ข่าว

ปิดแล้วทั่วประเทศศูนย์กักโควิด-19 ให้เฝ้าระวังที่บ้านแทน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เทวัญ รับปิดศูนย์กักกันโรคของรัฐทั่วประเทศ ให้กลุ่มเสี่ยงกักตัวที่บ้านแทน  ด้านสาธารณสุขใช้มาตรฐานเดียวกับ  WHO 

 

11  มีนาคม 2563 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19   

อ่านข่าว ไม่ใช่แต่ใกล้เคียง"ผ้าฝ้ายมัสลิน"มหัศจรรย์กันเชื้อโรค

แถลงสถานการณ์ประจำวัน ในกรณีเจ้าของร้านอาหารที่ตึกออลซีซันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเจ้าตัวเดินทางกลับมาตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์  และขณะนี้ยังไม่มีการปิดตึก พนักงานยังคงทำงานตามปกติ ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่กักตัวยังบ้าน มีประชาชนจำนวนหนึ่งยังไม่เข้าใจ กลุ่มดังกล่าวเป็นเพียงการเฝ้าระวัง มีกลุ่มราชการดูแลอย่างเต็มที่ อยากให้ประชาชนให้กำลังใจในฐานะคนไทย  และเรื่องการตั้งกองทุนเงินบริจากช่วยเหลือของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมียอดบริจากปัจจุบัน  3,100,668 บาท 

 

ด้านนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ  ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นชาวสิงคโปร์ อายุ 36 ปี โดยทีมสอบสวนโรค มีความสัมพันธ์กับกลุ่มเสี่ยง อีก 84 คนที่สัมผัสได้มีการติดตามทั้งหมด ซึ่งผลการตรวจทั้งหมดออกมาเป็นลบ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่มีการปิดร้านเพื่อทำความสะอาด อากาศในประเทศไทยไวรัสอยู่ในอากาศได้เพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น การทำความสะอาดปกติเพียงพอ ขอประชาชนอย่ากังวลไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้  ยืนยันไม่มีความเสี่ยง 

 

ในส่วนของหน้ากากอนามัยสำคัญกับ บุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยง ผู้ป่วย ส่วนหน้ากากผ้า กระทรวงสาธารสุขโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์วิจัยพบว่า หน้ากากผ้าสามารถใช้ทดแทนหน้ากากทางการแพทย์ได้ สิ่งสำคัญคือต้องหมั่นล้างมือและเมื่อพบว่ามีอาการป่วยควรหยุดอยู่บ้าน

 

ทั้งนี้ยังมีการชี้แจงถึงการออกหนังสือของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยยืนยันว่าการแพร่ระบาดยังอยู่ในระยะที่ 2 พร้อมชมกระทรวงมหาดไทยที่ออกประกาศดังกล่าวออกมาเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ระยะที่ 3 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  

 

 

พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในสถานการณ์มีบางคนบางกลุ่มเอาเปรียบ หรือสร้างความตระหนก ย้ำ ตร.200000 นายพร้อมทำหน้าที่และสนับสนุนงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยที่ผ่านมามีการจับกุมผู้ที่ลักลอบจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจับกลุ่มได้ทั้งสิ้น 70 รายผู้ต้องหา 13 รายของกลางหน้ากากอนามัยจำนวน 104,271 ชิ้นคิดเป็นมูลค่า 1,290,997 บาท โดยในจำนวนนี้เป็นการจับกุมหน้าร้าน 61 รายและจับกุมการขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ 9 พร้อมเตือนประชาชนที่ต้องการซื้อของออนไลน์ ควรเลือกเพจที่น่าเชื่อถือ รวมถึงการเก็บหลักฐานข้อมูลไว้ทั้งหมด เพื่อแจ้งความดำเนินคดี 

 

นอกจากนี้ยังมีการจับกุมผู้ที่โพสต์ส่งต่อข่าวปลอมหรือ Fake News สร้างความตระหนกให้แก่ประชาชนในสังคมรวม 6 คดีผู้ต้องหารวม 9 คน ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จหรืออาจสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน พร้อมกับยืนยันว่ากองปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี ร่วมกับหลายภาคส่วน หากพบข้อมูลที่ไม่น่าเชื้อถืออย่าแชร์ 

 

นอกจากนี้เพิ่มความเข้มในการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ โดยใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมดทั้งสนามบินและด่านชายแดน ส่วนการกักตัวเองอยู่บ้าน เนื่องจากตำรวจอยู่ทุกพื้นที่จึงพร้อมทำงานบูรณาการร่วมกับสาธารณสุข

 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนายการเศรษฐกิจการคลัง และโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า ผลกระทบไปถึงภาคการผลิต ซึ่งมีการออกมาตรการช่วยเหลือ 14 มาตรการ อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ จัดตั้งโครงการรีไฟแนนซ์สินเชื่อ ให้มีอัตราดอกเบี้ยต่ำลง / มาตรการด้านค่าไฟฟ้า คืนเงินประกันมิเตอร์ ลดค่าFT 3เดือน และรอบบิลเดือนเมษายน-พฤษภาคม สามารถยืดเวลาจ่ายได้อีก 6 เดือน /ผู้ประกันเงินที่ถูกหักทั้งนายจ้างและถูกจ้าง ปรีบลดจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 4 /นอกจากนี้รัฐบาลเตรียมเงิน 20,000 ล้าน เยียวยา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอมาตรการขึ้นมา /กระทรวงการคลังพร้อมออกมาตรการที่เหมาะสมออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน 

 

ส่วนกระแสข่าวการปิดศูนย์กักกันโรคทั้งหมดของรัฐ โดยให้ไปกักตัวที่บ้าน นั้น นายเทวัญ ยอมรับว่ามีการปิดศูนย์กักกันของรัฐบาลทั้งหมด ให้กักตัวที่ภูมิลำเนา  โดยมีแพทย์ประจำตำบล และหน่วยปกครองเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เหตุผลหลักคือเป็นมาตรฐานของทุกประเทศแต่ต้องให้ความรู้กับครอบครัวว่าต้องดูแลตัวเองอย่างไร ปฏิบัติตนตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ

 

นายแพทย์รุ่งเรือง ระบุถึงระบาดวิทยา ว่า  สิ่งที่ทำทำตามมาตรฐานวิชาการขององค์การอนามัยโลก โดยแยกความเสี่ยงสูงหรือความเสี่ยงน้อย หากเสี่ยงสูงไม่มีถิ่นที่อยู่ศูนย์ใหญ่จะยังคงอยู่ ซึ่งคนส่วนใหญ่ทำได้ดี แต่มีส่วนน้อยที่ทำไม่ได้  สิ่งที่แนะนำ 4 ข้อคืออยู่ในที่ที่เหมาะสม ไม่ออกนอกพื้นที่ ประพฤติเหมาะสมหรือไม่ ติดต่อได้ทุกวัน มีระบบสารสนเทศ หากไม่สบายให้แจ้งได้ตลอดจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล หากไม่ทำตามถือมีความผิด ด้านแอพลิเคชั่นในการติดตามของกระทรวงสาธารณสุข บูรณาการข้อมูลกันทั้งหมดที่สามารถวิเคราะห์ทำได้

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ