"MEA" การไฟฟ้านครหลวง เปิดวิธีลดค่าไฟ 7 เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยการใช้ไฟฟ้าให้เป็น ลดเห็นๆเมื่อบิลมา
เป็นที่รู้กัน ช่วงนี้อากาศร้อน อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว และยิ่งตอนนี้อยู่บ้าน ลดการแพร่ระบาด COVID-19 และเราจะทำอย่างไรล่ะ ? ให้การใช้ไฟฟ้าภายในบ้านประหยัดขึ้นกว่าเดิม วันนี้ทาง "MEA" ได้มาแนะนำวิธีลดการใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ลดเห็นๆเมือบิลมา
อ่านข่าว : ดูซิ 13 เครื่องใช้ไฟฟ้า หากใช้งาน 1 ชม.จะเสียค่าไฟเท่าไหร่กันบ้าง
โดยทางการไฟฟ้านครหลวง "MEA" ได้รวบรวมวิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในหน้าร้อนอย่างไรให้ประหยัดมาฝากกัน
1.แอร์
เย็นกายสบายใจที่ 26 องศาเซลเซียส เปิดพัดลมช่วย เพิ่มความเย็นได้
หรือปิดเครื่องปรับอากาศเร็วขึ้นวันละ 1 ชั่วโมง
ช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 82 บาท/เดือน คิดที่ขนาด 13,000 บีทียู/ชม.
หรือปิดเครื่องปรับอากาศเร็วขึ้นวันละ 1 ชั่วโมง
ช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 82 บาท/เดือน คิดที่ขนาด 13,000 บีทียู/ชม.
2.กระติกน้ำร้อน
ถอดปลั๊กเมื่อน้ำเดือด ควรต้มน้ำแค่ปริมาณที่ใช้ และเลิกพฤติกรรมเสียบปลั๊กไว้ตลอดวัน
หากเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนทิ้งไว้วันละ 10 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น 123 บาทต่อเดือน
คิดที่ขนาด 2.5 ลิตร 700 วัตต์
หากเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนทิ้งไว้วันละ 10 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น 123 บาทต่อเดือน
คิดที่ขนาด 2.5 ลิตร 700 วัตต์
3.ตู้เย็น
ตู้เย็นชื่นใจ...ค่าไฟก็ลด
เปิดตู้เย็น เมื่อจำเป็น และปิดให้สนิททุกครั้ง
ไม่ใส่ของจนแน่นตู้เย็นเกินไป
ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังด้านหลัง/ด้านข้างอย่างน้อย 15 เซนติเมตร
ช่วยระบายความร้อน และประหยัดไฟเพิ่มขึ้น
เปิดตู้เย็น เมื่อจำเป็น และปิดให้สนิททุกครั้ง
ไม่ใส่ของจนแน่นตู้เย็นเกินไป
ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังด้านหลัง/ด้านข้างอย่างน้อย 15 เซนติเมตร
ช่วยระบายความร้อน และประหยัดไฟเพิ่มขึ้น
4.คอมพิวเตอร์
ใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็น หากเปิดทิ้งไว้วันละ 3 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น 22 บาท/เดือน
ควรเลือกใช้ที่มีสัญลักษณ์ Energy Star เปลี่ยนมาใช้โน้ตบุ๊คแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะประหยัดไฟได้ถึง 3 เท่า
คิดที่ชุดคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ พร้อมจอภาพ 24 นิ้ว
ใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็น หากเปิดทิ้งไว้วันละ 3 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น 22 บาท/เดือน
ควรเลือกใช้ที่มีสัญลักษณ์ Energy Star เปลี่ยนมาใช้โน้ตบุ๊คแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะประหยัดไฟได้ถึง 3 เท่า
คิดที่ชุดคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ พร้อมจอภาพ 24 นิ้ว
5.ทีวี
เลิกใช้ ต้องปิดสวิตช์ ถอดปลั๊ก
ปิดสวิตช์/ถอดปลั๊กทุกครั้ง เมื่อเลิกใช้งาน เพราะปุ่ม Stand by
กินไฟในบ้านแบบไม่รู้ตัว การปิดด้วยรีโมทคอนโทรล โดยไม่ถอดปลั๊ก
จะสิ้นเปลืองค่าไฟประมาณ 1.2 บาท/เดือน คิดที่ LED backlight TV
ขนาด 43 นิ้ว ปิดด้วยรีโมทคอนโทรล
19 ชั่วโมง/วัน
เลิกใช้ ต้องปิดสวิตช์ ถอดปลั๊ก
ปิดสวิตช์/ถอดปลั๊กทุกครั้ง เมื่อเลิกใช้งาน เพราะปุ่ม Stand by
กินไฟในบ้านแบบไม่รู้ตัว การปิดด้วยรีโมทคอนโทรล โดยไม่ถอดปลั๊ก
จะสิ้นเปลืองค่าไฟประมาณ 1.2 บาท/เดือน คิดที่ LED backlight TV
ขนาด 43 นิ้ว ปิดด้วยรีโมทคอนโทรล
19 ชั่วโมง/วัน
6.เตารีด
ไม่รีดผ้าในห้องแอร์ ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนัก สิ้นเปลืองค่าไฟ
ควรรีดผ้าครั้งละมาก ๆ และถอดปลั๊กก่อนรีดเสร็จ 2- 3 นาที ไม่ควรพรมน้ำให้เปียกชุ่มเกินไป
เตารีดขนาด 1,000 วัตต์ ใช้งาน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเสียค่าไฟเพิ่ม 12 บาท/เดือน
ไม่รีดผ้าในห้องแอร์ ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนัก สิ้นเปลืองค่าไฟ
ควรรีดผ้าครั้งละมาก ๆ และถอดปลั๊กก่อนรีดเสร็จ 2- 3 นาที ไม่ควรพรมน้ำให้เปียกชุ่มเกินไป
เตารีดขนาด 1,000 วัตต์ ใช้งาน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเสียค่าไฟเพิ่ม 12 บาท/เดือน
7.หลอดไฟ
เปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED ประหยัดพลังงาน
หลอด LED สามารถประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่น ๆ 50 - 75%
โดยเฉลี่ยแล้วมีอายุการใช้งานสูงสุด 50,000 ชั่วโมงหรือประมาณ 5 ปีขึ้นไป
เปลี่ยนหลอดไฟฟ้าทรงกลม 32 วัตต์ แทนด้วยหลอด LED 18 วัตต์ จำนวน 1 ดวง ใช้งาน 5 ชั่วโมง/วัน
จะประหยัดไฟลงได้ 14 บาท/เดือน
เปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED ประหยัดพลังงาน
หลอด LED สามารถประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่น ๆ 50 - 75%
โดยเฉลี่ยแล้วมีอายุการใช้งานสูงสุด 50,000 ชั่วโมงหรือประมาณ 5 ปีขึ้นไป
เปลี่ยนหลอดไฟฟ้าทรงกลม 32 วัตต์ แทนด้วยหลอด LED 18 วัตต์ จำนวน 1 ดวง ใช้งาน 5 ชั่วโมง/วัน
จะประหยัดไฟลงได้ 14 บาท/เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง