คอลัมนิสต์

มท.ยุค“สิงห์ทอง”คุมมาเฟียคลองหลอด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มหาดไทยเป็นกระทรวงใหญ่ คุมผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ทั่วประเทศ และยังคุมการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ทั้งหมด

     ไล่ตั้งแต่ องศ์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาลตำบล (ทต.) เทศบาลเมือง (ทม.) เทศบาลนคร (ทน.) และ อปท.รูปแบบพิเศษ อย่างกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ฉะนั้นจะเห็นได้ว่ากระทรวงมหาดไทย มีอำนาจมากมายครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

     ที่ีผ่านมาข้าราชการระดับสูงของกระทรวงคลองหลอด มักถูกเรียกติดปากว่า “มาเฟียคลองหลอด” ทั้งนี้ก็เพราะว่ากระทรวงแห่งนี้มีอำนาจให้คุณให้โทษคนทั้งประเทศ และยังสามารถใช้กลไกผู้ว่าฯและนายอำเภอ ให้คุณให้โทษนักการเมืองในพื้นที่ได้ ทำให้หลังการเลือกตั้งทุกครั้งพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจำเป็นต้องขอโควต้ากระทรวงมหาดไทยมาเป็นของพรรค          

มท.ยุค“สิงห์ทอง”คุมมาเฟียคลองหลอด

     และในอดีตกระทรวงคลองหลอดจะถูกคุมโดยข้าราชการระดับสูงที่จบการศึกษา จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ “สิงห์ดำ” และคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ“สิงห์แดง” เมื่อมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหง และมีการเปิดสอนคณะรัฐศาสตร์ หรือ“สิงห์ทอง” ปี 2514 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 45 ปี ทำให้“สิงห์ทอง” ศิษย์เก่ารามคำแหง เจริญก้าวหน้าไปนั่งตำแหน่งในกระทรวงคลองหลอด ทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และอื่นๆ ทั่วทุกพื้นที่ของไทย       

มท.ยุค“สิงห์ทอง”คุมมาเฟียคลองหลอด  

     ล่าสุดที่ประชุมครม.ได้แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง(ซี10)ของกระทรวงมหาดไทย 19 ตำแหน่ง มีผู้ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายเป็น“สิงห์ทอง” ศิษย์เก่า คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ถึง 11 คน คือ 1.นายประทีป กีรติเรขา รองปลัดมท. (สิงห์ทอง) เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 2.นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง (สิงห์ทอง) เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 3.นายกาศพล แก้วประพาฬ ที่ปรึกษาด้านการปกครอง (สิงห์ทอง) เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 4.นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา (สิงห์ทอง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก 5.นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร (สิงห์ทอง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

          6.นายอนุสรณ์ แก้วกังวาน ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด (สิงห์ทอง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ 7.นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต (สิงห์ทอง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช 8.นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี (สิงห์ทอง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี 9.นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ (สิงหฺ์ทอง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี 10.นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ (สิงห์ทอง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น 11.นายพศิน โกมลวิชญ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู (สิงห์ทอง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี

มท.ยุค“สิงห์ทอง”คุมมาเฟียคลองหลอด

         ซึ่งโผดังกล่าวจัดทำโดยนายกฤษฎา บุญราช “สิงห์ทอง” ปลัดกระทรวงมหาดไทย คนปัจจุบัน ไม่มีการแทรกแซงจากทางฝ่ายการเมือง เพราะช่วงนี้เป็นรัฐบาลหลังการปฏิวัติ แค่เสนอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย เห็นชอบเท่านั้น ทำให้นายกฤษฏา บุญราช “สิงห์ทอง”รุ่นพี่ผู้ได้รับการแต่งตั้งคนอื่นๆ มีอำนาจจัดทำโผอย่างเต็มที่   

        เมื่อ“สิงห์ทอง”ซึ่งเป็นศิษย์เก่า คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีโอกาสไปนั่งตำแหน่งสำคัญในมหาดไทย ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีหน้าทีหลัก คือ บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนทั่วทุกพื้นที่ ก็ควรนำหลักการปกครองของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่ใช้หลักการปกครองราษฏร ดัง พ่อปกครองลูก สมกับที่นำพระนามของพระองศ์ท่านมาตั้งเป็นชื่อมหาวิทยาลัย 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ