คอลัมนิสต์

นรต.โดดร่มเสียชีวิต 2 ปี คดีไม่คืบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นรต.โดดร่มเสียชีวิต 2 ปี คดีไม่คืบ : รายการ คม ชัด ลึก

           จากกรณีนักเรียนนายร้อยตำรวจ ไปฝึกกระโดดร่มที่ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี แต่ร่มไม่กาง เสียชีวิตต่อหน้าครอบครัวที่ไปร่วมชมการฝึกซ้อม เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 คดีนี้ผ่านมาแล้ว 2 ปี 3 เดือน แต่คดีเพิ่งจะเข้าสู่การพิจารณาในชั้นอัยการ เมื่อเดือนมิถุนายน 2559

           นายสาธร พุทธชัยยงค์ บิดา นรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือ โยโย่ ที่เสียชีวิตระหว่างฝึกกระโดดร่ม กล่าวว่า หลายคนคิดว่า เวลายิ่งผ่านไปนาน จะทำให้ความรู้สึกดีขึ้น แต่สำหรับผมแล้วตรงกันข้าม ยิ่งนานยิ่งเจ็บปวดจากการคิดถึงลูก ห้องนอนของลูกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้ยังคิดว่า ลูกยังมีชีวิตอยู่ ยังเก็บผ้าปูที่นอนของลูกไปซักทุกสัปดาห์

           ระหว่างปิดภาคเรียนที่ 2 ลูกก็ต้องเข้ารับการฝึกกระโดดร่ม วันเกิดเหตุผมไปดู ไปให้กำลังใจ ซึ่งลูกขึ้นเครื่องเป็นชุดแรก 18 คน นั่งฝั่งละ 9 คน ขณะที่ชุดแรกกำลังกระโดดลงมา ผมเห็นร่มไม่กางหลายคนจนกระทั่งถึงพื้นดิน เสียชีวิตแน่นอน ขณะนั้นก็ตกใจว่า เป็นลูกของใครบ้าง และไม่คิดว่า ผู้เสียชีวิตจะมีลูกของผมรวมอยู่ด้วย ยังเข้าไปดูทันทีไม่ได้ ได้แต่คุยกันกับผู้ปกครองรายอื่นๆ ด้วยความตกใจ

           หลังจากผ่านไป 1 เดือน ได้รับแจ้งว่า ปัญหาเกิดมาจากสายสลิง ที่ไม่กระตุกสายร่ม และยังได้รับคำชี้แจงอีกหลายอย่างเกี่ยวกับการซ่อมแซมสลิงก่อนที่จะมีการฝึกกระโดดร่มครั้งนี้

           จากการสอบถามเพื่อนของลูกทราบว่า คนที่มองเห็นทันก็พยายามช่วยตัวเองด้วยการใช้ร่มสำรอง แต่ในระยะความสูง 300 เมตร ใช้เวลาถึงพื้นดิน 12 วินาที หลังจากกระโดดแล้วในเวลา 4 วินาที ยังกระตุกร่มสำรองไม่ได้ เพราะร่มจะไปตีกับเครื่องบิน ต้องกระตุกร่มสำรองในวินาทีที่ 5 ให้ทัน ซึ่งเป็นวินาทีของคนที่มีประสบการณ์ แต่ลูกผมเพิ่งกระโดดเป็นครั้งแรก

           หลังเกิดเหตุ ผมถูกข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิต หากไม่หยุดต่อสู้ในทางคดี โดยส่งข้อความมาทางโทรศัพท์มือถือ เมื่อตรวจสอบเป็นเบอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ขณะนั้นยังไม่ทราบชื่อผู้ต้องหา แต่หลังจากเรื่องมาถึงอัยการ ก็ไม่ได้รับข้อความในลักษณะดังกล่าวอีก

           ผมต้องการฟ้องในคดีอาญา เพื่อให้มีการนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย

           นายอนันตไชย ไชยเดช ทนายความ กล่าวว่า ก่อนที่จะเข้ามารับคดีนี้ ทราบว่า มีการส่งสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวนส่งถึงอัยการแล้ว ในข้อหา ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่พนักงานอัยการพิจารณาเห็นว่า คดีนี้น่าจะมีความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบในการจัดซื้อจัดจ้าง ละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ดังนั้น อัยการจึงคืนสำนวนกลับมายังพนักงานสอบสวนให้แจ้งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จากนั้น ป.ป.ช.พิจารณาเห็นว่า มีมูลความผิด จึงให้ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรีสอบสวน และเห็นว่า คดีมีมูล จึงส่งสำนวนไปยังพนักงานสอบสวน จากนั้นพนักงานสอบสวนก็ส่งสำนวนให้อัยการ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา

           คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

           ส่วนข้อหา ความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีเพียง 4 คน เป็นตำรวจ 3 คน การบินไทย 1 คน เท่านั้น

           สิ่งที่เป็นห่วงในขณะนี้ก็คือ เรื่องเวลา เพราะนอกจากคดีอาญาแล้ว ยังมีคดีแพ่งที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 99 ล้านบาท ขณะนี้คดีแพ่งยังไม่สามารถดำเนินการได้ โดยเป็นผลมาจากคดีอาญา คาดว่า คดีนี้กว่าจะจบต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 ปี หลังจากเริ่มคดีในชั้นศาล หรืออาจจะต้องใช้เวลาถึง 10 ปี ดังนั้น ล่าสุด จึงได้ไปเร่งรัดคดีอาญาให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้ดำเนินการต่อในคดีแพ่ง
 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ