คอลัมนิสต์

อ่านหมากปฏิบัติการภท.24ชม.เป้าหมายทลายความจนก่อนเล่นการเมือง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อ่านหมากปฏิบัติการภท.24ชั่วโมงเป้าหมาย"ทลายความจนก่อนเล่นการเมือง" โดย...  ทีมข่าวการเมือง เครือเนชั่น

 

 

          รัฐบาลลุงตู่ 2 นั้นเรียกว่าไม่มีเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ หลังประชาชนเบื่อหน่ายข่าวความขัดแย้งของนักการเมืองในช่วงจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาร่วม 3 เดือน ผนวกกับปัญหาเดิมๆ ที่รอการแก้ไขตลอด 5 ปีเศษเช่น เศรษฐกิจแย่, เกษตรกรเดือดร้อนจากราคาพืชผลตกต่ำ, คนชั้นกลางตกงาน สวนทางกับนายทุนบางรายที่แจ้งผลประกอบการเชิงบวกมาตลอด

 

 

          เมื่อมองขั้วต้านลุงตู่ที่ยามนี้กำลังปั่นกระแสปัญหาการเมือง เรียกร้องอุดมการณ์ประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ โดยชี้ไปยังการแก้รัฐธรรมนูญ, การล้างมรดกบาป คสช., ปฏิรูปกองทัพ  ซึ่งเป็นแผลที่รอวันราดน้ำเกลือ และขั้วต้านลุงตู่หวังจุดไฟให้ติดนั้น...


          แต่คนการเมืองหลายคนเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้อาจยังไม่แก้ไขกติกาหลักในตอนนี้


          เพราะจากการถอดรหัสจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ที่ขอเริ่มต้นทำงานแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้องเสียก่อน โดยเดินตามผลโพลล์ที่ชาวบ้านต้องการให้รัฐบาลทลายความยากจนเป็นอันดับต้นๆ

 

 

 

อ่านหมากปฏิบัติการภท.24ชม.เป้าหมายทลายความจนก่อนเล่นการเมือง

 


          ส่วนเรื่องการแก้กฎกติกาการเมืองนั้น ทราบกันดีว่าเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานกรธ. ได้ซ้อนเงื่อนไขเอาไว้ให้อดีต คสช. สามารถครองอำนาจในช่วงนี้ และยังมองกติกาฉบับนี้ได้ว่า  เป็นยันต์กันผีสะกดคนแดนไกล รวมทั้ง ธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ  หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พ้นเส้นทาง...


          ดังนั้นการแก้กติกาหลักจึงมิใช่ภารกิจอันดับต้นๆ ของลุงตู่ในยามนี้และยามหน้า


          คนการเมืองหลายค่ายมองว่า ข้อเรียกร้องของพรรคประชาธิปัตย์ในการบรรจุการแก้รัฐธรรมนูญไว้ในนโยบายรัฐบาลนั้น เป็นการอ้างเหตุผลแบบ “ข้าหล่อคนเดียว” เพราะหากลุงตู่เร่งทำตามสิ่งที่ ปชป.ร้องขอ มีหวัง “เรือเหล็ก” ลำนี้จะจมลงอย่างรวดเร็ว 


          ดังนั้น ทางออกของเรื่องนี้คือ บรรจุเอาไว้ในนโยบายรัฐบาล แต่จะแก้ตอนไหนบนเงื่อนไขเวลากำหนดหนึ่งปีนั้น ความจริงอาจชะลอไว้ได้หากปัจจัยอื่นเร่งรัดกว่า...เกมนี้คนในค่ายสีฟ้าก็รู้และคงใช้เป็นข้ออ้างไปขายฝันแฟนคลับว่า “เราดำเนินการแล้วแต่อยู่กับเสียงส่วนใหญ่ว่าจะเอาอย่างไร?” และ ปชป.คงไม่กล้าหาญแตกหักออกจากวงโคจรรัฐบาล แยกไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ เพราะตอนนี้ได้โอกาสกอบกู้พรรค ด้วยการนั่งบริหารกระทรวงหัวใจเก็บแต้มการเมือง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้ง รมช.เกรดเออีกหลายเก้าอี้


          หลังจากนี้คงได้เห็น “รัฐบาลประยุทธ์ 2” ตั้งหน้าตั้งตาทำงานแก้ปัญหา กอบกู้ภาพลักษณ์  และความเชื่อมั่นจากประชาชน เพื่อต่อยอดอนาคตทางการเมืองตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของลุงตู่ ผ่านการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคม เป็นต้นไป

 

 

 

 

อ่านหมากปฏิบัติการภท.24ชม.เป้าหมายทลายความจนก่อนเล่นการเมือง

 



          เพราะล่าสุดมีนโยบาย 12 เรื่องเร่งด่วน อาทิ แก้ปัญหาความยากจน เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การพัฒนาเศรษฐกิจ รอแถลง


          หนึ่งไฮไลท์สำคัญของนโยบายรัฐบาลนี้คือ “กัญชาเสรีเพื่อทางการแพทย์” ที่ประชาชนหลายคนอยากเห็นเป็นรูปธรรมเพราะมีความคาดหวังสูงจากค่ายสีน้ำเงิน


          อย่าลืมว่าการเมืองวันวานและวันนี้วุ่นหลายยก จนสังคมเบื่อ แต่สตาฟฟ์ค่ายสีน้ำเงินและอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข อ่านเกมว่า ยามนี้ชาวบ้านหน่ายข่าวขัดแย้ง เมื่อ ภท.อ่านอาการนี้ออก...จึงพลิกจังหวะแจ้งสังคมให้รู้ว่า ยามนี้ ภท.คือพรรคที่ทำงาน 24 ชั่วโมง มิใช่พรรคที่เอาแต่เล่นการเมือง


          แหล่งข่าวจากค่ายสีน้ำเงินแจ้งว่า "เสี่ยหนูในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเร่งที่จะฉายภาพว่าสิ่งที่พรรคหาแต้มไว้กับสังคม วันนี้จะแสดงบทบาท “พรรคปฏิบัติการ” ให้บังเกิดผลเพราะภท.คือเจ้าของเรื่องกัญชาเสรีและหลากไอเดียที่ขายให้สังคมเชื่อใจ”


          แหล่งข่าวจากค่ายสีน้ำเงินขยายความว่า “นโยบายกัญชาเสรีเพื่อทางการแพทย์” เกิดขึ้นภายหลังที่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผลักดันช่วงหาเสียง และได้รับความไว้วางใจมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและเสี่ยหนูขอทำงานเรื่องนี้โดยตรงผ่านตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.สาธารณสุข


          ทราบมาว่าค่ายสีน้ำเงินเดินหน้าลุยเต็มสูบ เพราะ"โพลล์ลับ” ของ ภท.ที่ไปเจาะความเห็นสังคมมานั้นพบว่า "สังคมคาดหวังให้เสี่ยหนูผลักดันเรื่องนี้โดยเร็ว” เพราะเชื่อว่าจะช่วยเหลือประชาชนจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อีกทั้งยังเป็นความหวังที่จะเห็นกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่โดยมีตัวอย่างจากหลายประเทศที่ร่ำรวยจากการปลูกกัญชา อาทิ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา, ประเทศอิสราเอล ฯลฯ


          นอกจากเรื่องกัญชาแล้ว โพลล์ลับที่สตาฟฟ์ของ ภท.วิเคราะห์มา และเชื่อว่ายามนี้สังคมมองว่า “ภท.คือพรรคปฏิบัติการที่พูดจริง ทำจริง” โดยคีย์แมนพรรคจะจี้นโยบายอื่นๆ ตามที่หาเสียงไว้ให้มีผลออกมาเร็ววันอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เลขาธิการพรรค เจ้ากระทรวงหูกวาง เคยประกาศไว้ช่วงเลือกตั้งว่า "หากพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสเข้าไปเป็นรัฐบาล หากผลักดันนโยบายต่างๆ ไม่สำเร็จ จะขอลาออกทันที เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์”  

 

 

อ่านหมากปฏิบัติการภท.24ชม.เป้าหมายทลายความจนก่อนเล่นการเมือง

 

 


          จุดนี้ทำให้ “อนุทิน” กำชับรัฐมนตรี และ ส.ส.ของพรรค 51 คน ให้ทำงานทันที ทำงาน 7 วันและตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีนโยบายที่ต้องเร่งเดินเครื่อง อาทิ ยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุขและสุขภาพประชาชน, แก้ปัญหาลูกหนี้ กยศ., ขับรถแกร็บถูกกฎหมาย,  ยกระดับถนนหนทางให้มีมาตรฐานเชื่อมโยงแต่ละพื้นที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เช่น สร้างถนนเชื่อมโยงมาเลเซีย (ถนนสตูล-เปอร์ลิส)ให้สำเร็จ, การพัฒนาจังหวัดอื่นๆ ด้วยการหาจุดเด่น สร้างกิจกรรม สร้างงาน และรายได้ ตามรูปแบบบุรีรัมย์โมเดล   ร่วมกับนโยบายกัญชา


          ส่วนการทำงานฝ่ายนิติบัญญัตินั้น แกนนำค่ายสีน้ำเงินสั่งการให้ ส.ส.ทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนเพื่อแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้านให้ครบถ้วน และอย่าทำให้ ภท.โดนกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุสภาล่ม !   


          เมื่อจังหวะของ ภท.วางไว้แบบนี้...มุมมองของนักวิชาการที่ให้ความเห็นกับจังหวะก้าวของ ภท.นั้นเป็นอย่างไร? “สุขุม นวลสกุล" นักวิชาการรัฐศาสตร์ ถอดรหัสอัตลักษณ์พรรคนี้ว่า “เป็นพรรคที่ฉายภาพของคนทำงาน ที่ทำได้เร็วทำได้จริง และไม่ยุ่งการเมือง พรรคภูมิใจไทยสามารถทำงานที่ตั้งใจไว้ทันทีเพราะมีความได้เปรียบและคล่องตัวกว่าพรรคการเมืองใหญ่ที่ต้องบริหารอารมณ์สังคม ทั้งโจทย์เศรษฐกิจปากท้องและเรื่องการเมืองไปควบคู่กัน”


          “พรรคการเมืองมีทั้งพรรคอุดมการณ์ และพรรคปฏิบัติการ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย เป็นแบบหลัง ประชาชนก็รู้ พวกเขาไม่ได้มาต่อสู้ทางการเมืองแบบเข้มข้น ความอยู่รอดของพรรคนี้ ขึ้นกับความสำเร็จของนโยบาย ผมเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยอาจเป็น “ความหวังของรัฐบาลบิ๊กตู่” ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้อง ชนิดไม่มีเวลาฮันนีมูน” อ.สุขุม ระบุ  


          “ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง" อาจารย์วิทยาลัยรัฐกิจมหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์และจับตาพรรคภูมิใจไทยว่า “เป็นพรรคเดียวที่ยังพูดเรื่องนโยบาย พูดจนคนจำ ทั้งกัญชาเสรี, ขับรถแกร็บถูกกฎหมาย ที่คนจำเพราะเขารู้สึกว่ามันไม่เพ้อฝัน จับต้องได้ พรรคมีนักคิด แต่ก็ต้องเป็นพรรคปฏิบัตินิยมด้วย พรรคต้องรักษาจุดเด่นตรงนี้ไว้ได้ และเชื่อว่าหากทำสำเร็จ จะเติบโตเป็นทางสายหลักในการเลือกตั้งครั้งหน้า”


          ตรงนี้น่าจะสรุปได้ว่า คือความชัดเจนของ “พรรคปฏิบัติการภูมิใจไทย” ที่กำลังฉายภาพว่าเป็นตัวเลือกใหม่ ในสนามการเมืองไทย พร้อมความคาดหวังของคนไทย ตามที่อนุทินต้องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่ประกาศเอาไว้ให้สำเร็จ สอดรับกับผลโพลล์ต่างๆ ที่ชาวบ้านอยากเห็น “การแก้ปากท้อง ก่อนปัญหาการเมือง” 


          รอชมว่า"ภท.”จะทำได้ดั่งฝันหรือไม่เมื่อร่วมเรือเหล็กลำนี้แล้ว...

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ