ตอบแล้ว ข้อเสนอ "ล็อกดาวน์" กทม.อย่างน้อย 7 วัน สรุปล็อกหรือไม่ล็อก

(23 มิ.ย.2564) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ "โควิดวันนี้" ซึ่งในช่วงตอบคำถามจากผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ที่มีผู้ป่วยรายใหม่จำนวนมากและมีผู้ป่วยวิกฤติ ในขณะที่กรมการแพทย์ระบุว่าเตียงผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้วและ ศบค.จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้อย่างไร รวมถึงข้อเสนอ "ล็อกดาวน์" พื้นที่ กทม.

 

 

 

เกี่ยวกับการแก้ปัญหา ผู้ป่วยรายใหม่จำนวนมากและมีผู้ป่วยวิกฤติ นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า สำหรับผู้ป่วยที่เกิดขึ้นขณะนี้ มีความชุกอยู่ที่ กทม.และปริมณฑล ซึ่งในที่ประชุม ศปก.ศบค. พูดคุยกันว่ามีผู้ป่วยอยู่จำนวนหนึ่งที่รอเตียงและมีผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่เข้าสู่โซนสีเขียวแล้วที่บางรายอาการไม่มาก

 

ซึ่ง เลขาธิการ สมช. ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ระบุในส่วนนี้หากย้ายออกไปอยู่ใน Hospitel ที่ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม. อยู่แล้วและเป็นคู่สัญญาก็สามารถทำได้ จึงมอบให้ กทม. พยายามเปิด Hospitel  และให้คนไข้กลุ่มนี้ย้ายเข้าไปอยู่ได้ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ให้ความช่วยเหลือดูแลตัวเองได้ จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้คนที่รอเตียงเข้ามาสู่โรงพยาบาลได้ เตียงก็จะว่างเพื่อที่จะรับผู้ป่วยมีอาการเพื่อรับเข้ามาประเมิน

 

นอกจากนี้ หมอทวีศิลป์ ก็ยอมรับว่าโซนสีแดง สีเหลือง ศักยภาพของภาครัฐแน่นหมดแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าของภาคเอกชนจะมีเตียงว่าง ดังนั้นต้องมีหนทางใหม่ในการพูดคุยหารือกัน เพราะในบางโครงสร้างของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักที่จะต้องดูแลประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร มีโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ซึ่งมีสถานที่อยู่แล้วก็อาจปรับให้เป็นพื้นที่รองรับระดับสีแดงได้หรือไม่ ด้วยการเพิ่มเติมอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์เข้าไป โดยที่ประชุมมอบหมายให้รองผู้ว่ากรุงเทพมหานครไปประชุมปรึกษาหารือ เพื่อขยายศักยภาพ

 

 

 

 

 

เมื่อถูกถามว่าข้อเสนอ "ล็อกดาวน์" พื้นที่ กทม. จากทางแพทย์ที่ต้องการให้ ล็อกดาวน์ กทม. เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันเพื่อลดการเคลื่อนย้ายซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาได้นั้น เรื่องนี้ หมอทวีศิลป์ บอกว่า ได้รับทราบเรื่องและก็มีการถกกันในที่ประชุม เรารับทราบแล้วว่าการล็อกดาวน์เป็นเรื่องที่ได้ผลดี แต่ในทางปฏิบัติที่เราดำเนินการอยู่เป็นในลักษณะจุดเฉพาะ เช่น แคมป์คนงาน โรงงานหลายแห่งหลายที่ได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ละมาตรการนั้นจะมีทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่ต้องนำมาไตร่ตรองกัน การปิดพื้นที่โรงงานอาจทำให้เกิดการกระจายของคนที่ไม่มีงานทำก็จะเดินทางไปต่างจังหวัดเพิ่มปัญหาไปอีก ดังนั้นต้องพิจารณาไตร่ตรองกันอย่างดี

 

" อย่างที่ทราบกันว่าคน กทม. จริงๆ ไม่ได้มีมาก ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานที่มาจากต่างจังหวัด ถ้าหากปิด กทม. อาจเป็นการเคลื่อนย้ายกลับไปต่างจังหวัดทำให้เกิดการติดเชื้อในต่างจังหวัดด้วยก็ได้"

 

ข้อสรุปที่สำคัญในตอนนี้ คือ จะทำลักษณะบับเบิ้ลแอนด์ซีล (Bubble and seal) ตัวอย่าง เช่น ที่ จ.สมุทรสาคร ก่อนหน้านี้ที่ยอมให้โรงงานเปิดได้แต่ต้องดูแลเรื่องการนำพาแรงงานมาสู่โรงงานที่เรียกบับเบิ้ลแอนด์ซีลนั้น เขาทำได้เป็นอย่างดี 

 

และ กทม.ต้องดูแลเป็นอย่างดีด้วย แต่เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าเพราะ กทม.มีจำนวนคนเยอะกว่า มีความซับซ้อนขององค์กรของสถานที่ก็มีมากกว่า ดังนั้น การแบ่งเขตดำเนินการขึ้นอยู่กับรองปลัดกรุงเทพมหานครที่เป็นคนคุมโซนแต่ละที่ ดังนั้น ข้อเสนอที่เกิดขึ้นจากบุคลากรทางการแพทย์จึงนำมาสู่การคิดหนทางหาทางปฏิบัติให้ได้ผสมผสานกับการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจให้ไปด้วยกันได้โดยไม่มีผลกระทบต่อประชาชนในต่างจังหวัด

 

อ่านข่าว : จนตรอก หมอเสนอ "ล็อกดาวน์" กทม.หลังสถานการณ์ "โควิด" เข้าขั้นวิกฤติ เตียงไม่พอ

 

อ่านข่าว : ปกป้อง "ล็อกดาวน์" ตัวเอง เตียงผู้ป่วย "โควิด-19" วิกฤติ เกินกำลังแพทย์รับมือ