ปฏิเสธไม่ได้ว่า คลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ เป็นคลัสเตอร์สำคัญอันหนึ่งที่ทำให้เกิดระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ดี นอกจากนี้ระบบสาธารณสุขไทย เป็นอีกส่วนที่ต้องรับผิชอบในการบริหารที่ล้มเหลว
คลัสเตอร์แหล่งใหม่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครอย่าง "ชุมชนคลองเตย" กำลังเป็นที่น่าจับเป็นอย่างยิ่งสำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่าจะพุ่งสูงเท่าไหร่ ณ ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉพาะในชุมนุมแออัดคลองเตย พุ่งสูงเกือบ 200 ราย แต่หากรวมผู้ติดเชื้อในเขตคลองเตยแล้วอยู่ที่ 304 ราย ซึ่งดูท่าทีแล้วคงยังไม่หยุดแค่นี้อย่างแน่นอน
จำนวนผู้ติดเชื้อในเขตคลองเตยรวมไปถึงชุมนุมแออัดที่มีอยู่หลายชุมชนในคลองเตยนั้นเป็นผลมาจากการตรวจหาเชื้อเชิงรุก แต่ก็ยังเพิ่งตรวจได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยคนในชุนชนชนเองเชื่อว่าจะมีคนติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจากพื้นที่เป็นชุมชนแออัด มีประชาชนกรมากอยู่ในพื้นที่จำกัด
หากยอดผู้ติดเชื้อในชุมชนคลองเตยเพิ่มสูงขึ้น ตัวผู้ป่วยนั้นจะมีสิทธิหรือโอากาสเข้ารับการรัษาตัวอย่างรวดเร็วและเข้าถึงหรือไม่ นี้เป็นคำถามที่น่าคิดอย่างมากในเวลานี้ เนื่องจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ทยอยเต็ม นำมาสู่ โรงพยาบาลสนาม
เรื่องนี้ทางรองปลัดกระทรวงกลาโหมได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อขอจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เอาไว้รับผู้ติดเชื้อในชุมชนคลองเตย โดยมีศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงเป็นหน่วยในการประสานการปฏิบัติ และสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอย่างเร่งด่วน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ที่ทำให้เชื้อกระจายไปทั่วประเทศไทยเวลานี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้นตอส่วนหนึ่งมาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงในหลายจังหวัด รวมไปถึงสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ที่ตกเป็นข่าวโด่งดัง
ด้วยการสอบสวนโรคในชุมชนคลองเตย พบว่า มีผู้ติดเชื้อเป็นผู้ทำงานในสถานบันเทิงทองหล่อ จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการแพร่ระบาดในชุมชน ทั้งนี้ชุมนุมคลองเตยมีประชาชนกรอยู่อย่างหนาแน่น รวม 41 ชุมชน และ มีการระบาดหนักอยู่ที่ 3 ชุมชน คือ ชุมชนหมู่บ้านพัฒา 70 ไร่ ชุมชนพัฒนาใหม่ และชุมชนริมคลองวัดสะพาน
แต่อีกส่วนหนึ่งที่ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบในการระบาดครั้งนี้ด้วยนั้นก็คือ "ระบบสาธารณสุขของไทย" เนื่องจากตลอดการระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ปรากฎว่าการบริหารการจัดการต่าง ๆ เช่น
การนำเข้าวัคซีนที่ล่าช้า เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น หากได้วัคซีนในจำนวนที่มากพอและรวดเร็วสถานการณ์อาจจะดีกว่าที่กำลังเป็นอยู่
การบริหารจัดการโรงพยาบาล รองรับผู้ป่วยได้ไม่ดีพอจนทำให้ผู้ป่วยบางรายเสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการรัษา เรียกว่าบุคคลบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงขบวนการรักษาจนพวกเขาต้องเสียชีวิตลงโดยปราศจากได้รับการักษาแม้แต่น้อย
สำหรับ 2 สิ่งนี้ น่าจะเป็นเครื่องบ่งบอกได้ดีว่าทั้งหมดคือความล้มเหลวในด้านสาธารณสุขของไทยอย่างชัดเจน ประชาชนคนไทยได้แต่รอความหวังจากผู้มีอำนาจในการแก้ไข ให้รีบหาหนทางในการสางปัญหาที่เป็นตัวการสำคัญในการจัดการกับไวรัสโควิด-19
ข่าวที่เกี่ยวข้อง