นักวิทย์ฯวอนภาครัฐเข้มงวด"รอดโควิด"แต่เสี่ยงเป็นมะเร็งเพราะแอลกอฮอล์เกรดต่ำ
นักวิทย์ฯเตือนใช้เอทิลแอลกอฮอล์เกรดน้ำมันเบนซินทำเจลฆ่าเชื้อ หวั่นมีสารพิษปนเปื้อน เป็นอันตรายกับประชาชน วอนภาครัฐเข้มงวด รอดโควิด แต่เสี่ยงเป็นมะเร็งเพราะแอลกอฮอล์เกรดต่ำ
แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 ในประเทศไทย พบตัวเลขการติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ควรวางใจ การป้องกันคนไทย ให้รอดจากไวรัสร้ายยังจำเป็น แต่ต้องระวังในบางเรื่อง
อ่านข่าว : สุดทน ท่าศาลาเกียร์ว่าง การ์ดไม่ตั้ง ปล่อย 32 เมียนมา เต็มไซต์ก่อสร้าง วัดไข้สูง 37.5 ถึง 6 คน
วันที่ 17 เมษายน 2563 - รศ.ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เปิดเผยว่า ทราบว่า ภาครัฐอนุญาตให้โรงงานผลิตเอทิลแอลกอฮอล์เกรดที่ใช้เติมในน้ำมันเบนชิน หรือเกรดพลังงาน เพื่อนำมาขายให้กับผู้ประกอบการนำไปใช้ในการทำน้ำยาฆ่าเชื้อในยุค วิกฤตโควิค-19 นั้น
"ผมรู้สึกตกใจมาก และอยากให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้ากำกับดูแล คัดเลือกเอทิลแอลกอฮอล์ที่จะทะลักออกมาในตลาดจำนวน เพื่อใช้ในการทำเจลและสเปย์แอลกอฮอล์เกรดเครื่องสำอาง ที่จะต้องสัมผัสกับผิวหนังประชาชนคนไทย ผมเคยตรวจสอบเอทิลแอลกอฮอล์ของโรงกลั่นแอลกอฮอล์เกรดพลังงาน ที่มีหอกลั่นเพียง 1-2 หอ พบว่ามีสารปนเปื้อน ไม่บริสุทธิ์ อย่างมาก หากนำออกมาโดยไม่คัดกรองโรงงานหรือจำนวนหอกลั่น จะส่งผลร้ายต่อประชาชน มากกว่าการส่งเสริมให้ใช้ในการกำจัดเชื้อโรค"รศ.ดร. วีรชัย กล่าว
อาจารย์อ๊อด
รศ.ดร. วีรชัย กล่าวอีกว่า เอทิลแอลกอฮอล์ตัวอย่างบางโรงงานนั้น มีกลิ่นแอลกอฮอล์น้อยมาก เมื่อตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ามีปริมาณ เมทิลแอลกอฮอล์สูงกว่ากำหนด ซึ่งเจ้าตัวเมทิลแอลกอฮอล์เป็นสารที่เป็นพิษต่อมนุษย์ อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ซ้ำร้ายบางตัวอย่าง มียาฆ่าแมลงปนเปื้อนออกมาด้วย เพราะการกลั่นแอลกอฮอล์ มาจากการหมักวัตถุดิบทางการเกษตร เช่น แป้งมันสำปะหลังและอ้อย ซึ่งมีการใช้ยาฆ่าแมลงมาก่อน
รศ.ดร. วีรชัย แนะนำว่า อยากให้ภาครัฐเข้ามาคัดเลือกควบคุมดูแลแบบเข้มงวด หากดูตัวอย่างโรงกลั่นแอลกอฮอล์ระดับเกรดอาหารนั้น หอกลั่นต้องอย่างน้อย 5 หอขึ้นไป เช่นขององค์การสุรา ที่มีถึง 7 หอกลั่น ซึ่งจะได้แอลกอฮอล์ที่สะอาดบริสุทธิ์ปลอดภัยสำหรับประชาชน ที่ต้องการใช้เจลและสเปย์แอลกอฮอล์จำนวนมาก
ทั้งนี้ การผลิตแอลกอฮอล์ระดับ Food Grade และ Pharmaceutical Grade ที่มีความบริสุทธิ์ 95% ขึ้นไป จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน ตามมาตรฐานสากลในระดับอาหาร (Food Grade) ดังต่อไปนี้คือ
1. ต้องได้รับการอนุญาตผลิตอาหาร (แบบ อ.2) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
2. ต้องได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร (แบบ อ.18) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
3. ต้องได้มาตรฐาน GMP Pharmaceutical Product Certification และ
4. ต้องได้มาตรฐาน HACCP Certification เป็นอย่างน้อย
5.นอกจากนั้น คุณภาพโรงผลิตควรได้รับมาตรฐานสากลอื่นเช่น ISO14000:2015 Certification, ISP9001:2015 Certification หรือ Kosher Certification เป็นต้น
6.รวมถึงควรได้รับการตรวจสอบการรับรองมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ใช้ในทางเภสัชกรรม จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.640) ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพในการใช้ทำน้ำยาฆ่าเชื้อช่วยประชาชนคนไทยในช่วง วิกฤตโควิค-19