คอลัมน์ "ท่องยุทธภพ" โดย "ขุนน้ำหมึก" หนังสือพิมพ์คมชัดลึก 8 ส.ค.62
******************
ระเบิดสะท้านกรุง จะเชื่อมโยงกับ “ขบวนการใหม่” ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้หรือไม่ ? ต้องรอฟังคำแถลงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 8 สิงหาคม 2562
ในสถานการณ์ระเบิดป่วนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา และติดตามความคืบหน้าโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ยะลา
15 ปีไฟใต้ลุกโชน มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นมากมาย แต่ “ขบวนการใหม่” ก็ไม่สามารถยึดพื้นที่ประกาศสถาปนาอำนาจรัฐของตนเองได้ จึงมีคำถามขบวนการใหม่ขยายพื้นที่ปฏิบัติการจริงหรือ ?
ทางสายไหน?
เมื่อกลางเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา “อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ” ส.ส.ยะลา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นทนายความประจำมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ที่ให้ความช่วยเหลือในคดีด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนใต้ ได้โพสต์แสดงความเห็นเกี่ยวกับไฟใต้ไว้น่าสนใจ
ทนายอดิลันเป็นคนรุ่นใหม่ มีความคิดความอ่านก้าวหน้า จึงตั้งคำถามว่า “การต่อสู้ทางการเมือง...วิธีการหรือเป้าหมาย เราเลือกอะไรได้บ้าง”
เนื่องจากทนายอาดิลัน เป็น ส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาล และสนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี จึงเจอปฏิกิริยาคนกันเองมากกว่าเพื่อนทนายคนอื่นที่ลงสมัคร ส.ส.ในครั้งนี้
ทนายอาดิลันในสีเสื้อพลังประชารัฐ
“ตลอดระยะเวลา 15 ปีกว่าที่ผ่านมา ในพื้นที่แห่งนี้มีนักต่อสู้หลากหลายแนวคิดที่ใช้วิธีการตามความเชื่อของตนเองในการต่อสู้เรียกร้อง บางกลุ่มต่อสู้เรียกร้องด้วยการใช้ความรุนแรง บางกลุ่มต่อสู้เรียกร้องด้วยหลักการสันติวิธี และมีบางกลุ่มที่บอกว่า ต้องต่อสู้ตามระบอบของประชาธิปไตยที่ถูกต้อง(การต่อสู้ทางการเมือง) และมีแนวทางการต่อสู้อีกหลากหลายวิธีการของนักต่อสู้อีกหลากหลายกลุ่มในพื้นที่”
ทนายอาดิลัน กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ “นักการเมืองชายแดนใต้” อดีตผู้นำนักศึกษาจากรามคำแหง ที่ได้เป็น ส.ส. เพราะมวลชนฝ่ายก้าวหน้า สนับสนุนเขาให้ไปสู้ในเวทีสภา
ก่อนหน้านั้น นักการเมืองชายแดนใต้รวมตัวเป็นหนึ่ง และอธิบายให้มิตรสหาย “ขบวนการเก่า” ว่า เราต่อสู้แนวทางชนบทล้อมเมืองมานาน ไม่ได้อำนาจรัฐ เราจึงใช้หนทางสภาเพื่อเข้าสู่ใจกลางแห่งรัฐ
ครั้นนักการเมืองคนนั้น และเพื่อนพ้องน้องพี่ มีอำนาจ มีหัวโขนรัฐมนตรี กลับเสวยสุขและทอดทิ้งคนรากหญ้า
ขบวนการใหม่...จึงอุบัติขึ้น ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรมแห่งมลายูมุสลิม
ทนายฝ่ายตรงข้าม
ช่วงเลือกตั้ง 2562 เขต 1 อ.เมืองยะลา เป็นเขตของไทยพุทธ-ไทยเชื้อสายจีน ที่ชื่นชอบและศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์อย่างเหนียวแน่น "ประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ“ เป็น ส.ส.แทบจะผูกขาด แต่ปีนี้ ลงสนามไม่ได้ จึงส่งลูกชาย “ภูริพงศ์ พงษ์สุวรรณศิริ” ลงสมัคร ส.ส.แทน
ส่วน “อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ” อดีตสมาชิกสภาเทศบาล(ส.ท.)นครยะลา มีผลงานเป็นทนายความรับสู้คดีให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ลงสนาม
ทนายอาดิลัน ปากเสียงของผู้ตกเป็นจำเลยคดีไฟใต้
ทนายอาดิลัน ถูกตั้งคำถามและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เหตุใดคนที่เคยทำงานภาคประชาสังคมช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน จึงมาร่วมทางกับพรรคทหาร
“เราสู้คดี เราทำหน้าที่แก้ต่างให้แก่คนที่ถูกกล่าวหา ปัญหาก็ยังคงเดิม จะไม่ดีกว่าหรือถ้าได้เข้าไปอยู่ข้างใน จะได้บอกกับเขาว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ”
เหตุผลที่ทนายอาดิลันเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพราะเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่การอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน
แทบไม่น่าเชื่อ การเลือกอยู่พลังประชารัฐ ทำให้ไทยพุทธเลือกทนายอาดิลัน จนเอาชนะทายาท ส.ส.เก่าไปได้
ทนายแวยูแฮ
ยังมีทนายความประจำมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ที่เป็นเพื่อนของทนายอาดิลัน ที่ลงสมัคร ส.ส.คือ “กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ” หรือที่คนในพื้นที่รู้จักกันในนาม “ทนายแวยูแฮ”
ทนายแวยูแฮ พรรประชาชาติ
ทนายแวยูแฮ เลือกสวมเสื้อพรรคประชาชาติ ที่มี วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นหัวหน้าพรรค และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นเลขาธิการพรรค โดยลงสนามเขต 4 นราธิวาส
ทวี สอดส่อง จุดขายของประชาชาติ
ทุกเวทีหาเสียง ทนายแวยูแฮบอกจะแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงควบคู่กันไป โดยปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรม จะผลักดันให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ผลเลือกตั้งพลิกความคาดหมาย ทนายแวยูแฮได้คะแนนเกือบ 4 หมื่น ทิ้งห่างเจ๊ะอีลย๊าส โตะตาหยง ลูกชายของเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส 5 สมัย
สองทนายมุสลิม ต่างพรรค อุมการณ์เดียวกัน
ทั้งทนายแวยูแฮกับทนายอาดิลัน ต่างมีเป้าหมายเหมือนกันคือ เลือกเดินหนทางสภา เพื่อความสันติสุขของปลายด้ามขวาน
**************//**************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง