ข่าว

"นายกฯ แคนาดา" กักตัว 14 วัน หลังภริยาติดเชื้อไวรัส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รมว.มหาดไทยออสซี่ติดเชื้อป่วยด้วย ด้านอิตาลีดับทะลุ 1 พันราย ป่วยกว่า 1.5 หมื่นคน ปธน.ฟิลิปปินส์สั่งปิดกรุงมะนิลา

               เมื่อวันที่ 13 มีนาคม สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา และนางโซฟี เกรกัวร์-ทรูโด ภริยา เริ่มกักตัวเองเพื่อดูอาการ โดยนางโซฟีแสดงอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่แบบอ่อนๆ เมื่อวันพุธ(11 มี.ค.) หลังเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ

 

 

 

               ทั้งนายทรูโดและภริยาต้องทำงานจากบ้านตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งนี้ผลตรวจล่าสุดของภริยานายทรูโดพบว่าติดเชื้อโควิด-19 สำหรับนายกฯ ทรูโดยังไม่แสดงอาการป่วยใดๆ และนับจนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยโควิด-19 ในแคนาดา 117 คน เสียชีวิต 1 คน

               ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมองโกเลียเพิ่งกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หลังจากเดินทางเยือนจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

               ด้านกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย แถลงว่า นายปีเตอร์ ดัตตัน รมว.มหาดไทยของออสเตรเลีย ได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถือเป็นคนแรกในคณะรัฐมนตรีของออสเตรเลียที่ติดเชื้อ โดยเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐควีนส์แลนด์ ก่อนหน้านี้เพิ่งเดินทางไปร่วมประชุมด้านความมั่นคงของกลุ่มประเทศไฟว์อายส์ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา และเดินทางจากบริสเบนไปยังนครซิดนีย์ เพื่อร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรี สก็อต มอร์ริสัน เมื่อวันอังคาร (10 มี.ค.) ที่ผ่านมา

               ส่วนกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี รายงานว่าในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 189 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,016 รายแล้ว ขณะที่มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่อีก 2,651 คน รวมมีผู้ป่วยสะสม 15,113 คน ถือเป็นการรายงานสถิติรายวันสูงสุดอีกครั้ง นับตั้งแต่มีการยืนยันพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม ขณะที่จำนวนผู้หายป่วยมีเพียง 1,258 คน ในกลุ่มผู้ป่วยใหม่ยังมี มาโนโล แก๊บเบียดินี กองหน้าวัย 28 ปี ของซามพ์โดเรีย ซึ่งเป็นนักเตะรายที่ 2 ในกัลโช เซเรีย อา ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ ต่อจาก ดานิเอเล รูกานี กองหลังของยูเวนตุส ซึ่งทางสโมสรต้นสังกัดแจ้งว่า ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการเฝ้าระวังด้วยการแยกผู้ติดเชื้อออกจากทีมแล้ว

               วันเดียวกัน นายเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำของฝรั่งเศส แถลงอย่างเป็นทางการผ่านทางโทรทัศน์เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดว่า นี่คือวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 100 ปี และสุขภาพเป็นประเด็นสำคัญลำดับต้นของฝรั่งเศส ทางรัฐบาลจึงต้องออกมาตรการปกป้องกลุ่มเสี่ยง ประกอบด้วย ขอให้บุคคลที่มีอายุมากกว่า 70 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัวและคนพิการ หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านและจำกัดการพบผู้คน และสั่งปิดโรงเรียนทุกระดับชั้น รวมทั้งมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อควบคุมโควิด-19 รวมทั้งขอความร่วมมือให้พนักงานทำงานจากบ้านเท่าที่สามารถกระทำได้ ขณะที่ยังคงให้บริการระบบขนส่งสาธารณะตามปกติ แต่ขอให้ประชาชนมีความรับผิดชอบต่อสังคมและจำกัดการเดินทาง

               มีรายงานแจ้งว่า ทางการสเปนตัดสินใจปิดเมือง 4 แห่งในแคว้นกาตาลุญญา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยให้อยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรคตั้งแต่วันพฤหัสบดี(12 มี.ค.) ถือเป็นครั้งแรกของประเทศนี้ ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดและภายใต้มาตรการกักกันนี้ ชาวบ้านกว่า 66,000 คนในเมืองอิกัวลาดา โอเดนา ซานตามาร์การิดา เดมอนต์บุย และวิลาโนวาเดลคามิ ยังคงออกจากที่พักอาศัยได้ แต่ไม่สามารถออกจากใจกลางเมืองได้ ทั้งนี้สเปนพบผู้ติดเชื้อ 2,968 ราย เสียชีวิต 84 ราย ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เบลเยียมได้สั่งปิดโรงรียน ยกเลิกกิจกรรมวัฒนธรรม ปิดบาร์และร้านอาหาร เช่นเดียวกับโปรตุเกสที่ระงับการเรียนการสอนทั้งประเทศ

               สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ประกาศยกระดับมาตรการป้องกันไวรัสโดยการจำกัดการเดินทางทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศภายในประเทศของกรุงมะนิลา ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 12 ล้านคน มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม-14 เมษายนนี้ นอกจากนี้อนุมัติให้โรงเรียนในกรุงมะนิลา ปิดเรียนเป็นเวลา 1 เดือน ห้ามไม่ให้มีการชุมนุม และห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าประเทศ หลังพบผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 52 คน เสียชีวิต 5 คน

               มีรายงานสถานการณ์ไวรัสระบาดไปแล้วหลายประเทศ ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก 4,973 คน ผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 134,681 คน รักษาหายแล้ว 69,142 คน โดยในจีน ทั้งยอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อสะสม เพิ่มขึ้นเพียงเลขหลักเดียวเป็นครั้งแรก โดยผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเพียง 1 คนเท่านั้นเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,170 คน ส่วนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพียง 4 คน ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในจีนอยู่ที่ 80,797 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตนอกจีนทั้งหมด 1,803 คน ใน 39 ประเทศ ผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดนอกจีน 53,884 คน

               สำหรับประเทศที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดนอกจีน อันดับหนึ่งคือ อิตาลี อันดับ 2 คืออิหร่าน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 1,075 คน เป็นทั้งหมด 10,075 คน ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 75 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในอิหร่านเพิ่มเป็น 429 คน และอันดับ 3 เกาหลีใต้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นมากอีกครั้ง หลังจากที่ลดจำนวนลง โดยล่าสุดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเกาหลีใต้เพิ่ม 224 คน เป็นทั้งหมด 7,979 คน ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 7 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเป็น 67 คน

               ด้านกระทรวงเกษตร ประมง และการอนุรักษ์ของฮ่องกง แถลงว่า สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนที่ถูกกักตัวเนื่องจากสงสัยว่าจะมีไวรัสโควิด-19 มีผลการตรวจออกมาเป็นลบ หมายถึงไม่พบเชื้อ ทำให้คลายความวิตกกังวลเรื่องความเป็นไปได้ในการแพร่เชื้อจากสัตว์สู่มนุษย์ อย่างไรก็ตาม สุนัขตัวดังกล่าวซึ่งเป็นของผู้ป่วยโควิด-19 จะยังต้องได้รับการตรวจซ้ำอีกครั้งก่อนจะถูกปล่อยออกมา ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (ฮู) ระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานว่าสัตว์เลี้ยงสามารถติดไวรัสโควิด-19 ได้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสัตว์ฮ่องกงที่ตรวจสุนัขตัวดังกล่าวเผยว่า บรรดาเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรกังวลมากจนเกินไป

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ