อาจารย์ ม.ดัง กางข้อกฏหมายแย้งโครงการดับอนาคต หมอเหรียญทอง

ประเด็นร้อนเกี่ยวกับ "โครงการดับอนาคต" ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา หรือ หมอเหรียญทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง 

 

ขณะเดียวกัน อาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังได้ตอบโต้ โดยการนำกฏหมายมากางสวนกลับการกระทำของหมอเหรียญทอง พร้อมแนะผู้ถูกกระทำให้เอาผิดป้องสิทธิ์ตัวเอง และได้เปิดเผยถึงข้อกฏหมายในการป้องสิทธิตัวเอง หากถูกถ่ายรูปจนเห็นใบหน้าชัดเจน โดยที่ผู้ได้ไม่ได้อนุญาตว่าสามารถแจ้งความเอาผิดผู้กระทำได้ ทั้งยังแนะให้จับตัวบุคคลผู้กระทำด้วย

อ่านข่าว : "หมอเหรียญทอง" ลั่น ใครร่วมม็อบ เจอแน่ "โครงการดับอนาคต"

ช่วง จิตอาสา (พาเพลิน) ของนายเหรียญทองฯ : ผู้ไปร่วมชุมนุมท่านใดพบว่า ตัวเองถูกถ่ายรูปจนเห็นใบหน้าอย่างชัดเจน โดยคนถ่ายไม่ขออนุญาต และรู้สึกเดือดร้อนรำคาญ หรือรู้สึกถูกคุกคามมีข้อควรทราบ และแนวทางปฏิบัติตามกฏหมาย ดังนี้

 

1) ผู้ใดก็ตามที่ดันมาเที่ยวถ่ายรูปคนอื่น เพราะหลงเชื่อตามคำประกาศของนายเหรียญทองฯ ผู้ถ่ายรูปนั้นมีความผิดลหุโทษตามมาตรา 397 ประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น

 

2) หากผู้ร่วมชุมนุมท่านใด พบเห็นการกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อ ถูกถ่ายรูปในลักษณะดังกล่าว แนะนำว่า สะกิดบอกเพื่อนๆ หรือคนที่อยู่ใกล้เคียง ให้ช่วยกันเข้าไปห้ามปรามหรือตักเตือนเขาคนนั้น หากไม่เชื่อหรือดึงดัน ให้จับตัวบุคคลดังกล่าวไว้ “โดยสุภาพ” ขอย้ำว่า ควรกระทำโดยสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องไปหยาบคายด้วย หรือใช้กำลังกับเขา (นอกจากเพื่อเหตุผลว่าให้สามารถจับตัวไว้ เชิญไปโรงพักด้วยกัน หรือเพื่อเอาพยานหลักฐานยืนยันการกระทำผิดของเขามาให้ได้เท่านั้น) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ให้เขาแจ้งความกลับท่านได้ในฐานอื่นๆ เช่น ดูหมิ่นซึ่งหน้า (393) หรือ ใช้กำลังทำร้ายฯ (391) อันเป็นลหุโทษตาม ป.อาญาเหมือนกัน

 

 

 

 

3) เมื่อจับตัวเขาได้ หรือได้พยานหลักฐานเพื่อยืนยันการกระทำผิดของเขามาแล้ว ให้นำตัว หรือหลักฐานนั้นไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ใกล้เคียง โดยแจ้งข้อหาคุกคาม หรือทำให้เดือดร้อนรำคาญตาม มาตรา 397 ป.อาญา วรรคแรก

 

4) มาตรา 397 ป.อาญา วรรคแรก นั้น เป็นความผิดลหุโทษ ซึ่งมี "โทษปรับสถานเดียว" ไม่เกิน 5000 บาท ดังนั้น พนักงานสอบสวน ประจำ สน. มีอำนาจเปรียบเทียบปรับได้เลยทันที (มาตรา 38 ป.วิอาญา) เพื่อให้ “คดีอาญาเลิกกัน” โดยไม่ต้องยุ่งยากถึงโรงถึงศาล (มาตรา 37 ป.วิอาญา)

 

 

 

 

5) ถ้าตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความ ให้ท่านไต่ถามเหตุผลจากเจ้าหน้าที่นายนั้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (ถ่ายคลิปไว้ด้วยก็ได้) แล้วยืนยันความเดือดร้อนของท่านไปว่า รู้สึกถูกคุกคามอย่างไร โดยเอาโพสต์ของนายเหรียญทองฯ นี่แหละโชว์ประกอบไปเลย..ถ้าตำรวจยังไม่ยอมรับแจ้งความ ไม่ดำเนินคดีให้ หรือไม่เปรียบเทียบปรับใดๆ อีก..จึงค่อยแจ้งความตำรวจหรือเจ้าหน้าที่นายนั้นด้วยเลย ในข้อหา “ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่” เพื่อให้ผู้อื่นเสียหายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามมาตรา 157 ป.อาญา

 

 

 

ปล.

 

1) ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่ในภาพด้านล่างนี้ สามารถเอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการปกป้องสิทธิของท่านได้เลยจ่ะ

 

2) การกระทำของนายเหรียญทองฯ เอง ตามโพสต์ อาจยังไม่เข้าข่าย หรือทำอะไรเขาไม่ได้ตามกฎหมายอาญา (ดู มาตรา 85 ผู้โฆษณาให้ผู้อื่นกระทำผิด) ดังนั้น ใครก็ตามที่อยากคุกคามคนอื่นเพียงเพราะเขาเห็นต่างจากคุณ คลั่งชาติหรือคลั่งอะไรก็ไม่รู้ แล้วหลงเชื่อตามคำบอกกล่าวอยาก "จิตอาสา" นักกับนายคนนี้ คุณเองจะถูกปรับ 5,000 ตาม กม. อย่างโดดเดี่ยว และเดียวดาย เยี่ยงจิตอาสา #solonely นะจ๊ะ จุ๊บจั๊บ

 

 

 

 

3) (เพิ่มเติม) นายเหรียญทองฯ คนนี้ ที่ผ่านมา มีพฤติกรรมประกาศ ชักชวนให้ผู้คนไปคุกคามประชาชนหลายต่อหลายครั้งแล้ว ทำตัวประหนึ่งตนอยู่เหนือกฎหมาย แม้จะเอาผิดจังๆ ทางอาญาไม่ได้ แต่ประเด็นเรื่องจริยธรรม จรรยาบรรณแพทย์ องค์กรที่เกี่ยวข้องก็ควรขยับทำอะไรบ้าง

 

 

 

 

 

CR เฟซบุ๊ก Sawatree Suksri