คอลัมนิสต์

กล่องประหยัดไฟฟ้านวัตกรรมแหกตาเบอร์5

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงาน...

 

 

          การไฟฟ้าเก็บค่าไฟแพงไปหรือเปล่า ชาวบ้านจึงพยายามคิดหาสารพัดวิธีลดตัวเลขในบิลเรียกเก็บเงินลง แต่ตัวเองยังคงรักที่จะมีความสุขอยู่กับการพึ่งพาเครื่องอำนวยความสะดวกที่ทำงานด้วยกระแสไฟฟ้าไม่เคยเปลี่ยน


          ก่อนหน้านี้มี 18 มงกุฎหลอกขายบัตรพลังงานรักษาโรค ลักษณะเป็นบัตรสมาร์ทการ์ดหน้าตาคล้ายบัตร เอทีเอ็ม อ้างว่าถ้านำไปแปะตามปลั๊กไฟในบ้านจะประหยัดค่าไฟลงได้ ใครเจ็บไข้ได้ป่วย ปวดเมื่อยตามไขข้อ หรือโรคอะไรก็รักษาได้ชะงัดนัก


          คนเฒ่าคนแก่ได้ยินสรรพคุณแห่ซื้อไปใช้อย่างแพร่หลาย หวังเป็นทางเลือกใหม่ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้ดีกว่าเดิม


          แต่แล้วประกายความหวังหลังกินน้ำแช่บัตรสารพัดนึกผ่านไปไม่ถึงเดือนก็ดับวูบ ลุง ป้า น้า อา ทั้งหลาย ถูกต้ม!

 

 

 

กล่องประหยัดไฟฟ้านวัตกรรมแหกตาเบอร์5


          การ์ดวิเศษใช้การอะไรไม่ได้ แถมยังพาชีวิตเสี่ยงตายโดยไม่รู้ตัว เมื่อผลตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็บของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ระบุอย่างน่าสะพึงกลัวว่า ในการ์ดลวงโลกใบนั้นพบสารกัมมันตภาพรังสี หากเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เป็น มะเร็ง!


          สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบัตรพลังงานรักษาโรค พบว่าเคยถูกนำมาเข้ามาขายในประเทศไทยโดยนักธุรกิจชาวมาเลเซียหลายปีมาแล้ว คนไทยหลงซื้อไปใช้กันมากมาย เมื่อถูกกวาดล้างก็เงียบหายไปเป็นพักๆ ก่อนโผล่มาหลอกขายชาวบ้านแถบภาคอีสานอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ โดยฝีมือของแก๊งลวงโลกชาวไทย


          ในห้วงเวลาที่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งถูกหลอกขายบัตรพลังงานรักษาโรค ด้วยวิธีการสมัครสมาชิกขายตรง บอกต่อความเชื่อกันเป็นทอดๆ และแม้จะถูกฝ่ายปกครองและตำรวจกวาดล้างจนเงียบหายไปแล้ว 


          อีกด้านหนึ่งในโลกการค้าออนไลน์ ธุรกิจขาย อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน กลับสร้างรายได้ให้แก่ผู้ค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน


          กล่องประหยัดไฟ เป็นสินค้าตัวหนึ่งที่ได้รับความสนใจในหมู่คนที่หวังแต่จะประหยัดค่าไฟ แต่ไม่เคยเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟในชีวิตประจำวันลงเลย

 

 

 

กล่องประหยัดไฟฟ้านวัตกรรมแหกตาเบอร์5

 


          ในตลาดออนไลน์ เจ้ากล่องวิเศษตัวนี้มีผู้นำเข้ามาเสนอขายหลายรุ่น สนนราคาตั้งแต่หลายร้อยบาทจนถึงหลักพัน แต่อ้างคุณสมบัติเหมือนกันคือ เมื่อนำไปเสียบตามปลั๊กไฟในบ้านจะทำให้มิเตอร์ไฟฟ้าหมุนช้าลง นั่นหมายถึงค่าไฟก็จะถูกลงไปด้วย


          กลยุทธ์การตลาดของผู้ค้าอุปกรณ์ประหยัดพลังงานชนิดนี้ จะใช้วิธีบรรยายคุณสมบัติตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าสามารถลดรังสีอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากสายไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญช่วยลดค่าไฟลงได้ 30-50% บางรายให้ถึง 60%


          นอกจากนี้ผู้ค้ายังการันตีว่าการลดรอบมิเตอร์ไฟฟ้าด้วยอุปกรณ์สุดพิเศษตัวนี้ ไม่ผิดกฎหมาย แน่นอน


          นั่นคือคำโฆษณาอวดอ้างของผู้ค้าซึ่งปรากฏอยู่ในเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ทั่วไป แต่ยังมีบางรายเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการนำสัญลักษณ์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มาตัดต่อสร้างเพจโฆษณา ให้เข้าใจผิดว่า สินค้าตัวนี้ได้รับการรับรองจาก กฟผ.แล้ว 


          นอกจากนี้ยังมีบางรายนำภาพพิธีกรรายการข่าวชื่อดังพร้อมโลโก้สถานีโทรทัศน์มาตัดต่อโฆษณาในลักษณะเดียวกัน ร้อนถึงเจ้าตัวต้องใช้ช่วงเวลาข่าวของตัวเองชี้แจงเป็นพัลวันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และย้ำเตือนประชาชนด้วยว่า อย่าได้หลงเชื่อซื้อสินค้าเหล่านี้ไปใช้ เพราะได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากนักวิชาการ รวมทั้งวิศวกรของการไฟฟ้าแล้วว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเพียงตัวเก็บประจุไฟฟ้า ไม่สามารถลดค่ากระแสไฟฟ้าได้จริง

 

 

 

กล่องประหยัดไฟฟ้านวัตกรรมแหกตาเบอร์5

 


          จากการตรวจสอบข้อมูลสินค้าที่เรียกว่ากล่องประหยัดไฟฟ้าดังกล่าวพบว่า เคยวางขายย่านคลองถมและเว็บไซต์ต่างๆ นานหลายปีมาแล้ว แต่ไม่มีการจับกุมดำเนินคดี ทำให้ปัจจุบันมีผู้ค้าเปิดเพจขายสินค้าตัวนี้อย่างคึกคักทั้งรายเก่าและรายใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 ราย และยังมีลูกค้าจำนวนมากซื้อไปใช้ไม่ขาดสาย ทั้งที่มีคำเตือนจากทั้งวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์อยู่เป็นระยะว่าอย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด จะเสียเงินฟรี!


          เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า มีคนถามมาเรื่อยๆว่า กล่องประหยัดไฟฟ้า ที่เห็นโฆษณาในอินเทอร์เน็ต ใช้ได้ผลจริงหรือเปล่า ก็ได้ตอบไปว่าไม่จริง ไม่สามารถลดค่าไฟได้ และเคยโพสต์เตือนในเฟซบุ๊กหลายครั้งแล้ว 


          ล่าสุด เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2562 นักวิทยาศาสตร์ท่านนี้ได้เจอเข้ากับตัวเอง เมื่อเฟซบุ๊กของเขาได้รับเพจโฆษณาขายสินค้าตัวนี้เหมือนกับชาวบ้านคนอื่นๆ  

          “โพสต์เตือนเรื่อง กล่องประหยัดไฟฟ้า หลอกลวง เกือบทุกเดือน วันนี้มันขึ้นโฆษณาที่หน้าฟีดผมเองเลย ฮะๆๆ อย่าหลงเชื่อนะครับ"


          ก่อนหน้านี้ อาจารย์เจษฎา เคยโพสต์เตือนและอธิบายว่า มีลูกค้าคนหนึ่งซื้ออุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้ามาในราคาพันกว่าบาท  พอลองแกะดู ข้างในมีแค่วงจรแปลงไฟ (สลับ-ตรง) กับหลอดไฟ LED สองดวง กับตัวต้านทาน (R) ที่ตั้งให้ลดโวลต์ลงไปเท่านั้นเอง ... ชัดเจนว่าไม่ได้จะช่วยลดค่าไฟอะไร

 

 

 

กล่องประหยัดไฟฟ้านวัตกรรมแหกตาเบอร์5

 


          นอกจากพวกกล่องเล็กๆ แบบนี้แล้ว ยังมีอีกหลายยี่ห้อที่เอามาหลอกขาย มีทั้งแบบที่ผิดกฎหมายชัดเจน เพราะใช้การสลับสายกราวด์ ขโมยไฟใช้ ซึ่งการไฟฟ้าเขาเช็กง่ายมาก และแบบที่อ้างว่าได้ผลจริง มีหลักฐานจากการไปติดที่โรงงานโน่นนี่มายืนยัน แต่จริงๆ แล้ว แค่ใส่ ตัวเก็บประจุ capacitor (C) มา ซึ่งพวก C นี้จะช่วยปรับค่าทางไฟฟ้าที่เรียกว่า ค่า power factor (PF) ให้ดีขึ้น เหมาะกับโรงงานที่ใช้มอเตอร์ใหญ่ๆ เพราะค่า PF มีผลต่อค่าไฟด้วย แต่ไม่เกี่ยวกับไฟบ้าน เพราะค่า PF ไม่ได้ส่งผลต่อการคิดค่าไฟ แต่คิดค่าไฟตามจำนวนวัตต์ที่ใช้เท่านั้น


          “สรุปย้ำชัดๆ อย่าไปเชื่อว่ากล่องประหยัดไฟฟ้าพวกนี้ใช้ได้จริง คิดง่ายๆ ถ้าดีจริง การไฟฟ้าซื้อแจกให้ติดแล้ว ไม่ต้องมารณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดไฟหรอก”


          เว็บไซต์ กฟผ.เคยให้ข้อมูลตรงกับอาจารย์เจษฎาว่า  อุปกรณ์ประหยัดพลังงานที่โพสต์ขายกันเอิกเกริกนี้ มีตัวคาปาซิเตอร์(C)หรือตัวเก็บประจุไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบ หากออกแบบอย่างเหมาะสมจะช่วยปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้าให้อุปกรณ์บางชนิด เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟฟ้าตามบ้าน ทั้งเรื่องการประหยัดพลังงานและการลดค่าไฟฟ้า เพราะไม่ช่วยให้การใช้พลังงานลดลง และการคิดค่าไฟฟ้าครัวเรือนไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพทางไฟฟ้าแต่อย่างใด


          กฟผ.ย้ำว่า ไม่มีอุปกรณ์เสริมที่สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้จริง ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงานได้นั้น มักมาจากการออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด อีกทั้งต้องได้รับการตรวจสอบและการรับรองตามหลักวิชาการจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพเบอร์ 5 ส่วนการดัดแปลงมิเตอร์ให้หมุนช้าลงเพื่อให้ค่าไฟฟ้าลดลง ด้วยวิธีการใดๆ นั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย


          ปัจจุบันตลาดอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ที่เรียกว่ากล่องประหยัดไฟฟ้า ยังมีการโฆษณาค้าขายอย่างแพร่หลายในแหล่งช็อปปิ้งออนไลน์และโซเชียลมีเดีย โดยปราศจากการควบคุมใดๆ


ภาพประกอบ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ