คอลัมนิสต์

วิธีง่าย ๆ ได้เงิน "รางวัลแจ้งจับ" คนขายสลากเกินราคา!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ทีมข่าวรายงานพิเศษ

 

 

          ช่วงนี้แวดวงคนนิยมซื้อ “ลอตเตอรี่” กำลังตั้งวงถกเถียงกันเกี่ยวกับข่าวประกาศให้เงินรางวัล 1,000 บาทแก่พลเมืองดีที่แจ้งการขายสลากเกินราคา 80 บาท หลายคนสงสัยว่าขั้นตอนการแจ้งหรือการเก็บหลักฐานต้องทำอย่างไรบ้าง !?!

 

 

          ย้อนไปเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบของ “กองสลาก” หรือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่าด้วยการจ่ายเงินรางวัลในการจับกุมผู้ขายสลากเกินราคา พ.ศ. 2560 โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ 3 ข้อ คือ


          1.ให้ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่จับกุมได้รับคดีละเท่ากับจำนวนเงินที่เปรียบเทียบปรับ แต่ไม่เกินคดีละ 2,000 บาท 2.ถ้าประชาชนพลเมืองดีเป็นผู้แจ้งเบาะแสให้เกิดการนำจับคนขายสลากฯ เกินราคาก็สามารถรับเงินค่าแจ้งได้คดีละ 1,000 บาท และ 3.ทั้งตำรวจและพลเมืองดีจะได้เงินรางวัลนี้ได้ก็ต่อเมื่อ"คดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว"

 

 

 

วิธีง่าย ๆ ได้เงิน "รางวัลแจ้งจับ" คนขายสลากเกินราคา!

 

 


          “พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อธิบายเพิ่มเติมว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีการจ่ายเงินรางวัลในการจับกุมผู้ขายสลากเกินราคาให้คนแจ้งมาหลายปีแล้ว แต่ที่ต้องประกาศระเบียบใหม่เพราะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการเพิ่มโทษปรับการขายสลากเกินจากพ่อค้าแม่ค้า จากเดิมปรับได้แค่ไม่เกิน 2,000 บาท แต่ตอนนี้เพิ่มโทษเป็น 1 หมื่นบาท แต่เจ้าหน้าที่หรือตำรวจยังได้สูงสุดแค่ 2,000 บาทเท่าเดิม


          เจ้าหน้าที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลรายหนึ่ง อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมให้ฟังว่า เงินรางวัลสำหรับผู้แจ้งเบาะแสผู้ค้าสลากกินแบ่งเกินราคามีการกำหนดไว้นานแล้ว โดยเป็นเงินงบประมาณจากสำนักงานสลากฯ ที่จัดสรรให้โดยตรง เมื่อมีการแจ้งความ แล้วตำรวจดำเนินคดีจนถึงที่สุด ก็สามารถรวบรวมเอกสารหลักฐานมาขอเบิกเงินรางวัลนำจับที่สำนักงานสลากฯ จากนั้นค่อยไปแบ่งให้ผู้แจ้งเบาะแสตามขั้นตอน

 

 

 

วิธีง่าย ๆ ได้เงิน "รางวัลแจ้งจับ" คนขายสลากเกินราคา!



          “ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า กองสลากไม่ได้ให้เงินรางวัลนำจับโดยตรงแก่ชาวบ้านที่แจ้งหลักฐานเข้ามา แต่ชาวบ้านคนนั้นต้องเริ่มจากนำหลักฐานไปแจ้งความต่อตำรวจก่อน แล้วรอตำรวจไปจับคนทำผิดมาดำเนินคดีหรือคิดค่าปรับกับผู้ค้าสลากเกินราคา เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ค่อยมาเบิกเงินรางวัลเอาไปแบ่งกัน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญา เงินที่ปรับจากคนขายสลากฯ เกินราคาทั้งหมดต้องยกให้หลวง ส่วนเงินรางวัลเป็นงบประมาณกองสลากที่ต้องจัดสรรเตรียมไว้ต่างหากในแต่ละปี” เจ้าหน้าที่ข้างต้นกล่าว


          ยกตัวอย่างขั้นตอนให้เข้าใจง่ายๆ ว่า หากใครพบเห็นคนขายหรือแผงขายลอตเตอรี่ขายเกินราคา ให้รีบ “เก็บหลักฐาน” เอาไว้ แล้วไปสถานีตำรวจ หรือถ้าพบป้อมตำรวจแถวนั้นก็แจ้งความไว้ หากไม่มีก็แจ้งไปที่ ศูนย์รับแจ้งเบาะแสการขายสลากเกินราคา เบอร์โทรศัพท์ 0-2345-1466 หรือสายด่วน 1466


          จากนั้นตำรวจจะพิจารณาจากข้อมูลหลักฐาน ถ้าพบมีมูลก็ไปสืบจับกุมคนขายสลากเกินราคามาที่โรงพัก เพื่อสั่งปรับตามกฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 1 หมื่นบาท เช่น ถ้าสั่งปรับ 2,000 บาท พอคดีสิ้นสุด สถานีตำรวจรวบรวมเอกสารไปเอาเงินรางวัลนำจับจากกองสลากมาจำนวน 3,000 บาท แบ่งให้ตำรวจ 2,000 บาท และให้ผู้แจ้งเบาะแส 1,000 บาท หรือถ้าสั่งปรับแค่ 500 บาท ตำรวจก็จะได้ 500 บาท หรือสั่งปรับ 5,000 บาท ตำรวจก็ได้แค่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ไม่ว่าตำรวจจะสั่งปรับเท่าไรก็ตาม ผู้แจ้งเบาะแสยังได้เท่าเดิมคือคดีละ 1,000 บาท

 

 

วิธีง่าย ๆ ได้เงิน "รางวัลแจ้งจับ" คนขายสลากเกินราคา!

 


          สำหรับวิธีการ “เก็บหลักฐาน” นั้น ทำได้หลายวิธีเช่น 1.ถ่ายรูปคนขาย 2.จดบันทึกสถานที่เกิดเหตุและวันเวลาให้แน่ชัด 3.ตรวจดูว่าคนขายมี "บัตรประจำตัวผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล" หรือไม่ ถ้ามีการโชว์ไว้ที่แผงให้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย 4.หากไม่มีกล้องหรือโทรศัพท์ที่บันทึกภาพได้ ควรใช้วิธีจดจำรูปพรรณสัณฐานหรือลักษณะเด่นๆ ที่จำได้ง่ายของผู้ขายรายนั้นไว้ เช่น รูปร่างอ้วน ผอม ความสูง สีผิว รอยแผลเป็น เสื้อผ้า หมวก กระเป๋าถือ หรือสติกเกอร์โฆษณาต่างๆ ที่ติดไว้บนแผงขายลอตเตอรี่


          จากนั้นรีบไปแจ้งความโรงพักใกล้ที่สุด อย่าลืมขอชื่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเจ้าพนักงานหรือตำรวจที่รับแจ้งความไว้ด้วย เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามความคืบหน้าของคดี 


          เมื่อตัดสินคดีถึงที่สิ้นสุด เป็นหน้าที่ของตำรวจต้องไปเบิกเงินกองสลากแล้วรีบติดต่อไปยังผู้แจ้งเบาะแสให้มารับเงินรางวัล


          ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 สำนักงานสลากฯ จัดทำบัตรประจำตัวผู้จำหน่ายสลากฯ พร้อมติดรหัสคิวอาร์โค้ดจัดส่งให้แก่ผู้ซื้อจองสลากรายย่อยทั่วประเทศกว่า 1 แสนราย เพื่อนำบัตรไปแสดงตัวตนว่าเป็นผู้ค้าสลากที่แท้จริงแก่ผู้ซื้อ ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการซื้อขายได้ง่าย เนื่องจากภายในบัตรมีข้อมูล ชื่อ นามสกุล รหัสคิวอาร์โค้ดของผู้ค้า โดยมีการต่ออายุออกบัตรใหม่ให้ทุกปี

 

 

วิธีง่าย ๆ ได้เงิน "รางวัลแจ้งจับ" คนขายสลากเกินราคา!

 


          ทั้งนี้ จำนวนสถิติผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายสลากเกินราคาในแต่ละปีเริ่มมีมากขึ้น เช่น ข้อมูลวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 มีการยกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่าย 152 ราย และยกเลิกการลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิในการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 154 ราย, วันที่ 30 ธันวาคม 2559 ยกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่าย รวมทั้งหมด 1,855 ราย ข้อมูลเดือนมีนาคม 2560


          สรุปผลยกเลิกสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่าย จำนวน 4,283 ราย และยกเลิกการลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิ์ในการซื้อจอง จำนวน 2,591 ราย


          ส่วนใหญ่ผลงานข้างต้นเกิดจากความร่วมมือของตำรวจกับกองสลากที่ใช้ชื่อว่าชุดเฉพาะกิจตรวจสอบและจับกุมผู้ค้าสลากที่ขายเกินราคา มากกว่าเป็นการแจ้งความของพลเมืองดีทั่วไป


          หากอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่านี้ เสนอให้เพิ่มเงินรางวัลเพราะถ้าเปรียบเทียบความเสี่ยงและต้นทุนค่าใช้จ่ายแล้วเงินรางวัลนำจับแค่ 1,000 บาทถือว่าน้อยมาก เป็นที่รู้กันว่ารายได้หักค่าใช้จ่ายในแต่ละปีของกองสลากเหลือกำไรไม่ต่ำกว่าปีละ 6–8 พันล้านบาท


          เหตุผลที่ควรเพิ่มเงินรางวัลขึ้นอีกหลายเท่า เพราะการเก็บหลักฐานต่างๆ เพื่อมาแจ้งความดำเนินคดี ต้องใช้ทักษะและความสามารถส่วนตัวไม่ใช่น้อย รวมถึงการเสียเวลา เสียค่ารถเดินทางไปแจ้งความด้วย คิดง่ายๆ ว่า เงิน 1,000 บาทแค่ค่ารถแท็กซี่ไปกลับโรงพัก 2 รอบก็หมดพอดี


          โฆษกสำนักงานสลากฯ ชอบป่าวประกาศให้พลเมืองดีช่วยกันแจ้งเบาะแส เพื่อจัดระเบียบไม่ให้ผู้ค้าเอาเปรียบประชาชน


          แต่ดูจากเงินรางวัลนำจับแล้ว สำนักงานสลากฯ ก็เอาเปรียบพลเมืองดีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน !?!

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ