เหยื่อสาว ร้องตร.โชคชัย หลังถูกหลอกโอน 4 แสน ค่าหน้ากากอนามัย
(CR)เหยื่อสาว ร้องตร.โชคชัย หลังถูกหลอกโอน 4 แสน ค่าหน้ากากอนามัย
โดย กิตติพงษ์ มณีฤทธิ์
สาวร้องทุกข์ ตำรวจ สน.โชคชัย หลังถูกบริษัทหลอกขายหน้ากากอนามัย 3 หมื่น 5 พันชิ้น โอนเงิน 4 แสนบาทแล้วกลับไมไ่ด้รับสินค้า พบประวัติถูกดำเนินคดีฉ้อโกงมาแล้ว มูลค่ากว่า 100 ล้าน
เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 23 มีนาคม ผู้เสียหาย 2 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจนครบาลโชคชัย ให้ดำเนินคดีกับบริษัทอาหารเสริมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ที่มีนางสาวอัม(นามสมมุติ) เป็นเจ้าของ ในข้อหาฉ้อโกง หลังถูกหลอกขายหน้ากากอนามัย 3 ชั้น นำเข้าจากประเทศเวียดนาม จำนวน 35,000 ชิ้น มูลค่าเกือบ 4 แสนบาท
ผู้เสียหาย เผยว่า ตนเองได้รับการติดต่อจากบริษัทแห่งหนึ่งให้ช่วยหาหน้ากากอนามัยจำนวน 35,000 ชิ้น เพื่อนำไปบริจาค จนตนเองไปพบนายหน้าประกาศขายหน้ากากอนามัยผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เมื่อติดต่อไปก็ได้รับคำแนะนำให้ซื้อจากบริษัทดังกล่าว ซึ่งเจ้าของบริษัทก็มีการถ่ายรูป และคลิปวิดีโอโกดังสินค้า ซึ่งมีหน้ากากอนามัยจำนวนมากมาให้ ทำให้มั่นใจว่ามีสินค้าจริง และได้ทำสัญญาซื้อขายกันที่บริษัทย่านโชคชัย 4 ในราคาชิ้นละ 11.35 บาท จำนวน 35,000 ชิ้น มูลค่าเกือบ 4 แสนบาท โดยโอนเงินเต็มจำนวน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา และนัดส่งมอบในวันที่ 13 มีนาคม แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมส่งหน้ากากให้หลายต่อหลายครั้ง อ้างว่าอยู่ระหว่างการฆ่าเชื้อหน้ากาก และเจ้าของบริษัทถูกกักตัวอยู่ที่ประเทศเวียดนามเป็นเวลา 14 วัน ทำให้ไม่สามารถส่งหน้ากากให้ได้ ผ่านไปหลายวัน ตนเองก็ขอเงินคืน เพราะเงินที่จ่ายเกือบ 4 แสนบาท เป็นเงินของตนเอง และเมื่อไม่มีหน้ากากอนามัยไปส่ง ก็ยังไม่สามารถทำเรื่องเบิกเงินได้ ทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินกินข้าว แต่ทางเจ้าของบริษัทนี้ กลับไม่ยอมคืนเงินให้
จนกระทั่งวันที่ 20 มีนาคม ตนเองตัดสินใจค้นข้อมูลของบริษัทดังกล่าว ในอินเทอร์เน็ต พบประวัติว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทนำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากต่างประเทศที่เคยถูกผู้เสียหายอีกกลุ่มเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจกองปราบปราม ในข้อหาฉ้อโกง มูลค่ากว่า 100 ล้านเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ด้าน พันตำรวจเอกพรทวี สมวงค์ ผู้กำกับการตำรวจนครยาลโชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายและตรวจสอบข้อมูล พบว่า พื้นที่เกิดเหตุที่ผู้เสียหายไปทำสัญญาอยู่ที่ซอยลาดพร้าว 101 พื้นที่ สถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว ไม่ใช่ซอยโชคชัย 4 แยก 76 ตามที่ปรากฎในสัญญา ดังนั้นตำรวจนครบาลโชคชัย จะทำการสอบปากคำไว้ ก่อนจะประสานตำรวจนครบาลลาดพร้าว ท้องที่เกิดเหตุเข้าตรวจสอบบริษัทดังกล่าวต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง