คอลัมนิสต์

ปฏิรูปประเทศไทย ต้องตั้ง“กระทรวงใหม่”เพิ่มขึ้น?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปฏิรูปประเทศไทย ต้องตั้ง“กระทรวงใหม่”เพิ่มขึ้น?..โดย อาจารย์ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปัญญาและสารสนเทศ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์( นิด้า)

          "ญี่ปุ่น"นั้น "คณะรัฐมนตรี"หรือ"ครม."เขามีไม่กี่กระทรวง เน้นการทำงานเป็น "cluster" มากกว่าทำงานแบบ "แยกบ้าน" "แยกมุ้ง" "สร้างอาณาจักรของตนเอง" ยกตัวอย่างเช่น 

         METI: Ministry of Economy, Trade and Industry กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และ อุตสาหกรรม   http://www.meti.go.jp/english/

          อันนี้พอจะเทียบได้กับ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งสำหรับผมดูแล้วเข้าทาง เพราะทำให้ของที่ผลิตโดยอุตสาหกรรมนั้น ต้องออกมาขายเพื่อการพาณิชย์ได้ ต้องทำของที่มีมูลค่าเพิ่มและขายได้ ทำการค้าระหว่างประเทศไทย และโยงไปถึง"การเงินการคลังเศรษฐกิจ"

          MEXT: Ministry of Education, Culture, Sports, Science and Technology กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี    http://www.mext.go.jp/en/

          อันนี้พอจะเทียบได้กับ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย เท่ากับ 4 กระทรวง ที่ทำหน้าที่ด้านความรู้ การเผยแพร่ และการสืบทอดความรู้ ทำให้สังคมแข็งแรง มีการศึกษา

          MHLW: Ministry of Health, Labor, and Welfare กระทรวงสุขภาพ แรงงาน และสวัสดิการสังคม 

http://www.mhlw.go.jp/english/

          อันนี้พอจะเทียบได้กับ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของไทย

          MLIT: Ministry of Land, Infrastructure and Transport http://www.mlit.go.jp/en/index.html กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการคมนาคม

           ถ้าเป็นของไทย ก็น่าจะมาจากหลายกระทรวง โครงสร้างพื้นฐานที่รวม รถไฟ น้ำ เรือ คมนาคม พยากรณ์อากาศ ทางหลวง พัฒนาที่ดิน รวมกันทุกอย่าง ดังนั้นก็จะหมายรวมถึง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิตัล

         Ministry of Internal Affairs and ommunications) http://www.soumu.go.jp/english/ กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร   ซึ่งของไทยน่าจะรวม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้ามาไว้ด้วยกัน

          ทั้งหมดนี้  เป็นผลของการปฏิรูปรัฐบาลญี่ปุ่นในปี 2001 ซึ่งทำให้การทำงานน่าจะเกิดการประสานงานกันชัดเจนมากขึ้น ของไทยเรา ระบบราชการมีแต่ใหญ่ขึ้นๆ กระทรวง กรม เยอะขึ้นเรื่อยๆ รัฐมนตรีมากขึ้นเรื่อยๆ ปลัดกระทรวง และอธิบดีมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วประเทศกับประชาชนได้อะไร

          จะปฏิรูปก็น่าคิดเหมือนกันครับ เราปฏิรูปทีไร ได้โครงสร้างเทอะทะและหน่วยงานเพิ่มมาตลอดครับ

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ