คอลัมนิสต์

ชัวร์!พรรคสีฟ้าเเละพรรคสีน้ำเงินเเตะขั้วพปชร.สานฝัน"ลุงตู่"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ทีมข่าวการเมือง เครือเนชั่น

 

 

          วันศุกร์ที่ 5 เมษายน ค่อนข้างชัดเจนเเล้วว่า "ยี่สิบห้าพรรคการเมืองจะมีส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ได้ในชั้นต้น โดยสองพรรคที่ไม่มีส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ คือ พรรคเพื่อไทยเเละประชาชาติ คือคำตอบของกกต.ที่เเจ้งต่อสังคมหลังจากชุลมุนว่าพรรคที่มีส.ส.เขตเท่านั้นหรือไม่จะได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มาหลายวัน

 

 

          เมื่อมาถึงตรงนี้ความชัดเจนบังเกิดขึ้นมาระดับหนึ่งพร้อมๆกับการสั่งนับคะเเนนใหม่เเละเลือกตั้งใหม่ในบางหน่วยเลือกตั้งที่มีความคาราราซังเเละเเว่วมาว่าสัปดาห์นี้จะมีเเจกใบสารพัดสีออกมาอีกระลอกใหญ่ เพื่อให้การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ต้องยุติในเดือนเมษายน ก่อนที่จะรับรองผลอย่างเป็นทางการวันที่ 9 พฤษภาคม


          ความจริงที่จะบังเกิดในการเลือกตั้งซ่อมคือขั้วพรรคเพื่อไทยต้องพยายามหลายเท่าตัวในการรักษาพื้นที่ รวมทั้งเจาะพื้นที่ใหม่ให้ได้เพื่อนำมาหักกลบลบหนี้กับขั้วหนุนลุงตู่ เเต่สิ่งที่น่าจะยากเเละเหนื่อยคือ การเกลี่ยเเต้มกันในเเต่ละเขตเลือกตั้งไม่ให้เหลื่อมล้ำกับพรรคเเนวร่วม เพราะหนึ่งคะเเนนในหนึ่งเขตเลือกตั้งจะมีผลในการคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้เเต่ละพรรคโดยอัตโนมัติ ตรงนี้คือสิ่งที่เหนื่อยเเสนเหนื่อย....


          ส่วนพรรคพลังประชารัฐนั้น เเน่นอนว่าจะต้องกวาดคะเเนนมาเพิ่มให้ระบบเขตเเละปาร์ตี้ลิสต์ให้ขยับไปหายใจรดต้นคอพรรคเพื่อไทยให้มากที่สุด เพราะตอนนี้ “ยี่สิบเอ็ดเสียง” ที่พรรคอันดับหนึ่งมีเหนือพรรคอันดับสองนั้น “พลังประชารัฐ” ต้องคว้าตัวเลขเข้ามาลดช่องว่างให้ได้เยอะที่สุดเพื่อเป็นข้อต่อสู้บนเวทีการจัดตั้งรัฐบาลให้มีความชอบธรรมเท่าที่จะพยายามได้

 

          อย่าลืมว่าการเลือกตั้งซ่อมนั้น สถิติที่ผ่านๆ มาจำนวนผู้มาใช้สิทธิจะลดลงกว่าการเลือกตั้งทั่วไป เเละหากมาจัดขึ้นช่วงหลังสงกรานต์ ผู้มาใช้สิทธิน่าจะน้อยลงกว่าที่ประมาณการไว้เป็นเเน่เเท้ ตรงนี้คือการบ้านที่สองขั้วการเมืองจะต้องทำเพื่อกวาดคะเเนนจากการหย่อนบัตรซ่อมครั้งที่จะถึงนี้ให้เข้าเป้าที่สุด


 


          ....อีกปรากฏการณ์ที่บางฝ่ายลุ้นมานาน คำตอบเเพลมมาเเล้วว่า “สองพรรค" จะเเตะมือกับขั้วใดระหว่างขั้วหนุนลุงตู่เเละขั้วต้านลุงตู่....


          “สองพรรค” อมพะนำมาครู่ใหญ่ เเม้ล่าสุดจะเป็นคำตอบที่พูดไม่เต็มปากนัก เเต่เมื่อพินิจดีๆ เเล้ว มันคือคำว่า “ใช่” สำหรับพรรคพลังประชารัฐ


          "หากคนที่อยู่ในหล่มไม่กี่คนนั้นบอกว่าจะไม่ทำให้บ้านเมืองขัดเเย้ง เเละเคารพสถาบัน หากตะโกนออกมา ผมเเละพรรคจะช่วยคนที่ติดหล่มได้” คือคำพูดของอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงจุดยืนของพรรคหลังอมพะนำมาหลายเพลา


          “ถาวร เสนเนียม” ว่าที่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “....วันนี้เราหารืออย่างไม่เป็นทางการมีผู้เข้าร่วมกว่า 30 คน ความเห็นจากการรับฟังประเด็นสำคัญ คือจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์อยากร่วมรัฐบาล ที่สำคัญเกือบครึ่งของที่ประชุมต้องการให้ประกาศท่าทีในนามพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนวันที่ 9 พฤษภาคมนี้...” เเละ “นักการเมืองของประชาธิปัตย์จะคำนึงถึงความอยู่รอดของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประโยชน์ประชาชน การเข้าร่วมรัฐบาลไม่ใช่เป็นการผิดอุดมการณ์ ไม่ใช่สนับสนุนผู้สืบทอดอำนาจ หรือไม่ได้สนับสนุนเผด็จการแน่นอน....”


          เเม้จะมีเสียงค้านถาวรว่า "ตะเเบงไม่เลิก” เเละ "เป็นฝ่ายค้านก็ทำงานเพื่อประเทศได้" จาก "ชวน หลีกภัย" ก็ตาม...เเต่อย่างน้อยเชื่อได้ว่าเเม้ในอนาคตอันใกล้พรรคสีฟ้าจะมีมติว่าขอเป็นฝ่ายค้าน เเต่งูเห่าสีฟ้าบางตัวจะเลื้อยไปจากถนนเศรษฐศิริมุ่งหน้าซอยรัชดาภิเษก 54 เป็นเเน่เเท้


          นัยนี้ไม่ต้องเเปลอะไรให้มากมายเพราะมันคือคำตอบที่สื่อถึง "นายใหญ่ ณ เเดนไกล” ให้ “เลิกคิด เลิกฝัน เลิกสู้” บนกระดานการเมืองยามนี้


          “พรรคสีฟ้าเเละพรรคสีน้ำเงิน” คือพรรคอันดับที่สี่เเละอันดับที่ห้าบนกระดานการเมืองไทย “ว่าที่ส.ส.ราวหนึ่งร้อยชีวิตเศษ” ในเบื้องต้นของสองพรรคคือตัวเเปรที่เบียดขึ้นไปอยู่ลำดับที่สามกลายๆ เเละมีผลเเปรผันขนาดใหญ่ว่าขนาดของพรรคทั้งสองซึ่งประชาชนไว้วางใจในการหย่อนบัตรครั้งนี้


          สิ่งที่อนุทินเเละถาวรระบุไว้นั้นมันชัดเเจ้งเเล้วว่าโอกาสเกินกว่าครึ่งเเตะขั้วพลังประชารัฐ เเละสิ่งที่เหลือคือรายละเอียดระหว่างทางที่ต้องเจรจาความกันให้ลงตัวกันทุกฝ่ายในการร่วมรัฐนาวาลำเดียวกันในอนาคตอันใกล้


          ความจริงเเล้ว "ทักษิณ ชินวัตร” น่าจะมองเกมออกว่าประชาธิปัตย์เเละภูมิใจไทยจะตอบอย่างไร....เเต่ด้วยทิฐิเเละความเชื่อมั่นส่วนตัวที่ไม่มองบริบทโดยรวมของการเมืองเเละสังคมไทยจึงยังติดอยู่ในหล่มที่เจ้าตัวขุดไว้เอง


          เเละยังต้องลุ้นกันรายวันกับชะตากรรมของคีย์เเมนพรรคอนาคตใหม่ว่าจะโป๊ะเเตกเมื่อใด หาก "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เเละปิยบุตร เเสงกนกกุล" จำต้องอดฉายบทบนเวทีการเมืองจากหลากกรรมที่เจ้าตัวก่อไว้ในอดีต ภาวะ "งูเห่าสีส้ม” น่าจะบังเกิดตามสิ่งที่ใครบางคนปราถนา


          หากภาวการณ์ออกมาเเนวนี้....มันเหมือนกับการ "ดับฝันขั้วต้านลุงตู่เเละทักษิณ” เเม้ว่าในเร็ววันนี้จะมีการเลือกตั้งซ่อมหลายต่อหลายเขตที่จะเอามาลุ้น


          เเม้นว่า...ในวันนั้นพรรคเพื่อไทยเเละเเนวร่วม เช่น อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ประชาชาติ เศรษฐกิจใหม่ เพื่อชาติ พลังปวงชนไทยอาจจะชนะเลือกตั้งซ่อมได้หลายพื้นที่ (เเม้บางเขตจะต้องเสียพื้นที่ไปให้ขั้วตรงข้าม) จนตัวเลขเบียดขึ้นมาเพิ่ม เเต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ประชาธิปัตย์เเละภูมิใจไทยมีในมือเเละพร้อมไปเเตะมือขั้วหนุนลุงตู่นั้น ขั้วเพื่อไทยพยายามไปก็เหมือนเหนื่อยเปล่า...


          ลุงตู่คงได้ยิ้มเเบบเบาใจได้เสียที....กับการเตรียมคัมเเบ็กสู่ตึกไทยคู่ฟ้า

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ