โควิด-19 กลายพันธุ์ ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปจนถึง 31 ก.ค.
ราชกิจจานุเบกษา ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีกคราวหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 12) ความว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ 11 ออกไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 นั้น ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่องและจริงจังเพื่อควบคุม และระงับยับยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีทุกภาคส่วน รวมทั้งได้ดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโรคให้ได้มากที่สุด แต่ได้เกิดการระบาดแบบกลุ่มก้อนขึ้นในพื้นที่ที่มีความแออัดหลายพื้นที่ทั่วประเทศดังที่ทราบกันโดยทั่วไป ประกอบกับเชื้อโรคได้กลายพันธุ์ทำให้เกิดการติดโรคได้ง่าย และไม่แสดงอาการในระยะแรก
แต่เมื่อแสดงอาการจะมีความรุนแรงมาก ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก ผู้ป่วยสะสมเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนกระทั่งมีความจำเป็นต้องจัดตั้งสถานที่กักตัวผู้ติดโรคและโรงพยาบาลสนามขึ้นหลายแห่งเพื่อรองรับสถานการณ์ ทั้งยังปรากฏว่าผู้ติดเชื้อเสียชีวิตมากขึ้นและเร็วขึ้นจากความรุนแรงของโรค กรณีจึงจำเป็นที่จะต้องคงไว้ซึ่งมาตรการที่เข้มข้นในการเฝ้าระวังและสอบสวนโรค รวมทั้งการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยด้านสุขภาพและชีวิตของประชาชนและสาธารณสุขของประเทศ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 จึงให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564 จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
CR : ราชกิจจานุเบกษา