จี้รัฐยืดมาตรการหนุนบ้านมือสอง

 นพ.สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้บริโภคมีความสนใจที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์มือสองมากขึ้น คาดว่า ในปี 2553 หากไม่มีปัจจัยลบรุนแรง ตลาดน่าจะเติบโตได้อีก 25% จากที่ปี 2552 ก็มีการเติบโต 25% เช่นกัน หรือมีมูลค่า 4-5 หมื่นล้านบาท จึงเห็นว่ารัฐบาลควรขยายเวลามาตรการสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองด้วย

 ทั้งนี้ ภาครัฐควรให้การสนับสนุนบ้านมือสองต่อ โดยเป็นนโยบายระยะกลาง 3-5 ปี แทนการสนับสนุนระยะสั้นปีต่อปี หากมีการกำหนดเป็นมาตรการระยะกลางหรือยาว จะทำให้เกิดความคล่องตัวในธุรกิจดังกล่าว จากการนำบ้านเก่ามาปรับปรุงให้อยู่ในสภาพดีพร้อมอยู่อาศัย แล้วนำกลับเข้ามาขายใหม่ ซึ่งจะเกิดผลดีต่อตลาด 

 "ทุกวันนี้ภาครัฐให้ความสำคัญกับธุรกิจตัวแทนนายหน้าขายอสังหาฯ น้อยมาก หรือจะพูดว่าไม่มีเลยก็น่าจะถูก เห็นได้จาก พ.ร.บ.ตัวแทนนายหน้าที่เคยมีการผลักดันมาระยะหนึ่งก็เงียบหายไป หลังจากที่มีความรุนแรงทางการเมือง เมื่อเดือนกันยายน ปีที่ผ่านมา" นพ.สมศักดิ์ กล่าวและว่า พ.ร.บ.ตัวแทนและนายหน้าฯ มีความจำเป็นและสำคัญในการดำเนินธุรกิจมาก เนื่องจากในปีหน้าภาครัฐได้กำหนดให้ธุรกิจนายหน้าเป็นธุรกิจที่จะต้องอยู่ในความดูแลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วย