ส.ว. ขอทุกภาคส่วนร่วมเยียวยา เหยื่อทหารคลั่ง

 

 

          เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2563 - นางประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา กล่าวยอมรับว่า รู้สึกเศร้าสลดและเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว ญาติพี่น้อง ของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกว่า 50 ราย จากโศกนาฏกรรม จ่าทหารกราดยิงประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา แม้ผู้ก่อเหตุจะถูกวิสามัญเสียชีวิตไปเเล้วก็ตาม แต่มิอาจเทียบได้กับความสูญเสียของผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งมิอาจประเมินค่าได้

 

 

          อีกทั้งห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นสถานที่สาธารณะกลายเป็นสถานที่ที่ไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วย โดยก่อนหน้านี้ห้างสรรพสินค้าที่ลพบุรีก็มีการปล้นทอง และกราดยิงโดยมีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน รัฐบาลเเละทุกภาคส่วนของสังคมต้องคอยดูเเลสภาพจิตใจ และเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย

 

         นางประภาศรี กล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกต 3 ประการเพื่อป้องกันเหตุร้ายในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกคือ 1.บุคคลในเครื่องแบบทหารและตำรวจที่มีอาวุธในครอบครองจะต้องไม่กระทำการที่สร้างความขัดแย้งไม่พอใจเกิดความเก็บกด และกลายเป็นความคับแค้นใจต่อกัน ในเรื่องที่เกี่ยวกับการไม่ได้รับความเป็นธรรมในหน้าที่การงาน การคดโกง ชู้สาว การกลั่นแกล้ง การพูดจาดูถูกเหยียดหยาม การท้าทายต่างๆ เป็นต้น 

 

          2.ผู้บังคับบัญชาควรตรวจสอบชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้ใต้บังคับบัญชาว่ามีปัญหาเดือดร้อนในเรื่องใดหรือไม่ รวมไปถึงการสังเกตความผิดปกติทางด้านจิตใจ เพราะอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่การคิดสั้นโดยขาดสติและความยั้งคิด เช่น การฆ่าล้างครัวเพื่อหนีหนี้ หรือการฆ่าผู้บังคับบัญชา  

 

          3.ครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้ ควรได้รับการช่วยเหลือเยียวยา ค่าทำขวัญเป็นพิเศษ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เรียกร้องก็ตาม  เงินดังกล่าวนี้เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาของลูก และการดำเนินชีวิตของครอบครัว 

 

 

          ทั้งนี้ผู้ที่จะหยิบยื่นน้ำใจในส่วนนี้ได้เช่น ห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ หน่วยงานรัฐ พลเมืองดี เป็นต้น 

 

         "โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญช็อคโลกครั้งนี้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของไทยอย่างมาก เราควรใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส แสดงออกถึงน้ำใจคนไทยที่มีความรักความห่วงใยและช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้ชาวต่างชาติทั่วโลกได้รับรู้ว่าในยามทุกข์โศก คนไทยไม่ทิ้งกัน" นางประภาศรี กล่าว