คอลัมนิสต์

แผนปฏิบัติการ"ชาติไทยพัฒนา"กรุยทาง สู้!!ศึกเลือกตั้ง62

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ขนิษฐา เทพจร สำนักข่าวเนชั่น

 

 

          ยังไม่เรียกว่าเป็น “นโยบาย” แต่คือ "แผนปฏิบัติการเร่งด่วน" ที่ “พรรคชาติไทยพัฒนา” จะใช้เป็นแนวทางพิชิตใจประชาชนในศึกเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ใกล้จะถึง

 

 

          โดย “วราวุธ ศิลปอาชา” ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา" บอกไว้ตอนหนึ่งในรายละเอียดว่า ถอดรหัสจากการรับฟังความเห็นของประชาชนในถิ่นพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ก่อนสังเคราะห์เป็นแผนปฏิบัติการที่เชื่อว่า “จะถูกใจ”

 

 

 

แผนปฏิบัติการ"ชาติไทยพัฒนา"กรุยทาง สู้!!ศึกเลือกตั้ง62

 

 

 

          แผนปฏิบัติการเพื่อเกษตรกร “จัดด่วนสวัสดิการเพื่อเกษตร” ประกอบด้วย 6 เรื่องคือ
          1.สร้างทายาทเกษตรกร ผ่านจัดให้ “ลูกชาวไร่ชาวนา” เรียนฟรีปริญญาตรีการเกษตร


          2.ลดต้นทุนการเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และสร้างกำไรให้เกษตรกร ไร่ละ 5,000 บาท ทั้งนี้ไม่ใช่การสร้างหลักประกันด้านกำไร แต่คือการพิจารณาส่วนลดต้นทุนที่จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการคำนวณรายได้จากผลผลิต


          “เดิมเกษตรกรจะมีต้นทุนในการผลิตที่สูง เช่น ค่าปุ๋ย ค่าต้นกล้า ค่าใช้จ่ายด้านการเก็บเกี่ยว ส่วนนี้จะใช้แนวทางให้เกษตรกรรวมตัวเพื่อสร้างการต่อรองในการซื้อต้นทุน ยกตัวอย่างจากชาวนาที่ปัจจุบันจะขายข้าวได้ เกวียนละ 7,000–8,000 บาทสำหรับข้าวนาปรัง และเกวียนละ 10,000 บาทสำหรับข้าวนาปี พบต้นทุนที่ต้องจ่ายประมาณ 4,000–5,000 บาท หากสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้จะทำให้เกษตรกรมีกำไรได้ โดยส่วนนี้จะเกิดขึ้นได้จริงต้องอาศัยปราชญ์ชาวบ้านแนะนำด้วย” วราวุธ ขยายความ

 

 

แผนปฏิบัติการ"ชาติไทยพัฒนา"กรุยทาง สู้!!ศึกเลือกตั้ง62



          3.ปลดหนี้เกษตรกรที่ร่วมโครงการส่งเสริมของรัฐในอดีต และพบปัญหา “โครงการของรัฐ” สร้างภาระติดลบให้เกษตรกรจนกลายเป็นหนี้สินพอกพูน
          4.จัดพื้นที่ทำกินลักษณะแปลงรวม สำหรับผู้ไม่มีที่ดินทำกิน
          5.เยียวยาปัญหาความเดือดร้อนผู้ประกอบการประมงผ่านมาตรการทางกฎหมาย และ
          6.ให้องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เป็นเกษตรกรยุค 4.0 ผ่านกลไกทางเทคโนโลยีช่วยส่งเสริมการขาย โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง


          แผนปฏิบัติการด้านการศึกษา ผ่าน “ปฏิวัติการสอน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ” ซึ่งเริ่มจาก
          1.สร้างศักยภาพของศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจให้เด็กช่วงวัย 0-6 ขวบ


          2.เรียนฟรี ต้องเป็นจริง ผ่านการกระจายเงินด้านการศึกษาให้ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” นำไปบริหารจัดการเพื่อการศึกษาและบุคลากรด้านการศึกษา


          3.ในสถาบันศึกษาต้องจัดการเรียนการสอน 2 ภาษา อย่างน้อย ภาษาอังกฤษและภาษาจีน
          4.สร้างความมั่นคงด้านนโยบายการศึกษาที่ไม่เปลี่ยนไปตาม “ภาวะทางการเมือง”


          “ผมขอเสนอให้แยกระบบการศึกษาออกจากระบบการเมือง อย่างน้อยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาต้องไม่เปลี่ยนไปตามการผ่องถ่ายอำนาจทางการเมือง แต่รูปแบบนั้นต้องใช้วงหารือกับพรรคการเมืองอื่นๆ กำหนดสเปกบุคคลที่จะทำหน้าที่รัฐมนตรี” ประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนาระบุ


          แผนปฏิบัติการด้านสังคม ผ่าน “การดูแลผู้ด้อยโอกาส ไม่ทอดทิ้งผู้สูงอายุ” โดยไฮไลท์สำคัญคือสร้างงานให้ผู้สูงวัยที่เกษียณอายุงาน ผ่านมาตรการจูงใจทางภาษี ขณะที่วัยเกษียณจะขยายอายุเป็น 65 ปี เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพสมอง นอกจากนั้นแล้วในกลุ่มผู้ด้อยโอกาสต้องเข้าถึงสิทธิประโยชน์และได้รับความสะดวกตามหลักอารยสถาปัตย์


          ขณะที่กลุ่มเพศทางเลือก หรือกลุ่มแอลจีบีทีพลัส จะเสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1455 ว่าด้วยการสมรส ที่กำหนดให้ต้องเป็น “ชาย” และ “หญิง” ให้เป็นใช้คำว่า “บุคคล 2 คน” เพื่อเปิดโอกาสให้เพศทางเลือกมีสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 25 และมาตรา 27 กำหนดไว้ และกรณีดังกล่าวจะเพิ่มสิทธิอันชอบธรรมต่อกลุ่มเพศทางเลือกที่สามารถดูแลกันและสามารถทำนิติกรรมที่กฎหมายรับรองได้


          แผนปฏิบัติการด้านสาธารณสุข ผ่าน “การดูแลทุกช่วงวัย เจ็บป่วยรอไม่นาน มีบริการดี” พร้อมสร้างระบบป้องกันโรคภัย ผ่านการออกกำลังกายในพื้นที่โรงพยาบาลสาธารณสุขตำบลทั่วประเทศและเพื่อลดปัญหารอคิวในโรงพยาบาลนาน จะต้องสร้างศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมือง 4 มุมเมืองทุกจังหวัดทั่วประเทศ และที่สำคัญเพื่อดูแล “จิตอาสาสาธารณสุข” หรือ “อสม.” ต้องได้รับสวัสดิการและการดูแล


          “ในเบื้องต้นจากที่ฟังเสียง อสม. พื้นที่ภาคกลาง สิ่งที่เขาต้องการคือ การดูแล การรักษาพยาบาล ซึ่งหมายถึงสวัสดิการเพื่อ อสม. แต่ในรูปแบบนั้นยังต้องรับฟังความเห็นจากอสม.ทั่วประเทศ ดังนั้นในเรื่องนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะต้องมีกลไก หรือบัตรสวัสดิการพิเศษเพื่อ อสม. หรือไม่ ขณะเดียวกันในการอำนวยให้การปฏิบัติการจิตอาสาสุขภาพต้องได้รับเครื่องมือ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเพื่อนำไปดูแลประชาชนในชุมชน” วราวุธ ระบุ


          แผนปฏิบัติการด้าน “ท้องถิ่น” ผ่าน “เพิ่มงบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สานต่อท้องถิ่นเข้มแข็ง” ไฮไลท์ของแผนปฏิบัติการนี้ คือการจัดสรรงบประมาณให้ “อปท.” ทุกแห่งทั่วประเทศ แห่งละ 10 ล้านบาททุกๆ ปีเพื่อใช้ในการลงทุนพัฒนาพื้นที่และชุมชน ซึ่งงบประมาณที่นำมาจัดสรรคืองบก้อนจาก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย


          “ปัจจุบันตามกรอบงบประมาณปกติจะมีข้อจำกัด เช่น ใช้งบเพื่อจัดงานวันเด็ก ต้องใช้สำหรับเด็ก ไม่สามารถใช้กับผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นสิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นแนวคิดนั้น คือการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นที่แท้จริง ผ่านงบประมาณที่ท้องถิ่นสามารถคิดและนำไปบริหารได้ ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าท้องถิ่นจะทุจริตเหมือนที่เคยเป็นมานั้น เชื่อว่าตามกติกา รวมถึงระเบียบจำนวนมาก และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ตรวจสอบเข้มข้น จึงเชื่อว่าจะเป็นแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดทุจริตได้”


          นอกจากนั้นในแผนปฏิบัติการด้านนี้ยังมีแนวทางต่อการเพิ่มอำนาจให้ประชาชนและสร้างชุมชนจัดการตนเองเพื่อให้การกระจายอำนาจนั้นเป็นวาระหลักที่สร้างความสมดุลให้การบริหารราชการแผ่นดิน


          และแผนปฏิบัติการด้านท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเป็นส่วนกระตุ้นและส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ ผ่านโครงการ 1.สร้างความเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เกิดความต่อเนื่อง ยั่งยืน และสมดุล ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพของชุมชน วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการยึดเอกลักษณ์ของชุมชนให้เป็นจุดเด่น และ 2.สร้างระบบการคมนาคมให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่สะดวก คุ้มครอง และดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ


          “โดยปัจจัยสำคัญ คือ การเพิ่มกล้องซีซีทีวี และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้อำนวยความสะดวกทุกรูปแบบกับนักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ที่สำคัญคือการสร้างสิ่งแวดล้อมด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น”


          ขณะที่การใช้งบประมาณเพื่อดำเนินโครงการในแผนปฏิบัติการเร่งด่วน “วราวุธ” บอกว่า ไม่ต้องจัดหางบประมาณเพิ่มเติม ใช้เท่าที่งบประมาณรายจ่ายของประเทศที่มาจากการเก็บภาษีของประชาชน ดังนั้นขอให้หมดห่วงว่าจะเพิ่มภาระด้านการคลังให้ “รัฐบาล”


          อย่างไรก็ตามแม้ “แผนปฏิบัติการของพรรคชาติไทยพัฒนา” ที่นำเสนอ จะมีบางส่วนที่คล้ายคลึงกับนโยบายหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา
 

          แต่สิ่งหนึ่งที่ “แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา” จะใช้เป็นจุดเรียกคะแนนนอกจากโครงการหลักแล้ว ยังมีนโยบายระดับพื้นที่.... ที่เมื่อเริ่มออกตัวเข้าสู่เกมแข่งขันกันเมื่อไร รับรองว่าจะเห็นอะไรที่มากกว่านี้
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ