คอลัมนิสต์

เจ๊ไปไหนในวันบุญทรงพูด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... เด็ดยอด โดย... รักษ์ ปักธงไทย


 

          อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีจำนำข้าวจีทูจีเก๊ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ถูกส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังเข้าพักรักษารอการผ่าตัดตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา

 

 

          ก่อนหน้านี้ บุญทรงถูกหามมาโรงพยาบาลตำรวจหลายรอบแล้ว เพื่อเช็กสุขภาพที่ทรุดโทรมของเขา เข้าอุโมงค์เอ็มอาร์ไอเพื่อตรวจเรื่องกระดูกสันหลังที่เคลื่อนทับเส้นประสาท และโรคภูมิแพ้


          เมื่อหมอวินิจฉัยว่า บุญทรงต้องเข้าผ่าตัดกระดูกสันหลัง ทางราชทัณฑ์ก็เตรียมการพาบุญทรง นักโทษต้องคดี 42 ปี ส่งโรงพยาบาลตำรวจ โดยต้องไม่ให้สาธารณชน หรือสื่อมวลชนเห็นบุญทรง พยานปากเอก เป็นอันเด็ดขาด


          สภาพบุญทรงล่าสุดดูไม่ได้เลย ผ่ายผอม ตรอมใจ หมดสง่าราศี เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน


          นับแต่บุญทรงถูกพิพากษาจำคุก 42 ปี ในคดีข้าวจีทูจีเก๊ เมื่อ 25 สิงหาคม 2560 ถึงวันนี้ก็ 1 ปีกับ 4 เดือน โดยอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 3 วัน ก่อนส่งไปที่เรือนจำคลองเปรม เมื่อ 28 สิงหาคม 2560


          สภาพบุญทรงก่อนเข้าคุกก็ไม่ดีนัก ก่อนขึ้นศาลครั้งสุดท้ายเขาร่ำสุราหัวราน้ำกับพรรคพวกที่เชียงใหม่ ด้วยความกลัดกลุ้ม ฝากคนสนิทให้ดูแลครอบครัวด้วย และแน่นอนเมื่อยิ่งลักษณ์หนีไป ทิ้งบุญทรงติดคุก บุญทรงจึงไม่มีสิทธิพิเศษอะไร


          “กูพูดไม่ได้” เป็นคำที่บุญทรงกล่าวในวันที่เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์กับสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เมื่อเพื่อนพบว่าเพื่อนถูกใช้ให้ทำอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย


          คำนี้กลายเป็นชนักติดหลังบุญทรง จนกระทั่งวันที่ครอบครัวซวนเซ ไร้วี่แววจะได้รับความช่วยเหลือจากใครในดูไบเลย กอปรกับบุญทรงร่างกายทรุดโทรม หมอนรองกระดูกเคลื่อน เจ็บกายไม่เท่าเจ็บใจ ในที่สุดบุญทรงถึงจุดที่ “กูต้องพูด”




          บันทึกคำให้การของบุญทรงเป็นแฟ้มลับ แต่คลี่คลายปริศนาคดีข้าวจีทูจีเก๊ลอต1 ลอต 2 ที่เจ๊เจี๊ยะจนพุงกางได้เป็นเปลาะๆ ใครสั่งเจ๊ เจ๊สั่งใคร และใครต่อใคร หลายคนติดคุก หลายคนหนีไป แต่เจ๊นี่สิ...หนีไปไหน


          ปริศนาค้าข้าวจีทูจีที่เจ๊เจี๊ยะนั้นไม่มีเพียงบุญทรงคนเดียวที่เปิดปาก ผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ถูกคำพิพากษาจำคุกต่างออกมาพูดด้วยกันถ้วนหน้า และซัดทอดไปในทิศทางเดียวกัน คนกลุ่มเดียวกัน คนบงการคนเดียวกัน และพูดก่อนที่บุญทรงจะเปิดปากพูดเสียอีก


          ความทุกข์ในคุกก็เรื่องหนึ่งที่กดดันให้ทุกคนในคดีข้าว “พูด” แต่ความเจ็บใจที่ไอ้-อีตัวคนบงการลอยนวลสุขสำราญในต่างประเทศให้เห็นตำตานี่สิ ไม่ส่งเสีย ไม่ดูแล นี่สิยอมไม่ได้


          สุดท้ายงานนี้ทุกคน “พูด” และเสียงที่พูดดังจนเจ๊ได้ยิน และล่องหนไปไม่มีใครเห็นจนถึงวันนี้ วันที่เสี่ยเปี๋ยงก็เข้าโรงพยาบาล บุญทรงก็ผ่าตัด ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยสูงสุดยอด คนอื่นๆ ในคดีข้าวทุกคน 20 คนถูกอารักขาอย่างดี


          แต่ก่อนที่บุญทรงจะได้เข้าโรงพยาบาลในวันนี้ พบว่าเขาถูกหามไปกลับๆ โรงพยาบาลในเรือนจำกับโรงพยาบาลตำรวจหลายรอบ รอบล่าสุดอ้างว่ายังผ่าตัดหลังไมได้ เพราะไซนัสอักเสบ จนกระทั่งอีก 2 อาทิตย์ถัดมา ข้อมูลจากบุญทรงจึงทะลักทลาย สามารถสืบเสาะพบเส้นทางการเงิน จากใครไปถึงใครซุกที่ไหน แจ่มแจ้งแดงแจ๋ นั่นละบุญทรงถึงได้ถูกหามกลับมาผ่าตัดหลัง


          ระหว่างการรักษาตัว ห้องของบุญทรง มีทั้งตำรวจนอกเครื่องแบบ ในคราบพยาบาล มีทั้งตำรวจนอกเครื่องแบบในคราบคนทำความสะอาด ทำหน้าที่อารักขาหลายชั้น กั้นม่าน 9 ชั้นกันความลับยังเรียกว่าน้อยไปสำหรับการรักษาความปลอดภัยในระหว่างรักษาตัวของบุญทรง ในฐานะ “พยานปากเอก” ที่พูดหมดเปลือก จนเจ๊หนีไปกัมพูชาหาหมอโด่ง เคลียร์เสบียงกรัง หาพาสปอร์ตใหม่ และหลังคริสต์มาสนี้เจ๊จะเดินทางไกล “ไปอีกคน”
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ