ข่าว

จับร้านอาหารเมืองนนท์ เปิดนั่งกินท้าทายคำสั่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จนท.บุกจับร้านอาหารรลักลอบเปิดบริการฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าฯ ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด โทษปรับไม่เกิน 1 แสน คุกไม่เกิน 1 เดือน ขณะที่ชาวเน็ตถล่มเละวัยรุ่นปาร์ตี้ชายหาดชลบุรี ด้าน "นายกตุ้ย" โร่แจงไม่มีอำนาจสั่งปิด โยนผู้ว่าฯ จัดการ

          วันที่ 22 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาส ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ นายไกรธวัช ทินโสม นายอำเภอเมืองนนทบุรี นายก่อพงษ์ จันทน์ชุ่ม ปลัดอำเภอเมืองนนทบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจเอกซเรย์เพื่อติดตามผลจากการประกาศและบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามประกาศเรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว

          ทั้งนี้เป็นการสั่งปิดสถานที่ที่มีการชุมนุมของประชาชน ตามมติคณะรัฐมนตรี และ ประกาศเรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 2) ซึ่งเป็นการสั่งปิดสถานที่ที่มีการจำหน่าย จ่าย แจก สุรา เพื่อดื่มกินในสถานที่นั้น ตลอดจน กฎหมายสถานบริการ กฎหมายสุรา พ.ร.บ.ควบคุมโรค ฯลฯ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

 

 

 

          จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ร้านปาเต๊ะ ถนนเลี่ยงเมือง ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ยังเปิดให้บริการ และมีการจำหน่ายสุราให้แก่ผู้ดื่มอยู่ภายในร้าน จึงดำเนินการควบคุมตัวนายสิทธิชัย ชูประสิทธิ อายุ 28 ปี ซึ่งแสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้านในข้อหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดนนทบุรี เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวฉบับที่ 2 ส่ง สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมผู้ฝ่าฝืนรายแรกของ จ.นนทบุรี หลังมีการประกาศจากจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้ควบคุมตัวนำส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป

          ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์แชร์ภาพกลุ่มวัยรุ่นพากันมารวมกลุ่มสังสรรค์ริมหาดวอนนภา อ.บางแสน จ.ชลบุรี และไม่ได้มีการสวมใส่แมสก์กันแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการอย่างเข้มงวดด้วย 

          ล่าสุดนายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า "จากตามโพสต์ต่างๆ ที่แชร์กัน โลกโซเชียลมีเดียต่างๆ เมื่อคืนนี้ครับ ก่อนอื่นผมในฐานะผู้บริหารต้องขออภัยที่ทำให้ทุกๆ ท่านที่ทราบข่าวหรือผ่านไปเห็น ต้องเป็นกังวลครับ แต่ขอชี้แจงตามอำนาจหน้าที่ก่อนครับ หากแต่อำนาจหน้าที่ของผมมีจำกัดและไม่ได้จะโยนความรับผิดชอบไปยังหน่วยงานอื่นแต่อย่างใดนะครับ

          ผมได้โทรศัพท์หาท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางจังหวัดได้เรียกประชุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ได้เฉพาะบางแสน แต่ทั่วทั้งจังหวัดชลบุรีที่มีที่สาธารณะที่มีคนชุมนุมกันครับ และเทศบาลจะทำประกาศพร้อมป้ายแจ้งห้าม และขอความร่วมมือในการยกเลิกการชุมนุมบริเวณชายหาดสาธารณะตลอดแนว และแจ้งผู้ประกอบการให้เลิกประกอบกิจการตามกำหนดเวลาอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งมาตรการป้องกันควบคุมโรคในการทำความสะอาดสถานที่ และภาชนะใส่อาหาร และให้รถสายตรวจออกตรวจตลอดเวลา และหากจำเป็นอาจประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการ ปิดถนนบางช่วงบางตอนต่อไปครับ

          ขออนุญาตทำความเข้าใจครับ ว่าอำนาจในการปิดหาดหรือพื้นที่สาธารณะ เป็นของกระทรวงมหาดไทย โดยจังหวัดจะเป็นผู้ออกกฎและทำประกาศ หากมีความจำเป็นครับ ทางท้องถิ่นเป็นผู้รับคำสั่ง และปัจจุบันเทศบาลจะใช้มาตรการบิ๊กคลีนนิ่งเป็นสถานที่สาธารณะครับ และการปิดหาดที่ได้ผลจะต้องมีการปิดการจราจรทุกเส้นทางและการคัดกรอง ซึ่งการปฏิบัติต้องเป็นประกาศเป็นกฎหมาย

          จึงเรียนมาเพื่อโปรดทำความเข้าใจครับ และขอความร่วมมือจากทุกๆ คนครับ หันมาช่วยกันลดความเสี่ยงโดยการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนดีกว่าโทษกันไปกันมา ตอนนี้ประเทศเราต้องการความร่วมมือและความสามัคคีครับ ขอบคุณทุกความห่วงใยและความหวังดีครับ ผมขอน้อมรับทุกคำตำหนิ และข้อแนะนำของทุกท่านครับ จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ"

 

 

 

 

          ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 มีนาคม กรมราชทัณฑ์และสำนักงานศาลยุติธรรมจะลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศโดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ และนำระบบดิจิทัลใช้ปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาและจำเลย รวมถึงการบริหารโทษผู้ต้องขังและการรักษาความปลอดภัยในเรือนจำ โดยความร่วมมือนี้จะครอบคลุมการเชื่อมโยงฐานข้อมูลในระบบของกรมราชทัณฑ์ รายงานการส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้พิจารณา การส่งและรายงานผลตามหมายอาญา เป็นต้น ผ่านการประชุมทางจอภาพ (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) โดยการทำข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวจะลดปัญหาต่างๆ อาทิ ผู้ต้องขังหลบหนีระหว่างนำตัวไปขึ้นศาล รวมถึงเป็นการป้องกันการรับเชื้อไวรัสโควิด-19 ของนักโทษด้วย

          สำหรับสาระสำคัญของข้อตกลงความร่วมมือ นอกจากเพื่อเชื่อมโยงและพัฒนาระบบการอำนวยความยุติธรรม ไปพร้อมกับการพัฒนาด้านระบบของข้อมูลภายใต้เทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว ยังร่วมมือพัฒนาระบบดังกล่าวต่อเนื่อง และคำนึงถึงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลในระบบที่เชื่อมต่อกันอย่างเคร่งครัดด้วย การยกระดับดังกล่าวนอกจากจะพัฒนาระบบการอำนวยความยุติธรรมให้ทันสมัยแล้ว สิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาและจำเลยยังได้รับการคุ้มครอง ส่วนที่กังวลว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะรั่วไหลและทำให้ผลการอำนวยความยุติธรรมตามกฎหมายเปลี่ยนแปลง ขอให้มั่นใจว่าข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวให้ความสำคัญกับการรักษาความลับ ไม่ใช้ประโยชน์ในทางอื่นยกเว้นได้รับความยินยอมเป็นหนังสือของ 2 หน่วยงานร่วมกันและจะเริ่มปฏิบัติได้ทันที

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ