ในวโรกาสทรงเยี่ยมโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เนื่องในโอกาสวันพืชมงคล
เวลา 10.34 น. วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการทรงเยี่ยมโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เนื่องในโอกาสวันพืชมงคล การนี้พระราชทานวโรกาสให้ ผู้แทนโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา กราบบังคมทูลถวายรายงานเกี่ยวกับกิจการโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พร้อมด้วยอธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ผู้แทนสหกรณ์ภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ ผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ เฝ้าฯ รับเสด็จ
การนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระบรมราโชวาท จากนั้นการนี้่ทรงเปิดอาคารโรงสีข้าวตัวอย่าง สวนจิตรลดา น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายโดย มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ มีขนาดกำลังการผลิต 2 ตัน ต่อชั่วโมง มีวัตถุประสงค์การก่อสร้างเพื่อเป็นแหล่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแนวพระราชดำริในเรื่องข้าวและการสีข้าวที่เป็นพื้นฐานการเกษตรกรรมของประเทศ โดยนำเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตข้าวให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่ดีเลิศ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและมีการจัดการอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานหลักการผลิตสากล สามารถขยายกำลังการผลิตของโรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดา ให้เพียงพอสำหรับกิจกรรมของสำนักพระราชวังและการพระราชทานแก่พสกนิกรเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติ
โดยอาคารมีขนาดพื้นที่รวม 2,000 ตร.เมตร แบ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นบนประกอบไปด้วยสำนักงาน ห้องประชุม ห้องรับรองและบรรยาย ชั้นล่างประกอบไปด้วยห้องจัดนิทรรศการ ห้องตรวจสอบคุณภาพข้าว ห้องเก็บบรรจุภัณฑ์ ห้องเก็บรำ ห้องเก็บแกลบ และส่วนของห้องกระบวนการผลิต ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ กระบวนการทำความสะอาด เพื่อคัดแยกสิ่งเจือปนนอกจากข้าวเปลือก, กระบวนการกระเทาะข้าวเปลือกเป็นข้าวกล้องที่มีประสิทธิภาพ, กระบวนการแปรรูปข้าวกล้องเป็นข้าวสาร, การะบวนการคัดแยกสิ่งเจอปน เช่น เมล็ดข้าวสีดำ สีแดง หรือข้าวท้องโซ่, กระบวนการบรรจุข้าวสารลงถุงแบบอัตโนมัติ และกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวเปลือกตั้งแต่รับซื้อวัตถุดิบ
จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงเปิดโรงโคนม สวนจิตรลดาแห่งใหม่ ซึ่ง กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เพื่อใช้เป็นสถานที่สาธิตการเลี้ยงโคนมอย่างเป็นแบบอย่างตามหลักวิชาการโดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรังใช้ให้เหมาะสมเพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรได้ศึกษา เรียนรู้และสามารถนำไปปรับใช้กับฟาร์มของตัวเองได้ ภายใต้แนวคิด 4 ข้อ ได้แก่ “โรงเรือนโคนมแบบคอมบิเนชั่น สเตเบิล” โดยรวมพื้นที่การเลี้ยงโคนมประเภทต่างๆ และส่วนการรีดนมโคไว้ในโรงเรือนเดียวกันเป็นการประหยัดพื้นที่ สะดวกต่อการจัดการ
“การออกแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” มีการบำบัดน้ำมูลโคก่อนส่งเข้าระบบบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพฯ เพื่อไม่สาธิตการทำปุ๋ยนมชีวภาพ “สาธิตการใช้เทคโนโลยีการเลี้ยงโคนมที่ทันสมัย” เช่น อุปกรณ์ติดข้อเท้าแม่โค สำหรับแสดงประวัติ หรือการใช้เครื่องรีดนมโคพร้อมชุดวิเคราะห์องค์ประกอบน้ำนมโคแบบอัตโนมัติ เป็นต้น และ “คำนึงถึงความสะอาดของน้ำนมและสุขอนามัยของโค” เช่น จัดทำที่นอนยกพื้นสำหรับโคเพื่อไม่ให้นอนปบเปื้อนกับมูลและปัสสาวะ ติดตั้งพัดลมระบายอากาศภายในโรงเรือน, ติดตั้งเครื่องแปรงขนโคอัตโนมัติ ตัดตั้งเครื่องกวาดมูลโคอัตโนมัติ และระบบอาหารส่วนผสมครบส่วน
การนี้เสด็จฯ ไปยังสำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรกิจกรรมของโครงการ แล้วเสด็จไปยังบริเวณด้าหน้าอาคารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื้อพืช และอาคารธนาคารข้อมูล ทอดพระเนตรนิทรรศการสวนพฤษศาสตร์โรงเรียน จำนวน 4 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรีในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดกาญจนบุรี, โรงเรียนตากพิทยาคม จังหวัดตาก, โรงเรียนพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี และโรงเรียนโพนงามศึกษา จังหวัดสกลนคร โดยนิทรรศการดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ การบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และนวัตกรรม ผลงาน ทั้งนี้ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จไปยังอาคารโครงการนาทดลอง สวนจิตรลดา ทอดพระเนตรนิทรรศการเรื่อง “เจริญรอยตามพระราชปณิธาน สืบสานงาน ข้าวของพ่อ” ที่ห้องนิทรรศการกรมการข้าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง