรากฏการณ์ “ส.ส.สายแข็ง” เต็มสภา กรณี “เอ๋ โพธาราม” ผู้ประกาศศึกสิบทิศ มีคนชัง ก็มีคนรัก ไม่หวั่นสอบตก เพราะใช้กลยุทธ์ 1.0 รักษาฐานเสียง 

 

นักเลกเลงงานวัดยังต้องรอให้วัดมีงาน แต่ เอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์" ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ วัย 43 มาถึงวันนี้ สาวเอ๋ยังคงจัดหนัก จัดแรง จัดรอบทิศ

 

 

"เอ๋ โพธาราม"  สายแข็งสู้สิบทิศ

 

 

ลองนับนิ้วดูช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เอ๋ปะฉะดะกับคนการเมืองรวมแล้ว 5 คน เฉลี่ย 14 วัน เอ๋มีเรื่อง 3 วันต่อ 1 คน แซะ เสียด ผ่านโลกออนไลน์ คลับคล้ายนักเลงคีย์บอร์ดก็ไม่ปาน

 

มาดูกันว่า นักการเมืองที่เจอสาวเอ๋ “เปิดวอร์” ด้วยนั้นมีใครบ้าง

 

 

สงครามตัว อ.

 

ปลายเดือนกรกฎาคม บรรดา ส.ส. ที่เราเลือกเข้ามาก็ได้เริ่มทำงานกันเสียที แต่คนที่เปล่งแสงเป็น “ดาวสภา” หนีไม่พ้น “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่อภิปรายครั้งแรกก็ทำเอาคนจากฝ่ายรัฐบาลเองถึงกับชมว่าดีงาม สร้างสรรค์

 

จะมีก็แต่สาวใหญ่จากเมืองโอ่งนี่แหละ ที่จิกกัด ส.ส.ชายไม่ยั้ง แต่ที่นับว่าแรง คือการแชร์คลิปรายการคลับฟรายเดย์ ในเฟซบุ๊กของตนเอง ซึ่งเทปนั้นอดีตภรรยาของทิมบอกเล่าถึงปัญหาระหว่างเธอกับอดีตสามีไว้

 

เรื่องนี้ ฝ่ายคู่ร้างไม่ได้ร้อนรนอะไร จะมีก็แต่พี่น้อง คุนผลิน” อั๋น-แอน ที่พากันแท็กทีมเข้ามาสวนเอ๋กันไปคนละชุด กลายเป็นสงคราม คนชื่อ อ.” มันหยด

 

 

"เอ๋ โพธาราม"  สายแข็งสู้สิบทิศ

อั๋นและแอน (ภาพจากเฟซบุ๊ก  Puwanart Kunpalin)

 

 

รอบแรก “อั๋น” ภูวนาท คุนผลิน พิธีกรชื่อดัง วัย 43 ได้โพสต์ออกตัวว่าเป็นพิธีกรที่คุยกับอดีตภรรยาของทิมเอง แต่ตนเองฟังความมาฝ่ายเดียว จะไม่ตัดสินใครง่ายๆ ผู้ปกครองควรชี้แนะว่าอะไรดีอะไรไม่ดี

 

งานนี้ มีหรือคนใหญ่ระดับเอ๋ โพธาราม จะยอม จึงโพสต์กลับว่าอั๋นนั้นเป็นดารา นักร้อง แต่ไม่ดัง พอไปลงการเมืองพื้นที่เล็กๆ (สมัคร ส.ก.) ก็ยังสอบตก ขอให้ผู้ปกครองหรือพี่สาว (อดีต ส.ส.ภูวนิดา คุนผลิน) ชี้แนะด้วย

 

โดนพาดพิงขนาดนี้ มีหรือ “แอน ภูวนิดา” จะอยู่เฉย ในฐานะอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย วัย 50 รุ่นพี่ที่มีตำแหน่งทางการเมืองมาแล้วหลายด้าน จะไม่สวนกลับน้องเอ๋ก็คงแปลก

 

แต่ที่เป็นประเด็นที่สุดคือ แอนกล่าวว่า สิ่งที่เอ๋โพสต์เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท ถ้าเอ๋ไม่ลบและลงข้อความขอโทษ ก็อาจเจอฟ้อง

 

 

"เอ๋ โพธาราม"  สายแข็งสู้สิบทิศ

 

 

งานนี้ เอ๋ไม่เพียงตอบกลับมาว่า “ไม่ขอโทษ” เพราะสู้ไปตนเองก็ชนะ แต่ยังท้าจะฟ้องกลับอีกด้วย !

 

 

เปิดไฝว้คนหน้าเดิม

 

ผ่านศึกออนไลน์ไม่กี่วัน เมืองกรุงป่วนจากกรณีช่วงวันที่ 1-2 สิงหาคม ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด 7 จุด ทั่วกรุงเทพฯ จนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บ

 

เรื่องนี้แม้ทางการจะสามารถจับกุมคนที่ระบุว่าเป็นมือวางระเบิดได้ แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปแรงจูงใจ และโครงข่ายสายงานออกมาได้ชัดเจน

 

สู้ปารีณาไม่ได้ วันแรกเธอโพสต์ในสิ่งที่ทำเอา “โคนัน” ยังอายเลยว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด

 

“นายกทักษิณเป็นคนไม่ดีคะ ต้องเรียนรู้แพ้ รู้ชนะ พอหยุดเผา ก็มาระเบิด #อำมะหิด” แต่ภายหลังได้ลบออกไป

 

เรื่องนี้ไม่ได้ยินทักษิณว่าอะไร แต่ที่แน่ๆ คนไทยเริ่มสงสัยในตัวเอ๋ จนกระทั่งมีคนอย่าง “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” มายิงคำถามได้อย่างตรงใจในรายการ “แฉ” ทางจีเอ็มเอ็ม 25 นี่แหละ เราถึงได้เข้าใจเอ๋มากขึ้น 

 

แต่ผ่านทักษิณมาไม่นาน ปรากฏว่า เอ๋กลับไปไฝว้กับคู่ปรับเก่า แถมหนนี้หนักกว่าเดิม เพราะถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล

 

 

"เอ๋ โพธาราม"  สายแข็งสู้สิบทิศ

 

 

มูลเหตุมาจากฝ่าย ส.ส.ราดรี ไปแชร์ข่าวปลอม หรือ เฟคนิวส์” จากเฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ระบุข้อความและภาพทำนองว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ พรรณิการ์ วานิช พบปะกับหนุ่มใต้คนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายมือวางระเบิดใน กทม.

 

งานนี้สาวช่อยอมไมได้ วันที่ 7 สิงหาคม จึงเดินทางมาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้องเอ๋ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา มาตรา 326, 328

 

ช่ออ้างว่าไม่ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายและไม่ต้องการให้ปารีณาติดคุก แต่ต้องการให้สังคมเห็นว่าการเผยแพร่ข่าวปลอมทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล ถือเป็นความผิดทางอาญา สร้างความเกลียดชังแตกแยกทางสังคม จึงต้องการทำให้เป็นคดีตัวอย่าง

 

ปรากฏว่า ฝ่ายเอ๋มีหรือจะตั้งรับเฉยๆ ช่วงสายวันเดียวกัน เอ๋ก็สวมบทสก๊อยลืมหมวก ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปแจ้งความช่อข้อหาหมิ่นประมาท ที่ สน.ลุมพินี บ้าง

 

งานนี้ยังต้องว่าอีกยาว แต่สำหรับเอ๋ เจ้าตัวบอกเลย “สอบอมอ-ชนะใส” เพราะที่ตนเองโพสต์มาตลอด ไม่เคยเอ่ยชื่อใคร ตรงกันข้าม อีกฝ่ายระบุชื่อตัวเองชัดเจน แบบนี้ใครเสียหายกันแน่...ตอบ !!

 

 

วัน” นะ ไหวเหรอ ?

 

ไล่ๆ กัน ความช่อยังไม่จบ ความ “วัน” ก็มาจองกฐินตั้งแต่ยังไม่ออกพรรษา เพราะสาวเอ๋ไปขุดข่าวเก่าปี 2561 ที่ วัน อยู่บำรุง” ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย เคยมีเรื่องวิวาทจนต้องขึ้นโรงพัก พร้อมข้อความว่า “1.ใหญ่จัง 2.คุ้นเคยกับที่แคบๆ 3.พ่อแม่รังแกฉัน จึงเป็น...”

 

 

"เอ๋ โพธาราม"  สายแข็งสู้สิบทิศ

 

อ่านไปอ่านมา คนไทยนึกออกว่าสาวเอ๋คงอยากเอาคืนอีกฝ่ายที่ไปโพสต์โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า 1.ขาดคุณสมบัติลงสมัครเป็นนายกฯ, 2.ถวายสัตย์ไม่ครบ, 3.รัฐบาลเป็นโมฆะ

 

แต่เรื่องนี้มีหรือคนดังบางบอนจะนิ่งเฉย เพราะทางนี้ก็ยอมใครไม่เป็นเหมือนกัน ว่าแล้วก็จัดหนักสาวเอ๋อย่างแรง ส่วนเนื้อหาว่ายังไงบ้างเราคงเห็นไปแล้ว

 

ที่แน่ๆ คู่นี้ คนไทยถ้าไม่ตบเข่าฉาดว่าเป็น “สายเกรียน” มวยถูกคู่ ก็คงจะงงเป็นไก่ตาแตกว่าทำไม เอ๋ ปารีณา ถึงบ้าดีเดือดขนาดนี้ !

 

ก็น่าเสียวไส้ว่าหลังจากนี้ เอ๋จะไปเปิดวอร์กับใครอีกเท่าไร แต่หากถามชาวราดรี หากเลือกตั้งมีมาเมื่อไร เหลียวซ้ายแลขวา สาวเอ๋บอกเลย...ไม่น่าจะพ้นตนไปได้

 

เพราะเธอได้ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐไว้ว่า เธอมีเทคนิคเด็ดครองใจคนโพธาราม-จอมบึง ได้ยาวนานถึง 4 สมัย คือ 1.เกรงใจ เสมอต้นเสมอปลาย 2.ร่วมงานชาวบ้านไม่ขาด 3.เจอง่าย ทั้งที่บ้าน ไลน์ เฟซบุ๊ก โทรศัพท์ รับหมด

 

 

"เอ๋ โพธาราม"  สายแข็งสู้สิบทิศ

 

 

ส่วนถามว่าเจอมาหนักขนาดนี้ กังวลต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ เอ๋ตอบว่า "มันไม่มีผลหรอกค่ะ เพราะว่าทุกวันนี้ก็ลงพื้นที่ตามปกติ และได้รับความเมตตาเช่นเดิม กระแสมันมีแต่ในโซเชียล แต่ในความเป็นจริง ในพื้นที่จริงมันไม่ได้มีแค่นั้น” (ไทยรัฐออนไลน์ 8 ส.ค. 2562)

 

สรุป เอ๋ยังคงเป็นเอ๋ที่ “ไม่เชิญก็ไป มีอะไรก็มา” มั่นหน้ามั่นใจแบบนี้ไม่เปลี่ยนจริงๆ

 

 

มดดำ” ปะทะ “เอ๋” สายแข็ง

 

จะว่าไป ตัวตนเกือบทั้งหมดของ เอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์” ถูก “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” กระชากออกมาได้มากในรายการ “แฉ” เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา กับการคุยสดข้ามประเทศผ่านวิดีโอคอลช่วงที่ ส.ส.หญิงกำลังพักผ่อนที่สิงคโปร์

 

นอกจากที่เอ๋แจงว่าการที่ ช่อ พรรณิการ์ เดินหน้าเอาเรื่องเธอทางกฎหมายนั้นเพราะเจ้าตัวกินปูนร้อนท้องไปเอง ก็คงเป็นเรื่องที่เอ๋ไปยุ่งกับครอบครัวของ ทิม พิธา ซึ่งเรื่องนี้มดดำถึงกับใช้คำว่า “แกว่งเท้าหาเสี้ยน” แต่เอ๋ก็ตอบกลับตาใสมาว่า

 

ตอนที่เขาอภิปรายเราอยู่ในห้องอาหาร ได้ยินแล้วก็หัวเราะก๊ากเลยจริงๆ เพราะเหมือนคนไม่รู้เรื่องเกษตรมาพูด คนเป็นเกษตรกรอย่างดิฉันพอฟังแล้วมันตลก ข้าวตันละ 30,000 บาท เป็นเรื่องตลก เอ๋อยู่กับชาวนามา 12 ปี รับเรื่องร้องเรียนต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องราคาสินค้าเกษตร เรื่องน้ำ เรื่องสิ่งต่างๆ มานานแล้ว เอ๋อยู่กับพื้นที่จริงๆ”

 

 

"เอ๋ โพธาราม"  สายแข็งสู้สิบทิศ

 

 

ใครเคยเห็นลีลาสาวเอ๋ต้อนวัวเข้าคอก ในเพจ Roundtable Thailand คงพอจะนึกออกว่าเกษตรกรตัวจริงหน้าตาลีลาต้องเป็นแบบไหน

 

แต่คำถามสำคัญที่ว่าทำไมถึงโพสต์โจมตี ทักษิณ ชินวัตร ในเหตุการณ์ระเบิดกรุง เอ๋แจงว่าตนเองก็เป็นห่วงคนไทยเหมือนทุกคน พอได้ยินข่าวระเบิดไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนึกถึงคนนี้

 

ถึงตรงนี้มดดำอดถามไม่ได้ว่า เมื่อก่อนอยู่พรรคไทยรักไทย ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ เอ๋ก็แจงว่า ตนเองนั้นถูกบิดาขอให้มาทำงานพรรคนี้ แต่จริงๆ คิดตรงข้าม

 

“ถ้าดูจากสัมภาษณ์แต่ก่อน จะเห็นว่าที่ดิฉันไปอยู่พรรคนั้นเพราะคุณพ่อขอร้อง (ทวี ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี 7 สมัย) ใครๆ ก็รู้ว่าคุณพ่อดิฉันเป็นเสื้อแดง เสื้อแดงจัดด้วย ถึงขั้นมีการควักเงินควักทองกันเลยเต็มที่ ส่วนตัวดิฉันมีประวัติไปอีกทางหนึ่ง ก็จะมีความเห็นทะเลาะกันบ่อย”

 

“แล้วดิฉันไม่ได้โทษนะคะ ดิฉันแค่นึกถึง พอมีระเบิด ก็คิดถึงคนนี้ขึ้นมาทันที เพราะดิฉันมองว่าเขาเป็นคนไม่ดี อยู่ดีๆ มันก็เข้ามาในหัวว่าทักษิณหรือเปล่า แต่พอดีนายกฯ ทักษิณมาฟ้องดิฉันไม่ได้เพราะอยู่ต่างประเทศ” (ฮา)

 

งานนี้ทำเอามดดำถึงกับปวดหัวตึ้บ และโวยออกมาว่า นี่ฉันสัมภาษณ์กับคนสติดีหรือเปล่า!! จนพิธีกรร่วมต้องช่วยเปลี่ยนคำถามว่า คุณเอ๋มีเพื่อนบ้างไหม? พอเอ๋ตอบว่า “มีน้อยค่ะ" ข่าวก็จบลงแต่เพียงแค่นั้น

 

*******************//*******************

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ