ข่าว

บันทึกจากทนายหลังเข้าเยี่ยม แอมมี่ The Bottom Blues เผยนาทีบีบหัวใจเขียนข้อความถึงแม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บันทึกจากทนายหลังเข้าเยี่ยม แอมมี่ The Bottom Blues เล่าถูกตัดผมเกรียน เผยนาทีบีบหัวใจเขียนข้อความสั้นๆ ถึงคุณแม่

ภายหลังจากที่ศาลอุทธรณ์กลับคำสั่งศาลชั้นต้นให้ประกันตัว นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่  The Bottom Blues พร้อมพวกรวม 19 คนตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

อ่านข่าว : ศาลอุทธรณ์ ให้ประกัน เพนกวิน-รุ้ง- ณัฐชนน- แอมมี่

 

ขณะที่เพจ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เขียนข้อความซึ่งเป็นบันทึกจากทนายความผู้เข้าเยี่ยมแอมมี่ The Bottom Blues ผู้ชุมนุม คณะราษฎรอีสาน วันนี้ ก่อนได้รับการประกันตัว โดยมีเนื้อหาระบุว่า

 

" เขาเป็นนักร้อง เป็นนักต่อสู้ ไม่ใช่นักโทษ''

 

วันนี้เราไปเยี่ยมแอมมี่ The Bottom Bules และผู้ชุมนุมที่ถูกจับจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอีก 16 คน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพในฐานะทนายความ ตำรวจมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีกจากเหตุวันที่ 13 ต.ค.2563 ก่อนเริ่มกระบวนการแจ้งข้อหาเราคุยกับตำรวจ ว่าพี่ตำรวจเค้าใช้กฎหมายกันยังไงย้อนแย้งกันไปหมด ในเมื่อจริงๆ แล้วระหว่างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (กรณีโควิด) ไม่ใช้กฎหมายชุมนุมสาธารณะ แต่ข้อกำหนดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กำหนดให้ชุมนุมได้ตามเกณฑ์ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ กลายเป็นว่าคดีนี้นอกจากความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแล้วก็ยังกล่าวหาว่าผิด พ.ร.บ.ชุมนุมฯ อีก เป็นการใช้กฎหมายที่ย้อนแย้งมาก

 

ตัดมาที่แอมมี่ เขาออกมาจากด้านในเรือนจำมาถึงห้องที่จัดไว้พบทนายความและตำรวจโดยเฉพาะ ภายในห้องแยกส่วนของผู้ต้องขังและทนายความออกจากกันมีลูกกรงและกระจกกั้น พูดคุยผ่านสายโทรศัพท์ มันไม่ได้พบเป็นการส่วนตัวตามที่กฎหมายว่าไว้หรอก เพราะในห้องก็มีทนายความและผู้ต้องหารายอื่นๆเต็มไปหมด ทั้งเรือนจำมีอยู่ห้องเดียว

 

แน่นอนแอมมี่ตัดผมเกรียนแล้ว ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ผมทรงเดียวกับไมค์และอานนท์ที่ถูกปล่อยตัวคราวก่อน แอมมี่ยืนกอดอกหน้าเครียด ใส่แว่นสายตากรอบดำ เสื้อผู้ต้องขังสีน้ำตาล ยืนมองหน้าตำรวจที่จะมาแจ้งข้อหาเพิ่ม จ้องมองอย่างนั้นอยู่พักนึงก่อนจะหันมาคุยกับเรา เขาสอบถามความคืบหน้าคดีกับทนาย “วันนี้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันแล้ว รอฟังผลว่าศาลอุทธรณ์จะว่าอย่างไร” เราตอบ และแจ้งว่าวันนี้ตำรวจจะมาแจ้งข้อหาเพิ่มในคดีเดิม พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาในคดีสาดสีที่สน.สำราญราษฎร์ เมื่อช่วงปลายเดือนก่อนเป็นคดีอีกหนึ่งคดี

 

ระหว่างนั้นนึกขึ้นได้ว่าแม่ของแอมมี่รออยู่ด้านนอก เราแจ้งพนักงานสอบสวนว่ามีแม่ของผู้ต้องหาจะเป็นบุคคลผู้ได้รับความไว้วางใจขอเข้าร่วมการสอบสวนด้วย ตรงนี้เป็นสิทธิตามกฎหมาย ตำรวจอนุญาต แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่อนุญาตอ้างว่าห้องดังกล่าวใช้สำหรับทนายความและพนักงานสอบสวนเท่านั้นและนี่เป็นเขตเรือนจำ แม่กับลูกจึงยังไม่ได้พบกันต่อไป (ช่วงนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิดทางเรือนจำจะกักตัวผู้ต้องขัง 14 วันแรกที่เข้าเรือนจำ ญาติไม่สามารถเยี่ยมได้)

 

หลังแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จ เราสอบถามว่าเขาต้องการอะไรไหม เขาอยากได้กระดาษวาดรูปและปากกาสีดำ และเทปกาว เรายังนึกในใจว่าเขาเป็นศิลปินจริงๆ แต่ขออภัยร้านค้าสวัสดิการเรือนจำไม่มีของพวกนี้ เราจึงไม่สามารถซื้อฝากเข้าไปได้ แอมมี่ฝากข้อความถึงคนข้างนอกว่า

 

"ผมเข้าคุกมาไม่ใช่ในฐานะนักโทษ แต่เข้ามาในฐานะนักต่อสู้ ผมหวังว่าอุดมการณ์ของผมจะยังคงอยู่และขอให้ทุกคนสู้ต่อไป" แอมมี่ The Bottom Blues

 


 

 

 

 

เราจดออกมาเพื่อฝากข้อความให้คนข้างนอก ก่อนจากกัน แม่ฝากข้อความผ่านกระดาษมาบอกแอมมี่ว่าไม่ต้องเครียด แอมมี่ไปขอกระดาษเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือมาจากเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกัน เขียนตอบสั้นๆ ชูตรงกระจกให้แม่ที่ยืนอยู่นอกห้องเห็น “ขอโทษแม่” มันเป็นห้วงเวลาที่สั่นไหวภายในของทั้งแอมมี่และครอบครัว รวมถึงคนที่รักความเป็นธรรมและประชาธิปไตย

 

หลังซีนดราม่าน้อยๆนี้ แอมมี่เหมือนจะมีข้อความที่อยากสื่อสารกับคนข้างนอกอีก แต่เขาก็นึกมันไม่ออกแล้ว เขาบอกเราด้วยเสียงสั่นเครือผ่านสายโทรศัพท์ว่ารบกวนทนายช่วยเขียนเรื่องการเข้าเยี่ยมเขาวันนี้ให้หน่อยได้มั้ย

 

เขียนให้แล้วนะและจะไม่เขียนให้อีก ให้ออกมาคุยกับแฟนคลับเอง เพราะคุณคือนักร้อง คือนักต่อสู้ ไม่ใช่นักโทษ

 

 

CR เพจ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

 

 

 

คูปองส่วนลด 11% ดีลราคา 11 บาท คลิกเลยที่ Lazada

 

บันทึกจากทนายหลังเข้าเยี่ยม แอมมี่ The Bottom Blues เผยนาทีบีบหัวใจเขียนข้อความถึงแม่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ